ผู้เขียน หัวข้อ: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?  (อ่าน 58433 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 10:19:15 »
อ่านตรงอธิบายเรื่องช่วยให้รถแรง ทำไมตอบแบบทะแมร่งๆ
 
แรงดันไอเสียที่ปล่อยย้อนกลับมาลำพังแค่นั้นคงไม่ถึงกับทำให้เทอร์โบรอบลดลงได้มากเท่าไหร่แล้วกรณีที่แรงดันไอเสียมากจนเวสเกจเปิดทิ้งละแบบนี้ก็แสดงว่าเกินและส่วนที่เกินเอากลับมาเผา แบบนี้ก็แรงไม่ตกอะดิ

แต่ถ้ามองตามนี้ว่า  ปริมาณความหน้าแน่นของอากาศ+ไอดีผ่านมาในท่อขนาดหน้าตัดเท่าท่ออินเตอร์ขาออกวิ่งเข้าไปรอการเผาไหม้  กับ ปริมาณความหน้าแน่นของอากาศ+ไอดี+ไอเสียที่วนกลับมา ผ่านมาในท่อขนาดหน้าตัดเท่าท่ออินเตอร์ขาออกวิ่งเข้าไปรอการเผาไหม้  พี่ๆว่าแบบไหนจะนำไปสันดาปแล้วได้แรงระเบิดเป็นพลังงานกลมากกว่ากัน  และถ้าทำแบบต่อเนื่องๆๆๆในจังหวะสันดาปละ  แบบไหนจะให้ผลดีกว่ากัน

แรงดันที่ได้มีมาก  การระเบิดรุ่นแรง  ไอเสียมีมาก  แรงดันทิ้งสูง   ปั่นเทอร์โบได้แรง(ยิ่งยกบูสยิ่งหมุนแรงและนาน)  กำลังเข้าใหม่ก็เยอะและเร็ว   หากการวนลูปของขบวนการนี้ไม่มีไอเสียฝากมาเผาทิ้ง   แบบนี้น่าจะให้ผลดีกว่ามาก  จิงป่ะ

จิรงๆแล้วถ้าไม่สามารถขับรถได้ตามที่เขาออกแบบ  ลากรอบได้สุดเกียร์ ตลอดเวลาก็อุดไปเถอะครับ  ดีกว่ามานั่งบำรงรักษาตามกำหนดเพราะเราใช้รถในเมืองทำรอบไม่ได้มีแต่การเดินเบาสะสมจนเกิดกรณีเช่นนั้น

เทคโนโลยีออกแบบมาดี  ถ้าใช้ได้ตามเทคโนโลยีก็ไม่ต้องอุด  และถ้าอุดก็ไม่ต้องไปหาตำรามาถกเถียงกันว่าแผ่นแค่300บาท  กับการออกแบบEGRมูลค่ากว่าหลายบาทออกแบบมาทำไม   แบบนี้ต้องถามว่าแล้วคุณซื้อรถที่มีเทคโนโลยีสูงๆมาใช้ในเมืองกันทำไม  ซื้อทั้งทีต้องเครื่องยนต์เทอร์โบ  ต้องเทอร์โบVG   ต้องมีเกียร์พิเศษ  ต้องมีระบบกันไหล  กันแรด   สุดท้ายจอดดมควันกันในเมืองหลวงทั้งนั้น   พอออกต่างจังวัดทีก็ไม่ค่อยจะกด  จะเร่งกัน  จะตกแต่งเพิ่มเติมกล่องกันก็กลัวจะหมดประกัน  สรุปทั้งหมดคือความกังวลเพราะอ่านกระทู้ที่เขาถกเถียงกัน  ไม่ได้ไปอ่านหลักการออกแบบและความกว้าหน้าของเทคโนโลยีและการเรียนรู้ปรับตัวที่จะอยู่กับเทคโนโลยี

อ่านกระทู้พวกนี้ทีไร  มันขึ้น อ่ะ  มันขึ้น  :sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42:

ขออภับมุณี
 :sd23:

มาเพิ่มเติมข้อมูลต่อจากข้อมูลของพ่อมดซักนิดนึง ... อย่าถามว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ... บอกไม่ได้ เอาเป็นว่ามีพรายกระซิบมา

การนำ EGR เข้ามาใช้งานในเครื่องยนต์ มักถูกอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการนำเอาไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง เพื่อเผาไหม้ไอน้ำมันที่อยู่ในไอเสียให้หมด นัยว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในแง่ของลดไอน้ำมันที่ออกไปกับไอเสีย และช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะเอาไอน้ำมันในไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่

ประเด็นมันอยู่ที่ แล้วทำไมเครื่องยนต์ไม่เผาน้ำมันให้หมดไปในครั้งเดียว หรือก็คือการทำให้เกิดการสันดาบที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อไม่ให้ไอน้ำมันเหลือออกมาเลยตั้งแต่ต้น สามารถทำได้หรือไม่ ... คำตอบคือ ทำได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ขนาดเอาน้ำมาเติมให้รถยังวิ่งได้ ถ้าคนซื้อไม่กลัวระเบิดไฮโดรเจน (เป็นเทคโนโลยีการแยกธาตุของน้ำคือ H2O โดยแยกเอา ไฮโดนเจนออกมาเป็นเชื้อเพลิง และ อ๊อกซิเจนเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาปสมบูรณ์) แล้วทำไมกะอีแค่ทำให้เผาไหม้น้ำมันให้หมดจะทำไม่ได้ การสันดาปที่สมบูรณ์จะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเยอะ และเป็นการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากกว่ามาก โดยหลักการบริษัทผลิตรถก็รู้ เทคโนโลยีก็มี แต่จะทำหรือไม่นั้นคืออีกเรื่องหนึ่ง

การสร้างเครื่องยนต์ที่สันดาปได้สมบูรณ์จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีความทนทานสูง เพราะการสันดาปที่สมบูรณ์ทำให้เกิดพลังงานและความร้อนที่สูงกว่า วัสดุต่างๆที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์ย่อมต้องมีคุณภาพและความทนทานอย่างมาก รวมถึงระบบระบายความร้อนที่จะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ทัน ซึ่งนั่นหมายความว่าต้นทุนการผลิตที่จะต้องเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็อาจจะไม่พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น

