สมมุติวันหนึ่งผมไม่สบายไปหาซื้อยากินเองที่ร้านขายยาแห่งหนึ่ง ผลปรากฏว่าผมมีอาการแพ้อย่างรุนแรง ต้องหามส่งโรงบาล คุณหมอแจ้งว่าผมทานยาปลอมไม่ได้คุณภาพจึงเกิดอาการแพ้ เมื่อหายดีกลับถึงบ้าน จึงสั่งกำชับคนในบ้านทุกคนว่า ต่อไปนี้ห้ามไปซื้อยาที่ร้านขายยาแห่งนั้นนะ บังเอิญลูกเกิดถามผมว่าต้องบอกเพื่อนบ้านด้วยมั๊ย ผมต้องสอนลูกใช่ไหมว่า อย่าไปเป่าประกาศให้คนนอกรู้นะ มันบาป เดี๋ยวเจ้าของร้านขายยาเขาจะเดือดร้อน ขายยาไม่ได้ รายได้หดเหรอ 
มองอีกมุม ไอ้คนที่พูดทำนองนี้อาจจะเรียกว่าคนเห็นแก่ตัว รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายวางอยู่ตรงไหนทำไมไม่แจ้งไม่เตือนเพื่อถือว่าการป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดเท่ากับเป็นบุญในจิตใจอีกทางหนึ่ง แต่หากคนที่พบเจอแล้วนิ่งเฉยแยกตัวเองออกมาเพื่อไม่อยากให้เกิดความเดือนร้อนที่อาจจะมีผลมาจากตัวเอง เลยเลือกที่จะหยุดแบบนี้จะเรียกว่าเห็นแก่ตัวได้ไหม

?

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองมาดูตัวอย่างเรื่องนี้ (ผมแฟนคลับห้องลุมพินี)
ถ้าคุณเป็นหมอ คุณจะบอก... หรือไม่บอกเด็กอายุ21ปี มาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้องประจำเดือนและมีเลือดออกมาก
คุณเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลชุมชนขนาด30เตียง ได้ถูกพยาบาลตามมาที่ห้องฉุกเฉิน เพราะว่าเด็กมีเลือดออกพอสมควร ... ขณะที่ตรวจชีพจรปกติ ความดันเลือดปกติ ยังไม่มีลักษณะการเสียเลือดมาก
เมื่อไปถึง คุณซักประวัติ เด็กสาวบอกว่าเดือนนี้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ และปวดท้อง มดลูกแข็งเป็นลูกขึ้นมาได้2วัน
ตรวจหน้าท้องพบว่าหน้าท้องโตเล็กน้อย .. ถามเรื่องประวัติเพศสัมพันธ์ ผู้ป่วยปฏิเสธ
ด้วยที่คุณร่ำเรียนมา คุณได้ส่งตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจการตั้งครรภ์. และตรวจความเข้มข้นของเลือด ... พบว่ามีการตั้งครรภ์ ... จากนั้นจึงได้ตรวจภายในและอัลตร้าซาวน์พบเด็กทารกอายุ18สัปดาห์ ตรวจภายในพบเศษยาเหน็บเร่งคลอดตกค้างอยู่ เลือดยังออกอยู่เรื่อยๆแต่ไม่ได้ไหลมากมายนัก
สรุปแล้ว ในที่สุดคุยกันจึงได้รู้ว่า เด็กสาวไปทำแท้งมา หลังจากเหน็บยาแล้วคนที่ขายยาให้ก็บอกว่าให้มาโรงพยาบาลและให้บอกหมอตามที่ว่า เพื่อว่าประวัติจะได้เหมือนประจำเดือนมาผิดปกติ ... ให้ยืนยันไปว่าประจำเดือนมาปกติและท้องเพิ่งโต ซึ่งหมอจะได้เข้าใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์แล้วหมอที่โรงพยาบาลจะทำการขูดมดลูกให้
กรณีนี้ โชคดีของคุณที่ตรวจปัสสาวะถึงแม้ว่าเด็กสาวจะยืนยันว่าประจำเดือนมาปกติและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
แต่โชคไม่ดีที่ดูท่าทางแท้งอย่างแน่นอนเพราะปากมดลูกเปิดมากแล้ว
ทันใดนั้นพ่อแม่เด็กมาถึง เด็กสาวบอกคุณทันทีว่า
"หมออย่าบอกพ่อแม่หนูนะว่าหนูท้อง ยังไงหนูก็ต้องแท้งอยู่แล้ว ถ้าหมอไม่บอกพ่อแม่หนูก็ไม่รู้หรอก"
พอบอกเสร็จปุ๊บ พ่อแม่เด็กผลักประตูเข้ามา... พยาบาลเชิญให้รอข้างนอกแต่พ่อแม่เด็กไม่ยอม
"เป็นอะไรเหรอ หมอว่ายังไง" พ่อถาม
"หมอว่าจะส่งไปโรงพยาบาลจังหวัดจ๊ะ จะให้ไปเจอแพทย์เฉพาะทาง"
*******คำถาม*******
คุณจะตอบอย่างไรระหว่าง
1. ตอบไปตามความจริง ว่า ท้อง และกำลังแท้ง
2. ไม่บอกว่าท้อง ....ไม่ว่าจะเป็นโกหกไปเลยว่าเป็นโรคอื่น หรือไม่ก็ อาจจะเลี่ยงไม่บอกอะไรเลย บอกแค่ว่าส่งตัวไปพบแพทย์เฉพาะทางเพราะว่าเลือดออกมาก หรือจะด้วยวิธีใดๆก็ตาม ... แต่สรุปก็คือ ยังไม่บอกว่าท้อง
******** เหตุผลประกอบ *********
ถ้าคุณบอกว่าท้อง ... ด้วยเหตุผลง่ายๆ คนที่มาเป็นพ่อแม่เด็ก , และแพทย์มีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงเพื่อพ่อแม่ของผู้ป่วยจะได้รับรู้และตัดสินใจได้ ....
ถ้าคุณบอกว่าไม่ท้อง เหตุผลเยอะหลายข้อ
- ผู้ป่วยอายุ21 บรรลุนิติภาวะแล้ว ในเมื่อเขาไม่ต้องการให้บอก ก็มีสิทธิ์ตามกฎหมาย การบอกพ่อแม่เด็กโดยที่ผู้ป่วยไม่ยินยอมจะผิดกฎหมาย
- ถ้าบอก พ่อแม่ไม่รู้จะรับได้ไหม เกิดมีโรคประจำตัวแล้วเป็นอะไรขึ้นมาล่ะยุ่งเลย
- ยังไงก็ตาม พอไปที่โรงพยาบาลจังหวัด ไม่ว่าจะแท้งหรือไม่แท้ง แพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลจังหวัดก็ต้องบอกอยู่แล้ว
- เด็กยังอายุไม่มาก ยังไม่ได้แต่งงาน เกิดคนอื่นรู้อาจจะลำบาก
*****************************
ถ้าคุณเป็นแพทย์ คุณจะเลือกตอบข้อไหนครับ
ถ้าเป็นไปได้ให้เหตุผล และลองบอกเหตุผลที่ไม่ตอบอีกข้อด้วยนะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หาตำตอบเพิ่มเติมได้จาก Topic หมอแมว
เครดิต คุณหมอแมว pantip/ลุมพินี :
http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/08/L5705213/L5705213.html