Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving

***เคสแบตเตอรี่*** จุดเล็กๆที่ไม่ควรมองข้าม

<< < (4/8) > >>

พี่โต้ง Tongsom:

--- อ้างจาก: พี่อ็อด Pentium4 ที่  8 เมษายน 2014, 10:36:29 ---หาช่องทางแหกได้ตลอดเวลา ปามาเนีย 555  :sd42:

--- End quote ---


สมช. เว็บนี้ เป็นอมตะครับ พี่อ้อด

เหมือนในหนัง แหกแล้ว แผลหายเลย

พี่เจมส์:
.

ขอบคุณคับพี่อ๊อด สำหรับความรู้ เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย …
ที่สมาชิกหลายๆ คนอาจมองข้าม
.

พี่อิฐ:
ขอบคุณพี่อ๊อด สำหรับความรู้เรื่องเคสแบตฯครับ   :sd23:
แบต ฯ ติดรถผมลูกเล็ก ปัจจุบันตอนนี้เปลี่ยนเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเหมือนกัน
ตอนนี้ปล่อยโล่งไม่มีอะไร รองแต่แบตฯ ผมเป็นแบบแห้ง
ว่าแต่ part number ขนาดที่ใหญ่ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คือ MN179221T  ใช่มั๊ยครับ  ;D

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: พี่อ็อด Pentium4 ที่  7 เมษายน 2014, 23:15:06 ---ในรถ Pajero Sport ที่ขายในไทยแต่ละคัน มิตซูจะเลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์อยู่ 2 ขนาด อย่างใดอย่างนึงครับ
มีขนาด 80D26L และ 95D31L
ซึ่งจะใช้แบบไหน ก็แล้วแต่ทางมิตซูครับ ว่าจะใส่รุ่นไหนมาให้กับรถแต่ละรุ่น
แต่ดูง่ายๆก็คือ เป็นแบตลูกเล็ก กับแบตลูกใหญ่

*** ส่วนใหญ่ที่ผมเห็น จะเป็นแบตลูกใหญ่ซะหมด รถเว้นรถของพี่ๆและของผม ที่เป็นรุ่นปี 2010 ที่ผมคาดว่าถูกลดต้นทุน ด้วยการใส่แบตลูกเล็กมาให้ ***


--- End quote ---

มาเพิ่มข้อมูลของพี่อ๊อด ต่อเนื่องเรื่องแบตลูกที่ 2 คืออะไร


--- อ้างจาก: พี่อ็อด Pentium4 ที่  8 กุมภาพันธ์ 2013, 12:58:27 ---ผมมาขอเพิ่มเติมข้อมูลให้นะครับ โดยจะพูดถึงรถตัวส่งออกรุ่นที่มีแบต 2 ลูก



โดยมีขนาด 55A 2 ลูก รวมเป็น 110A และตามที่ดูวงจรแล้ว ก็ต่อขนานกันธรรมดา ไม่มีอุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม
ซึ่งก็คือวิธีการต่อพ่วงแบต 2 ลูกโดยทั่วไป






แต่สิ่งที่ต่างกันคือ
  ผมอยากให้พี่ๆที่มีควมรู้ ช่วยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ  :L4399:

- หากขนาดเล็ก จะชาร์ททันกับการใช้งานมั้ย จึงทำให้ต้องซื้อเครื่องชาร์ทมาใช้ชาร์ทในบ้าน ?

- หากขนาดใหญ่ความหนืดการหมุนปั่นก็มากขึ้น กินแรงเครื่องยนต์มากขึ้น ?

--- End quote ---

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: พี่อ็อด Pentium4 ที่  8 เมษายน 2014, 10:34:56 ---เรืองแบตนี่คงต้องให้ผู้รู้หรือพี่ๆแนะนำครับ
ไม่แน่ใจว่าพี่นะเคยเขียนเรื่องการเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ไปแล้วหรือยัง


--- End quote ---

ที่เคยแชร์ไว้นานแล้ว  ประมาณนี้ครับ

ผมขอเสริมข้อมูลแล้วกันครับและขออธิบายแบบน่าจะเข้าใจง่ายๆ 

**แบตที่ผมเข้าใจมีอยู่ 3 แบบ     คือ

1. แบบธรรมดาเติมน้ำกลั่นและดูแลปกติทั่วไป   เหมาะกับการใช้งานประจำอยู่ในห้องเครื่อง,ให้กระแสที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป
*หากจะเปลี่ยนแบตครั้งต่อไป สามารถเปลี่ยนให้สูงกว่าเดิมได้ประมาณ 25-35% จากเดิมเช่น 65-75ไปเป็น85-95แอมป์(โดยที่ไดชาร์ท ยังทำงานได้ดี)