ดังนั้นการผลิตเครื่องยนต์ให้สันดาปได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องถึงขนาดสมบูรณ์ แต่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาเพื่อให้สามารถขายได้ในระดับราคาที่ผู้ซื้อพอใจจึงกลายเป็นทางเลือกที่ Happy กันทุกฝ่าย การนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ โดยผ่าน EGR นั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะปริมาณอากาศดีน้อยลง อ๊อกซิเจนลดลง การเผาไหม้ก็ไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้พลังงานและความร้อนที่เกิดขึ้นลดลงตามไปด้วย ดังนั้นหากนำระบบ EGR เข้ามาใช้ เครื่องยนต์ที่ผลิตขึ้นมาก็สามารถลดความทนทานลงได้บ้าง รวมถึงระบบระบายความร้อนก็สามารถลดลงตามไปด้วย เป็นส่วนหนึ่งช่วยในการลดต้นทุนการผลิตที่ลดลง ดังนั้นการนำระบบ EGR เข้ามาใช้จึงทำให้สามารถผลิตเครื่องยนต์ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานที่ลดลงตามไปด้วย แต่ยังมีความทนทานในระดับที่รองรับการใช้งานได้อย่างปกติ ตราบเท่าที่ระบบ EGR ยังใช้งานอยู่

ดังนั้นการอุด EGR ซึ่งทำให้ไอเสียไม่สามารถกลับเข้ามาในระบบเผาไหม้นั้นจึงเป็นการทำให้ได้พลังงานจากการเผาไหม้ที่มากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือระดับความร้อนที่เกิดขึ้นสูงตามไปด้วย แต่อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ที่ผลิตมานั้น คำนวนค่า Safety Factor เมื่อเปิดระบบ EGR ใช้งานอยู่ ดังนั้นการได้พลังงานที่มากขึ้นจากการอุด EGR ก็เป็นเหมือนการลด Safety Factor ของเครื่องให้ลดลง

ดังนั้นการอุดหรือไม่อุด EGR นั้นขอให้คิดใน 2 ด้าน

ด้านหนึ่งนั้น การอุดทำให้ได้พลังงานที่มากขึ้น ท่อร่วมไอดีสะอาดมากขึ้น การดูแลรักษาในส่วนของ EGR ลดลง และไม่ต้องมาล้างท่อไอดีให้เสียเงินเสียทอง

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ขอให้คำนึงไว้เสมอว่าการอุด EGR ทำให้ safety factor ของเครื่องยนต์ลดลง อะไหล่ส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับพลังงานและความร้อนสูงจากการอุด EGR อาจมีการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลรักษาอาจจะต้องทำมากกว่าปกติ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอายุยาวนาน

ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมักจะเกิดจากผู้ใช้ไม่เข้าใจผลกระทบของการอุด EGR อย่างคบถ้วน อุดแล้ว แต่การบำรุงรักษาทำแค่ตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด (เขากำหนดตามการคำนวนว่าผู้ใช้ไม่อุด EGR) หรือบางที่แย่กว่านั้นคือไม่บำรุงรักษาตามที่กำหนดด้วย เมื่อมีอะไหล่บางส่วนพังเสียหาย ก็โทษว่ารถไม่ดี ผลิตไม่ดี แค่นั้น

นี่คือสิ่งที่ฟังพรายกระซิบมา

 :L4399: :L4399:

ส่วนตัวผมนั้น อุด EGR ไปตอนประมาณไม่กี่พันกิโลเมตร และทำการบำรุงรักษามากกว่าปกติตามที่บริษัทกำหนด อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา ผมจะเปลี่ยนก่อนกำหนด รวมถึงของเหลวต่างๆนั้นผมก็จะเปลี่ยนก่อนกำหนดเสมอ เพื่อชดเชย Safety Factor ของเครื่องที่ลดลงด้วย

We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 10:34:43 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  :L2758:

มันช่างต่างจากยุคแรกๆที่โต้เถียงกันด้วยข้อมูลผิวๆ รักสิ่งแวดล้อมจริงคงต้องถอยจักรยานแทนการถอยรถยนต์แล้วมัง  :L2754:

ออฟไลน์ พี่โต (1007)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,280
  • Like: 28
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 10:47:00 »
ผมก็ได้อุดมาตอนงานมิตติ้ง ซิ่งสายฟ้า ที่ IFRIT วันนี้ว่าจะอุดเพิ่มครับที่พี่ป๊อปส่งมาให้ รวมล้างท่อรวมไอดีด้วยครับ  :L2901:
:L4398: โอม  งึมงำ งึมงำ รักกู  หลงกู  รักปา  หลงปา... :L2901:

ออฟไลน์ บ๋อม Bom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 104
  • Like: 6
  • เพศ: หญิง
  • งานยุ่งมากไม่ค่อยได้เปิดเข้ามา แต่ยังคิดถึงพี่ๆๆๆๆ
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 10:49:09 »
ยิ่งอ่าน ยิ่งติดตาม ยิ่งได้ความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณพี่ตาม และพรายกระซิบคับ

ดีใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนเล็กๆ ของบ้านหลังนี้ ^__^
จากที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจในระบบเครื่องยนต์
เริ่มเรียกชื่อได้บ้าง ค่อยๆ อ่าน ถาม ประสบการณ์ จากพี่ๆ
เข้าใจมากขึ้น และจะติดตามไปเรื่อยๆ อบอุ่น จริงๆ คับ
^_____^

ออฟไลน์ Goodboy

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,813
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 11:05:22 »
มาเพิ่มเติมข้อมูลต่อจากข้อมูลของพ่อมดซักนิดนึง ... อย่าถามว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ... บอกไม่ได้ เอาเป็นว่ามีพรายกระซิบมา

การนำ EGR เข้ามาใช้งานในเครื่องยนต์ มักถูกอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการนำเอาไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง เพื่อเผาไหม้ไอน้ำมันที่อยู่ในไอเสียให้หมด นัยว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในแง่ของลดไอน้ำมันที่ออกไปกับไอเสีย และช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะเอาไอน้ำมันในไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่

ประเด็นมันอยู่ที่ แล้วทำไมเครื่องยนต์ไม่เผาน้ำมันให้หมดไปในครั้งเดียว หรือก็คือการทำให้เกิดการสันดาบที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อไม่ให้ไอน้ำมันเหลือออกมาเลยตั้งแต่ต้น สามารถทำได้หรือไม่ ... คำตอบคือ ทำได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ขนาดเอาน้ำมาเติมให้รถยังวิ่งได้ ถ้าคนซื้อไม่กลัวระเบิดไฮโดรเจน (เป็นเทคโนโลยีการแยกธาตุของน้ำคือ H2O โดยแยกเอา ไฮโดนเจนออกมาเป็นเชื้อเพลิง และ อ๊อกซิเจนเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาปสมบูรณ์) แล้วทำไมกะอีแค่ทำให้เผาไหม้น้ำมันให้หมดจะทำไม่ได้ การสันดาปที่สมบูรณ์จะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเยอะ และเป็นการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากกว่ามาก โดยหลักการบริษัทผลิตรถก็รู้ เทคโนโลยีก็มี แต่จะทำหรือไม่นั้นคืออีกเรื่องหนึ่ง

การสร้างเครื่องยนต์ที่สันดาปได้สมบูรณ์จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีความทนทานสูง เพราะการสันดาปที่สมบูรณ์ทำให้เกิดพลังงานและความร้อนที่สูงกว่า วัสดุต่างๆที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์ย่อมต้องมีคุณภาพและความทนทานอย่างมาก รวมถึงระบบระบายความร้อนที่จะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ทัน ซึ่งนั่นหมายความว่าต้นทุนการผลิตที่จะต้องเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็อาจจะไม่พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น

ดังนั้นการผลิตเครื่องยนต์ให้สันดาปได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องถึงขนาดสมบูรณ์ แต่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาเพื่อให้สามารถขายได้ในระดับราคาที่ผู้ซื้อพอใจจึงกลายเป็นทางเลือกที่ Happy กันทุกฝ่าย การนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ โดยผ่าน EGR นั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะปริมาณอากาศดีน้อยลง อ๊อกซิเจนลดลง การเผาไหม้ก็ไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้พลังงานและความร้อนที่เกิดขึ้นลดลงตามไปด้วย ดังนั้นหากนำระบบ EGR เข้ามาใช้ เครื่องยนต์ที่ผลิตขึ้นมาก็สามารถลดความทนทานลงได้บ้าง รวมถึงระบบระบายความร้อนก็สามารถลดลงตามไปด้วย เป็นส่วนหนึ่งช่วยในการลดต้นทุนการผลิตที่ลดลง ดังนั้นการนำระบบ EGR เข้ามาใช้จึงทำให้สามารถผลิตเครื่องยนต์ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานที่ลดลงตามไปด้วย แต่ยังมีความทนทานในระดับที่รองรับการใช้งานได้อย่างปกติ ตราบเท่าที่ระบบ EGR ยังใช้งานอยู่

ดังนั้นการอุด EGR ซึ่งทำให้ไอเสียไม่สามารถกลับเข้ามาในระบบเผาไหม้นั้นจึงเป็นการทำให้ได้พลังงานจากการเผาไหม้ที่มากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือระดับความร้อนที่เกิดขึ้นสูงตามไปด้วย แต่อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ที่ผลิตมานั้น คำนวนค่า Safety Factor เมื่อเปิดระบบ EGR ใช้งานอยู่ ดังนั้นการได้พลังงานที่มากขึ้นจากการอุด EGR ก็เป็นเหมือนการลด Safety Factor ของเครื่องให้ลดลง

ดังนั้นการอุดหรือไม่อุด EGR นั้นขอให้คิดใน 2 ด้าน

ด้านหนึ่งนั้น การอุดทำให้ได้พลังงานที่มากขึ้น ท่อร่วมไอดีสะอาดมากขึ้น การดูแลรักษาในส่วนของ EGR ลดลง และไม่ต้องมาล้างท่อไอดีให้เสียเงินเสียทอง

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ขอให้คำนึงไว้เสมอว่าการอุด EGR ทำให้ safety factor ของเครื่องยนต์ลดลง อะไหล่ส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับพลังงานและความร้อนสูงจากการอุด EGR อาจมีการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลรักษาอาจจะต้องทำมากกว่าปกติ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอายุยาวนาน

ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมักจะเกิดจากผู้ใช้ไม่เข้าใจผลกระทบของการอุด EGR อย่างคบถ้วน อุดแล้ว แต่การบำรุงรักษาทำแค่ตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด (เขากำหนดตามการคำนวนว่าผู้ใช้ไม่อุด EGR) หรือบางที่แย่กว่านั้นคือไม่บำรุงรักษาตามที่กำหนดด้วย เมื่อมีอะไหล่บางส่วนพังเสียหาย ก็โทษว่ารถไม่ดี ผลิตไม่ดี แค่นั้น

นี่คือสิ่งที่ฟังพรายกระซิบมา

 :L4399: :L4399:

ส่วนตัวผมนั้น อุด EGR ไปตอนประมาณไม่กี่พันกิโลเมตร และทำการบำรุงรักษามากกว่าปกติตามที่บริษัทกำหนด อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา ผมจะเปลี่ยนก่อนกำหนด รวมถึงของเหลวต่างๆนั้นผมก็จะเปลี่ยนก่อนกำหนดเสมอ เพื่อชดเชย Safety Factor ของเครื่องที่ลดลงด้วย
ขอบคุณความรู้มากๆๆครับพี่พี่ปามาเนีย.  :sd23:
Pamania so good