2. แบบกึ่งแห้งสังเกตุดูได้จากสีของจุกเติมน้ำกลั่น(จะมีสีเฉพาะรุ่นอยู่)   บางรุ่นหัวจม  บางรุ่นมีเทปปิดจุกอยู่  บางรุ่นมีจุกแดง แบตแบบนี้จะใช้น้ำยาผสมเฉพาะ  ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้ดีกว่าแบบแรก,ลดการดูแลเติมน้ำกลั่น (แต่ควรตรวจสอบปริมาณน้ำกลั่นบ้างทุก  6 เดือน หรือ 10 เดือน)

3. แบบแห้ง    ก็คือแบตที่มีน้ำยาผสมมาเลยแบบปิดทึบ   จึงให้กระแสไฟที่แรง สม่ำเสมอตามรุ่นและคุณสมบัติเฉพาะรุ่น  บางรุ่นมีรับรองเรื่องการจ่ายกระแสที่เรียบ  เหมาะกับเครื่องไฟฟ้าในรถที่ต้องการคามเสถียรของระบบไฟที่ดี   ไม่ต้องดูแลเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน  หากเก็บรักษาดี  อาจอยู่ถึง 20-24เดือน    (ความร้อนจากห้องเครื่องและการชาร์ท มีผลต่อการเสื่อมสภาพของแบตประเภทนี้มาก)   ในรถบางรุ่นที่ใช้จะนิยม  ย้ายออกจากห้องเครื่องไปไว้ในห้องโดยสาร   จึงมีราคาค่อนข้างสูงตามคุณลักษณะเฉพาะ    แบตประเภทนี้มีค่าจ่ายไฟชั่วขณะที่สูงมาก CCA ( CCA BATT หาอ่านได้จาก google) เหมาะกับ load ที่กินกระแส peak เยอะกว่าปกติเช่น  ไดร์สตาร์ท   POWER Amp Class D , Power amp เครื่องเสียงเกรดดีๆ , และอุปกรณ์ที่มี Load RLC เยอะๆ       แบตประเภทนี้มีราคาสูงและมีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบตชนิดเปียกเติมน้ำกลั่นธรรมดา  แต่แบตชนิดนี้ให้ประสิทธิภาพต่อเรื่องกระแสไฟฟ้าที่ดีมากๆสำหรับการใช้งานรถสมัยใหม่ที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์ควบคุมเป็นส่วนใหญ่  ฉะนั้นระหว่างการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพกับช่วงเวลา10-18เดือน   กับการใช้งานที่พอใช้ได้แต่ไม่เต็มประสิทธิภาพแต่อยู่ได้นานกว่าถึง 24-30 เดือน นั้น  เจ้าของรถต้องเลือกพิจารณาเอาเองว่า  แบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะรถแต่ละคันหรือบุคคลแต่ละคนมากกว่า  ราคาที่กำหนด


สรุป

**อายุแบตทั้ง 3 รุ่น  สามารถใช้งานได้เกิน 12 เดือน และอาจจะมากกว่า 15 เดือน(ใกล้เคียงกัน)    อยู่ที่การดูแลรักษาหลังจาก 15 เดือนไปแล้วแบตแห้งจะมีประสิทธิภาพลดลงใกล้เคียงแบตน้ำธรรมดาหรืออาจจะต่ำกว่าเพราะความร้อนมีผลกับแบตแห้งมาก

** แบตที่ติดรถมาในรุ่น  2.5  ปี 2010และ2011  เป็นรุ่นเล็ก(ของเก๋งใหญ่ 65-70แอมป์)   เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในเมืองนอก  แต่เมืองนอกใช้เป็นแบตคู่สำหรับรุ่นนี้     

**แบตที่ติดรถมาในรุ่น 2.5VG และรุ่น 2009 และ 2012 เป็น size เดียวกับ 3200  ขนาด  75-85 แอมป์   ซึ่งให้ค่าไฟที่จ่ายออกมามีกระแสสูงกว่า

**และที่สำคัญแบตที่ติดรถ 2.5  ปี2010และ2011  เป้น GS รุ่น Plus one จุกแดง(กึ่งแห้ง OEM )มากับรถ    ทีนี้ศูนย์รู้หรือป่าว  เล่นเติมน้ำกลั่นทุกครั้งที่เข้าศูนย์จนแบตเสื่อมเพราะน้ำยาโดนผสมจนเสื่อม อาจเกิดจากการผสมน้ำกลั่นบ่อยไปหรือป่าว    ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมกันสักนิด   ก่อนดัดแปลงครับ

สรุป ... เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน และสิ่งที่เราต้องการจากคุณลักษณะของแบตเตอรี่ครับ   แต่ถ้าหากเพื่อสมาชิกมีข้อมูลที่ชัดเจนกว่าก็เอามาแชร์กันครับ

พิจารณาข้อมูลจากทางอื่นอีกทีนะครับ

เพื่อเป็นข้อมูล   

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version