ออฟไลน์ ตุ้ย THEPBURI

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,506
  • Like: 39
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 11:30:46 »
อุดไปเรียบร้อย คันเร่ง ดันราง ปิ่นโต ข้าวน้อย ก็จัดมันให้หมด และกำลังจะตามมาด้วยหัวฉีด
ไม่ทราบว่าต้องบำรุงรักษาอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษบ้างครับ
เพียงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนระยะ 10,000 กม. ครั้งแรกเมื่อได้ 9,000 กม.ต้นๆ  ครั้งที่ 2 ก็เปลี่ยนเมื่อ 18,000 กม.กว่าๆ (ปกติต้อง 20,000กม.) และครั้งที่2ก็เป็นแบบสังเคราะห์พิเศษครับ
เมื่อลงมือแต่ง ก็ย่อมต้องการจะทำให้สมบูรณ์ เพื่อรถที่เรารักมีมาตรฐานสูงขึ้นและอยู่ด้วยกันไปนานๆ
การได้ความรู้จากพี่ๆ เช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ปรารถนาที่สุด
มองที่ดีที่สุดต้องทำอย่างไรบ้าง
ถ้าชอบความประหยัดก็คงไม่ต้องทำอะไรแต่ทีแรก ใช้เดิมๆ ไปนั่นแหล่ะ
ขอบคุณครับ  :sd23: :sd23: :sd23:

ออฟไลน์ แดง-ขอนแก่น

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 427
  • Like: 37
  • เพศ: ชาย
  • Family Man Khonkaen.
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 12:08:34 »
 :L4365: :L4365: :L4365: :L2901:
อยู่ จ.ขอนเเกน เบอร์โทรติดต่อ 086-8628355 นายจีระวัฒน์ เวียงวงค์ บ้านกุดกว้าง 106 ม.3 ถ.มิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนเเก่น 40000

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 12:18:29 »
อุดไปเรียบร้อย คันเร่ง ดันราง ปิ่นโต ข้าวน้อย ก็จัดมันให้หมด และกำลังจะตามมาด้วยหัวฉีด
ไม่ทราบว่าต้องบำรุงรักษาอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษบ้างครับ
เพียงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนระยะ 10,000 กม. ครั้งแรกเมื่อได้ 9,000 กม.ต้นๆ  ครั้งที่ 2 ก็เปลี่ยนเมื่อ 18,000 กม.กว่าๆ (ปกติต้อง 20,000กม.) และครั้งที่2ก็เป็นแบบสังเคราะห์พิเศษครับ
เมื่อลงมือแต่ง ก็ย่อมต้องการจะทำให้สมบูรณ์ เพื่อรถที่เรารักมีมาตรฐานสูงขึ้นและอยู่ด้วยกันไปนานๆ
การได้ความรู้จากพี่ๆ เช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ปรารถนาที่สุด
มองที่ดีที่สุดต้องทำอย่างไรบ้าง
ถ้าชอบความประหยัดก็คงไม่ต้องทำอะไรแต่ทีแรก ใช้เดิมๆ ไปนั่นแหล่ะ
ขอบคุณครับ  :sd23: :sd23: :sd23:

รายการของผมเวลาบำรุงรักษานะครับ ลองดูเป็นตัวอย่าง แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ ขนาดผมนี่ช่างศูนย์เขาเรียกว่า "บ้า"

น้ำมันเครื่อง ทุก 10000 กม. (เปลี่ยนก่อนครบทุกหมื่นนิดหน่อย) ใช้สังเคราะห์แท้ เท่านั้น กึ่งสังเคราะห์ไม่เคยแตะ
กรองน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนทุกครั้งพร้อมน้ำมันเครื่อง
ไส้กรองอากาศ ปกติเขาเปลี่ยนทุก 20000 กม. ผมเปลี่ยนทุก 10000 กม. ไม่เคยเป่าทำความสะอาด เปลี่ยนเท่านั้น
น้ำมันเกียร์ ถ้าจำไม่ผิดจะเปลี่ยนทุก 40000 กม. ผมเปลี่ยนทุก 20000 กม. มาตั้งแต่ออกรถ
น้ำยาหม้อน้ำ ปกติเปลี่ยนทุก 40000 กม. ผมเปลี่ยนแทบจะทุก 10000 กม. แต่ไม่เคยเลย 20000 กม. จะเปลี่ยนครั้งนึง
กรองดีเซล อันนี้จัดไปทุก 10000 กม.  น้ำมันบ้านเราคุณภาพแย่ ที่ว่าแน่ๆ แพงๆ แรงๆ ก็สกปรกถ้าไปเจอน้ำมันก้นถัง
น้ำมันเบรก น้ำมันพาวเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย เปลี่ยนก่อนกำหนด 10000 กม.

และยังมีรายการอะไหล่อื่นๆ ที่พอเริ่มมีอาการ ผมจะเปลี่่ยนทันที

วาล์วน้ำ ใช้รถมา 90000 กม. เปลี่ยนไปแล้ว 2 ตัว ตัวแรกเสีย วาล์วน้ำยัน เปิดไม่สุด ตัวที่สองเหมือนจะเริ่มมีอาการ เลยเปลี่ยนไปเลย

พัดลมฟรีปั๊ม มีอาการเหมือนมันจะฟรีมากเกิน ครั้งแรกใช้วิธีเติมน้ำยา ช่างเอาน้ำยาโตโยต้ามาเติม (ของมิตซูไม่มีขาย) เติมแล้วไม่ดี เสียงดัง ต้องไปเอาน้ำยาออก พอเอาออกแล้วก็ฟรีเกิน เลยไม่แก้ละ จัดการเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดเลย ใบพัดก็เปลี่ยน

สายพานไทม์มิ่ง ปกติเปลี่ยนที่แสนโล ผมเพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อวานที่หลักไมล์ 92000 โล

ในการเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง ปกติจะมีสเปเซอร์อยู่ 2-3 ตัวที่ช่างส่วนใหญ่จะไม่เปลี่ยนให้ แต่จะเอาของเดิมใช้ต่อ ผมจัดการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด (เรื่องนี้รอรายละเอียดในกระทู้ใหม่นะครับ เดี๋ยวหนูขาวจะมาเปิดกระทู้เข้าห้องทดลองอันใหม่ตอน "การเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง กำลังเรียบเรียงข้อมูลอยู่ครับ)

ปั๊มน้ำ ปกติช่างจะแนะนำว่าไม่ต้องเปลี่ยน ให้ไปเปลี่ยนที่ 200000โล แต่ตอนเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง ไหนๆก็รื้อมาแล้วเลยจัดมาเปลี่ยนไปซะเลย

SCV จริงๆไม่ต้องเปลี่ยน และของผมยังไม่เสีย แต่สั่งอะไหล่ไปแล้ว รอของอยู่ ได้ของมาเมื่อไหร่ก็เปลี่ยน

ล่าสุดสั่งอะไหล่ซีลวาล์ว (ที่อยู่ด้านบนของเครื่อง) ทั้งชุด รออะไหล่เช่นกัน มาเมื่อไหร่จับเปลี่ยนให้หมดพร้อมล้างท่อไอดี

ประมาณนี้ครับเท่าที่นึกออก .... เปลี่ยนจนช่างบอกว่า "บ้า" ไปแล้วครับ  :sd42: :sd42: :sd42:

ไม่ต้องเปลี่ยนขนาดนี้นะครับ ... สำหรับเครื่องที่ให้พลังงานหรือกำลังมาก รวมถึงความร้อนที่สูง สิ่งที่ควรเปลี่ยนบ่อยกว่าที่กำหนดคือพวกของเหลวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเครื่องกับน้ำมันเกียร์ 2 อย่างนี้สำคัญมาก และได้รับผลกระทบจากเครื่องที่มีกำลังสูงและความร้อนสูงอย่างมาก ส่วนอะไหล่อื่นๆที่ต้องระวังคือพวกซีลต่างๆครับ รถกำลังสูงความร้อนมากพวกซีลต่างๆจะไปเร็วกว่าเวลาอันควร ซีลบางอย่างมีในรายการต้องเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยนก่อนเวลา ส่วนซีลบางรายการไม่มีในรายการเปลี่ยน (คือรอเสียแล้วเปลี่ยน) อันนี้ต้องคอยดู คอยสังเกตุ หากเห็นมีรอยรั่วซึมเพียงเล็กน้อยก็ควรเปลี่ยนไปเลยครับ

 :sd23: :sd23:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ หมูน้ำตาล

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 282
  • Like: 10
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 12:42:20 »
มาเพิ่มเติมข้อมูลต่อจากข้อมูลของพ่อมดซักนิดนึง ... อย่าถามว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ... บอกไม่ได้ เอาเป็นว่ามีพรายกระซิบมา

การนำ EGR เข้ามาใช้งานในเครื่องยนต์ มักถูกอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการนำเอาไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง เพื่อเผาไหม้ไอน้ำมันที่อยู่ในไอเสียให้หมด นัยว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในแง่ของลดไอน้ำมันที่ออกไปกับไอเสีย และช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะเอาไอน้ำมันในไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่

ประเด็นมันอยู่ที่ แล้วทำไมเครื่องยนต์ไม่เผาน้ำมันให้หมดไปในครั้งเดียว หรือก็คือการทำให้เกิดการสันดาบที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อไม่ให้ไอน้ำมันเหลือออกมาเลยตั้งแต่ต้น สามารถทำได้หรือไม่ ... คำตอบคือ ทำได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ขนาดเอาน้ำมาเติมให้รถยังวิ่งได้ ถ้าคนซื้อไม่กลัวระเบิดไฮโดรเจน (เป็นเทคโนโลยีการแยกธาตุของน้ำคือ H2O โดยแยกเอา ไฮโดนเจนออกมาเป็นเชื้อเพลิง และ อ๊อกซิเจนเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาปสมบูรณ์) แล้วทำไมกะอีแค่ทำให้เผาไหม้น้ำมันให้หมดจะทำไม่ได้ การสันดาปที่สมบูรณ์จะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเยอะ และเป็นการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากกว่ามาก โดยหลักการบริษัทผลิตรถก็รู้ เทคโนโลยีก็มี แต่จะทำหรือไม่นั้นคืออีกเรื่องหนึ่ง

การสร้างเครื่องยนต์ที่สันดาปได้สมบูรณ์จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีความทนทานสูง เพราะการสันดาปที่สมบูรณ์ทำให้เกิดพลังงานและความร้อนที่สูงกว่า วัสดุต่างๆที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์ย่อมต้องมีคุณภาพและความทนทานอย่างมาก รวมถึงระบบระบายความร้อนที่จะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ทัน ซึ่งนั่นหมายความว่าต้นทุนการผลิตที่จะต้องเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็อาจจะไม่พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น

ดังนั้นการผลิตเครื่องยนต์ให้สันดาปได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องถึงขนาดสมบูรณ์ แต่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาเพื่อให้สามารถขายได้ในระดับราคาที่ผู้ซื้อพอใจจึงกลายเป็นทางเลือกที่ Happy กันทุกฝ่าย การนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ โดยผ่าน EGR นั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะปริมาณอากาศดีน้อยลง อ๊อกซิเจนลดลง การเผาไหม้ก็ไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้พลังงานและความร้อนที่เกิดขึ้นลดลงตามไปด้วย ดังนั้นหากนำระบบ EGR เข้ามาใช้ เครื่องยนต์ที่ผลิตขึ้นมาก็สามารถลดความทนทานลงได้บ้าง รวมถึงระบบระบายความร้อนก็สามารถลดลงตามไปด้วย เป็นส่วนหนึ่งช่วยในการลดต้นทุนการผลิตที่ลดลง ดังนั้นการนำระบบ EGR เข้ามาใช้จึงทำให้สามารถผลิตเครื่องยนต์ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานที่ลดลงตามไปด้วย แต่ยังมีความทนทานในระดับที่รองรับการใช้งานได้อย่างปกติ ตราบเท่าที่ระบบ EGR ยังใช้งานอยู่

ดังนั้นการอุด EGR ซึ่งทำให้ไอเสียไม่สามารถกลับเข้ามาในระบบเผาไหม้นั้นจึงเป็นการทำให้ได้พลังงานจากการเผาไหม้ที่มากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือระดับความร้อนที่เกิดขึ้นสูงตามไปด้วย แต่อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ที่ผลิตมานั้น คำนวนค่า Safety Factor เมื่อเปิดระบบ EGR ใช้งานอยู่ ดังนั้นการได้พลังงานที่มากขึ้นจากการอุด EGR ก็เป็นเหมือนการลด Safety Factor ของเครื่องให้ลดลง

ดังนั้นการอุดหรือไม่อุด EGR นั้นขอให้คิดใน 2 ด้าน

ด้านหนึ่งนั้น การอุดทำให้ได้พลังงานที่มากขึ้น ท่อร่วมไอดีสะอาดมากขึ้น การดูแลรักษาในส่วนของ EGR ลดลง และไม่ต้องมาล้างท่อไอดีให้เสียเงินเสียทอง

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ขอให้คำนึงไว้เสมอว่าการอุด EGR ทำให้ safety factor ของเครื่องยนต์ลดลง อะไหล่ส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับพลังงานและความร้อนสูงจากการอุด EGR อาจมีการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลรักษาอาจจะต้องทำมากกว่าปกติ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอายุยาวนาน

ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมักจะเกิดจากผู้ใช้ไม่เข้าใจผลกระทบของการอุด EGR อย่างคบถ้วน อุดแล้ว แต่การบำรุงรักษาทำแค่ตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด (เขากำหนดตามการคำนวนว่าผู้ใช้ไม่อุด EGR) หรือบางที่แย่กว่านั้นคือไม่บำรุงรักษาตามที่กำหนดด้วย เมื่อมีอะไหล่บางส่วนพังเสียหาย ก็โทษว่ารถไม่ดี ผลิตไม่ดี แค่นั้น

นี่คือสิ่งที่ฟังพรายกระซิบมา

 :L4399: :L4399:

ส่วนตัวผมนั้น อุด EGR ไปตอนประมาณไม่กี่พันกิโลเมตร และทำการบำรุงรักษามากกว่าปกติตามที่บริษัทกำหนด อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา ผมจะเปลี่ยนก่อนกำหนด รวมถึงของเหลวต่างๆนั้นผมก็จะเปลี่ยนก่อนกำหนดเสมอ เพื่อชดเชย Safety Factor ของเครื่องที่ลดลงด้วย


ขอบคุณพี่ตูมตาม ครับผมขุดขึ้นมานิดเดียว แต่ได้ความรู้ขึ้นมาอีกมากเลยครับ  :L6428: :L6428: :L6428:

ออฟไลน์ หมูน้ำตาล

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 282
  • Like: 10
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 12:44:12 »
รายการของผมเวลาบำรุงรักษานะครับ ลองดูเป็นตัวอย่าง แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ ขนาดผมนี่ช่างศูนย์เขาเรียกว่า "บ้า"

น้ำมันเครื่อง ทุก 10000 กม. (เปลี่ยนก่อนครบทุกหมื่นนิดหน่อย) ใช้สังเคราะห์แท้ เท่านั้น กึ่งสังเคราะห์ไม่เคยแตะ
กรองน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนทุกครั้งพร้อมน้ำมันเครื่อง
ไส้กรองอากาศ ปกติเขาเปลี่ยนทุก 20000 กม. ผมเปลี่ยนทุก 10000 กม. ไม่เคยเป่าทำความสะอาด เปลี่ยนเท่านั้น
น้ำมันเกียร์ ถ้าจำไม่ผิดจะเปลี่ยนทุก 40000 กม. ผมเปลี่ยนทุก 20000 กม. มาตั้งแต่ออกรถ
น้ำยาหม้อน้ำ ปกติเปลี่ยนทุก 40000 กม. ผมเปลี่ยนแทบจะทุก 10000 กม. แต่ไม่เคยเลย 20000 กม. จะเปลี่ยนครั้งนึง
กรองดีเซล อันนี้จัดไปทุก 10000 กม.  น้ำมันบ้านเราคุณภาพแย่ ที่ว่าแน่ๆ แพงๆ แรงๆ ก็สกปรกถ้าไปเจอน้ำมันก้นถัง
น้ำมันเบรก น้ำมันพาวเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย เปลี่ยนก่อนกำหนด 10000 กม.

และยังมีรายการอะไหล่อื่นๆ ที่พอเริ่มมีอาการ ผมจะเปลี่่ยนทันที

วาล์วน้ำ ใช้รถมา 90000 กม. เปลี่ยนไปแล้ว 2 ตัว ตัวแรกเสีย วาล์วน้ำยัน เปิดไม่สุด ตัวที่สองเหมือนจะเริ่มมีอาการ เลยเปลี่ยนไปเลย

พัดลมฟรีปั๊ม มีอาการเหมือนมันจะฟรีมากเกิน ครั้งแรกใช้วิธีเติมน้ำยา ช่างเอาน้ำยาโตโยต้ามาเติม (ของมิตซูไม่มีขาย) เติมแล้วไม่ดี เสียงดัง ต้องไปเอาน้ำยาออก พอเอาออกแล้วก็ฟรีเกิน เลยไม่แก้ละ จัดการเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดเลย ใบพัดก็เปลี่ยน

สายพานไทม์มิ่ง ปกติเปลี่ยนที่แสนโล ผมเพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อวานที่หลักไมล์ 92000 โล

ในการเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง ปกติจะมีสเปเซอร์อยู่ 2-3 ตัวที่ช่างส่วนใหญ่จะไม่เปลี่ยนให้ แต่จะเอาของเดิมใช้ต่อ ผมจัดการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด (เรื่องนี้รอรายละเอียดในกระทู้ใหม่นะครับ เดี๋ยวหนูขาวจะมาเปิดกระทู้เข้าห้องทดลองอันใหม่ตอน "การเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง กำลังเรียบเรียงข้อมูลอยู่ครับ)

ปั๊มน้ำ ปกติช่างจะแนะนำว่าไม่ต้องเปลี่ยน ให้ไปเปลี่ยนที่ 200000โล แต่ตอนเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง ไหนๆก็รื้อมาแล้วเลยจัดมาเปลี่ยนไปซะเลย

SCV จริงๆไม่ต้องเปลี่ยน และของผมยังไม่เสีย แต่สั่งอะไหล่ไปแล้ว รอของอยู่ ได้ของมาเมื่อไหร่ก็เปลี่ยน

ล่าสุดสั่งอะไหล่ซีลวาล์ว (ที่อยู่ด้านบนของเครื่อง) ทั้งชุด รออะไหล่เช่นกัน มาเมื่อไหร่จับเปลี่ยนให้หมดพร้อมล้างท่อไอดี

ประมาณนี้ครับเท่าที่นึกออก .... เปลี่ยนจนช่างบอกว่า "บ้า" ไปแล้วครับ  :sd42: :sd42: :sd42:

ไม่ต้องเปลี่ยนขนาดนี้นะครับ ... สำหรับเครื่องที่ให้พลังงานหรือกำลังมาก รวมถึงความร้อนที่สูง สิ่งที่ควรเปลี่ยนบ่อยกว่าที่กำหนดคือพวกของเหลวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเครื่องกับน้ำมันเกียร์ 2 อย่างนี้สำคัญมาก และได้รับผลกระทบจากเครื่องที่มีกำลังสูงและความร้อนสูงอย่างมาก ส่วนอะไหล่อื่นๆที่ต้องระวังคือพวกซีลต่างๆครับ รถกำลังสูงความร้อนมากพวกซีลต่างๆจะไปเร็วกว่าเวลาอันควร ซีลบางอย่างมีในรายการต้องเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยนก่อนเวลา ส่วนซีลบางรายการไม่มีในรายการเปลี่ยน (คือรอเสียแล้วเปลี่ยน) อันนี้ต้องคอยดู คอยสังเกตุ หากเห็นมีรอยรั่วซึมเพียงเล็กน้อยก็ควรเปลี่ยนไปเลยครับ

 :sd23: :sd23:

พี่ตูมตามครับ ดูแล้วค่าบำรุงรักษาขอพี่นี่ถ้าจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ  :L6415: :L6415: :L6415:

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 13:33:18 »
อุดไปเรียบร้อย คันเร่ง ดันราง ปิ่นโต ข้าวน้อย ก็จัดมันให้หมด และกำลังจะตามมาด้วยหัวฉีด
ไม่ทราบว่าต้องบำรุงรักษาอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษบ้างครับ
เพียงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนระยะ 10,000 กม. ครั้งแรกเมื่อได้ 9,000 กม.ต้นๆ  ครั้งที่ 2 ก็เปลี่ยนเมื่อ 18,000 กม.กว่าๆ (ปกติต้อง 20,000กม.) และครั้งที่2ก็เป็นแบบสังเคราะห์พิเศษครับ
เมื่อลงมือแต่ง ก็ย่อมต้องการจะทำให้สมบูรณ์ เพื่อรถที่เรารักมีมาตรฐานสูงขึ้นและอยู่ด้วยกันไปนานๆ
การได้ความรู้จากพี่ๆ เช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ปรารถนาที่สุด
มองที่ดีที่สุดต้องทำอย่างไรบ้าง
ถ้าชอบความประหยัดก็คงไม่ต้องทำอะไรแต่ทีแรก ใช้เดิมๆ ไปนั่นแหล่ะ
ขอบคุณครับ  :sd23: :sd23: :sd23:
เอาแบบพิเศษเพิ่มลูกชิ้นก็พอครับ  ผมก็ไม่ได้อะไรมากกว่าเช็คตามระยะ  แต่ที่แนะนำหลังมีการเปลี่ยนหัวฉีดแล้วดังนี้

1. น้ำมันเครื่องสังเคาระห์  (ตัวที่ผมได้รับคำแนะนชี้แนะมาคือ คาสตรอล เอจ ไทเทเนี่ยม  ชุด 6+1 ลิตร   ราคา 1940 บาท) ทุกระยะ 10,000 โล

2. น้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าเลือกได้ก็เชลล์ฟิวเซฟ   ประมาณ 1-2 เดือนก็ผสม V-Power สัก 1000-1500 บาท ( เมื่อจะเดินทางและมีจังหวะอัดทำความเร็วยืนพื้นต่อเนื่อง)

3. กรองโซล่า อันนี้จำเป็นอย่างน้อยก็  1 ชุดต่อ 20,000 โล ประมาณถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งเว้นครั้ง  หรือเปลี่ยนทุกครั้งที่ 10000 โล  ตัวละ 350 บาท
(หากเปลี่ยนช้ากับรถที่ติดกล่องและมีการดัดแปลงให้จ่ายน้ำมันแรงดันสูงเร็วๆ  เมื่อมันตันมักจะมีปัญหาเครื่องไม่เรียบที่ความเร็วมากกว่า 120 kmh จะเหมือนรถโดนลมดึง  กดก็ไม่ค่อยไปวูบๆ  แต่หากกดเรื่อยๆสามารถวิ่งได้)

4. ติด SMG แล้วเปิด mode monitor engine temp หากตอนเช้าเมื่อนำรถมาใช้   เครื่อง 2500 cc  หาก temp ยังไม่ถึง 88 องศาC   อย่าเพิ่งเร่งเครื่องยนต์มากนัก   ระบบเครื่อง ระบบเกียร์จะยังไม่พร้อมทำงาน(เครื่อง 3200 ต้องได้  82 ก่อน  จังหวะเปลี่ยนเกียร์จะยังไม่ปกติ   แต่ไม่ต้องถึงกับจอด wram เครื่อง  ให้ขับได้เลยหลัง start แต่ขับไปเรื่อยๆ  อย่าเพิ่งเค้นคันเร่ง ) 

5. เวลาจะดับเครื่อง  ควรจะดับเมื่อ Engine Temp ลงมาเหลือ 88 (2500cc)หรือ  82-88 (3200cc)    ในทุกครั้งที่ใช้งาน    โดยไม่จำเป็นต้องติด turbo timer ให้เปลืองน้ำมัน

แค่นี้พอครับ (สำหรับรถติดกล่องจะเอาไปใช้ก็ได้นะครับ ข้อ 2-3-4-5 จำเป็นเลย ) ส่วนข้อ 1 ยังไม่ต้อง
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ ตุ้ย THEPBURI

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,506
  • Like: 39
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 13:48:02 »
 :L2900: ขอบคุณครับพี่นะ  :sd23: :sd23: :sd23:
ขอก๊อป พิมพ์ตัวโตๆ ไว้ดูในรถเลยครับ  :L2897:

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 13:50:35 »
:L2900: ขอบคุณครับพี่นะ  :sd23: :sd23: :sd23:
ขอก๊อป พิมพ์ตัวโตๆ ไว้ดูในรถเลยครับ  :L2897:
ระวังบังหน้ากระจกรถนะครับ อันตราย  :sd42:

ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ ตุ้ย THEPBURI

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,506
  • Like: 39
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 13:56:18 »
ระวังบังหน้ากระจกรถนะครับ อันตราย  :sd42:
เอาไว้บังเวลาติดไฟแดงก็ดีนะครับ กันโดนแอบส่อง  :sd42: :L2905:

ออฟไลน์ หม่อง Pamania

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 847
  • Like: 8
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 15:58:35 »
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ครับ :sd23:
อบอุ่น สุขใจไปกับปามาเนีย..

ออฟไลน์ เอ-วัชรพล

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,554
  • Like: 76
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 16:34:31 »
เอาแบบพิเศษเพิ่มลูกชิ้นก็พอครับ  ผมก็ไม่ได้อะไรมากกว่าเช็คตามระยะ  แต่ที่แนะนำหลังมีการเปลี่ยนหัวฉีดแล้วดังนี้

1. น้ำมันเครื่องสังเคาระห์  (ตัวที่ผมได้รับคำแนะนชี้แนะมาคือ คาสตรอล เอจ ไทเทเนี่ยม  ชุด 6+1 ลิตร   ราคา 1940 บาท) ทุกระยะ 10,000 โล

2. น้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าเลือกได้ก็เชลล์ฟิวเซฟ   ประมาณ 1-2 เดือนก็ผสม V-Power สัก 1000-1500 บาท ( เมื่อจะเดินทางและมีจังหวะอัดทำความเร็วยืนพื้นต่อเนื่อง)

3. กรองโซล่า อันนี้จำเป็นอย่างน้อยก็  1 ชุดต่อ 20,000 โล ประมาณถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งเว้นครั้ง  หรือเปลี่ยนทุกครั้งที่ 10000 โล  ตัวละ 350 บาท
(หากเปลี่ยนช้ากับรถที่ติดกล่องและมีการดัดแปลงให้จ่ายน้ำมันแรงดันสูงเร็วๆ  เมื่อมันตันมักจะมีปัญหาเครื่องไม่เรียบที่ความเร็วมากกว่า 120 kmh จะเหมือนรถโดนลมดึง  กดก็ไม่ค่อยไปวูบๆ  แต่หากกดเรื่อยๆสามารถวิ่งได้)

4. ติด SMG แล้วเปิด mode monitor engine temp หากตอนเช้าเมื่อนำรถมาใช้   เครื่อง 2500 cc  หาก temp ยังไม่ถึง 88 องศาC   อย่าเพิ่งเร่งเครื่องยนต์มากนัก   ระบบเครื่อง ระบบเกียร์จะยังไม่พร้อมทำงาน(เครื่อง 3200 ต้องได้  82 ก่อน  จังหวะเปลี่ยนเกียร์จะยังไม่ปกติ   แต่ไม่ต้องถึงกับจอด wram เครื่อง  ให้ขับได้เลยหลัง start แต่ขับไปเรื่อยๆ  อย่าเพิ่งเค้นคันเร่ง ) 

5. เวลาจะดับเครื่อง  ควรจะดับเมื่อ Engine Temp ลงมาเหลือ 88 (2500cc)หรือ  82-88 (3200cc)    ในทุกครั้งที่ใช้งาน    โดยไม่จำเป็นต้องติด turbo timer ให้เปลืองน้ำมัน

แค่นี้พอครับ (สำหรับรถติดกล่องจะเอาไปใช้ก็ได้นะครับ ข้อ 2-3-4-5 จำเป็นเลย ) ส่วนข้อ 1 ยังไม่ต้อง

ขอบคุณครับ  :sd23: น้ำมันเครื่องสงสัยต้องต่อรองกะศูนย์ขอนำไปเองดีกว่า :sd01:

ออฟไลน์ โบ๊ท[Sathu49]

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,339
  • Like: 20
  • เพศ: ชาย
  • ไม่ไหวจะเคลียร์ อ่อนเพลียจะเอ่ย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 16:39:10 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จดๆๆ เก็บๆ บันทึก และเดินตาม  :L2758:

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 17:00:55 »
เอาไว้บังเวลาติดไฟแดงก็ดีนะครับ กันโดนแอบส่อง  :sd42: :L2905:
อ้าวตำรวจกลัวตำรวจด้วยกันซ่ะแล้ว 555
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ หยก วาฬน้ำเงิน

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,467
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 17:31:32 »
ขอบคุณครับ  :sd23: น้ำมันเครื่องสงสัยต้องต่อรองกะศูนย์ขอนำไปเองดีกว่า :sd01:

เดี๋ยวนี้หลายศูนย์ก็ไม่ยอมให้นำน้ำมันเครื่องไปเองแล้วครับพี่เอ กรณีนี้ต้องเปลี่ยนเองข้างนอกก่อนเข้าศูนย์เช็คระยะเพื่อรักษาสิทธิ์ประกันตามคู่มือครับ

Let's rest in Pa-Mania's style......!!!

ออฟไลน์ เหน่ง

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 52
  • Like: 6
  • เพศ: ชาย
  • กว่าจะได้มาต้องลงทุน
Re: ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2014, 20:13:21 »
ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนครับ ความรู้ที่ไม่ต้องไปถามใครอีก
เสมอต้น..เสมอปลาย..อาจไม่เสมอไป