Pa Mania General (เรื่องทั่วไปปามาเนีย) > Pa Mania On Tour & Meetings

ทริบ New Year 2014 ศรีสัชนาลัย-แพร่-เชียงราย

<< < (16/18) > >>

ตูมตาม:
มาต่อกันครับ

หลังจากไหว้พระที่จุดต่อแดนแล้ว เราก็เดินทางกลับที่พักกันครับ เป็นคืนสุดท้ายในเชียงราย มีการเลี้ยงดื่มกันนิดหน่อย คุณป้าเจ้าของ Home Stay ก็มาแจมกับพวกเราด้วย นั่งคุยเฮฮา คุณป้าเล่าประสบการณ์ต่างๆให้ฟัง ประกอบกับผมเคยเรียนที่อังกฤษ เลยเหมือนนั่งลำดับการรู้จักพวกร้านอาหารไทยในอังกฤษ กับคนไทยที่โน่นกันครับ

หลังจากตื่นมาตอนเช้า แม่ๆในกลุ่มไปที่ตลาดอ.แม่จัน ซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวมาเป็นอาหารเช้าในคณะเราได้ทานกัน เก็บของเตรียมออกเดินทางกันต่อ วันนี้เป็นการเริ่มต้นเดินทางกลับกันแล้วครับ แต่เราไม่ได้ตีรถยาวรวดเดียวถึงกรุงเทพฯ เพราะจะเหนื่อยเกินไป เราวางแผนไว้ว่าจะแวะไปนอนพักที่พิษณุโลกอีกซักคืน ก่อนตีรถกลับกรุงเทพฯในช่วงเช้าครับ

ก่อนออกเดินทางได้รับแจ้งจากน้องของเพื่อนที่อยู่ในตัวเมืองเชียงรายว่ารถเดินทางลงใต้ค่อนข้างมาก ในเมืองรถติดพอสมควรแต่ไม่ถึงกับสาหัสเหมือนวันที่ 1มค. เราเริ่มออกเดินทางช่วงสายๆ การเดินทางก็ไม่มีอะไรมากครับ ออกจากอ.แม่จัน มุ่งหน้าตัวเมืองเชียงราย พอเข้าใกล้ๆเมืองรถเริ่มเยอะ จึงหลบไปใช้เส้นเลี้ยงเมืองโดยเลี้ยวซ้ายเข้าแยกสนามบิน พอถึงหน้าสนามบินแล้วก็เลี้ยงขวาเข้า Bypass วิ่งยาวจนสุดถนนเจอ 3แยกก็เลี้ยวขวากลับเข้าถนนพหลโยธินเส้นหลักอีกครั้ง

จากนั้นก็ใช้เส้นหลักมุ่งหน้าพะเยา ในคณะมีสมาชิกแวะซื้อของฝากกลับกรุงเทพฯกันพอสมควร ทำให้การเดินทางไปได้ค่อนข้างช้า หยุดเป็นช่วงๆ อีกทั้งด่านต่างๆมีการตรวจค่อนข้างเข้มทำให้จะผ่านแต่ละด่านใช้เวลาไปอีกพอสมควร เราล่องใต้ลงมาถึงพะเยาก็เกือบบ่ายโมง จึงแวะทานข้าวกันที่พะเยาก่อน จากนั้นก็แวะไปบริจาคของที่วัดป่าในตัวจ.พะเยาอีกนิดหน่อยแล้วค่อยเดินทางต่อ

ใช้เส้นทาง แพร่ - อุตรดิษฐ์ ถนนช่วงนี้เป็นช่วงขึ้นเขาลงเขา แต่ถนนใหญ่และดีมากๆ ขับสนุก เข้าโค้งมันมาก เรามาถึงอุตรดิษฐ์ประมาณเกือบ 5 โมง ใจจริงถ้ามีเวลาอยากแวะไปเที่ยวเขื่อนสิริกิตย์ซักหน่อย แต่เวลาล่วงเลยมามากแล้ว และตัวเขื่อนต้องแยกออกจากทางหลักไปอีก 50กม. เลยตัดสินใจไม่แวะเข้าไป มุ่งหน้าไปพิษณุโลกกันต่อเลย

เราไปถึงพิษณุโลกประมาณเกือบ 1 ทุ่ม ... ที่พักจองมาล่วงหน้าแล้ว ไม่ต้องหา ... เลยมุ่งหน้าหาข้าวเย็นกินกันก่อน คราวนี้ไม่มีบ้านเพื่อนให้พึ่งพา ต้องหากินเองละ ... ไม่รู้จะไปที่ไหน หลายคนว.มาบอกว่าหิวกันแล้ว เด็กๆก็บ่นหิว ... ผมเลยพาไปกินร้านข้าวต้มชื่อดังตรงเชิงสะพานข้ามทางรถไฟ (จำชื่อไม่ได้ละ จำได้แต่ว่ามีคำว่าผักบุ้งลอยฟ้าอยู่หลังชื่อ)  ตอนขับมาเห็นร้านนี้มีอีกสาขา (สาขา2) อยู่เลยไปทางแยกอินโดจีน คนน้อยกว่า แต่ไม่เคยไปกิน ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า เลยกลับมาตายรังที่สาขาแรก แต่คนเพียบเลย อาหารก็หมดไปหลายอย่าง แต่หิวแล้วไม่อยากย้ายร้านเลยจบที่สาขาหนึ่งตรงเชิงสะพานนี่แหละ จากนั้นก็เข้าที่พักพักผ่อนเตรียมเดินทางพรุ่งนี้กันต่อ

ตื่นเช้ามาเก็บข้าวของเตรียมเดินทางกลับ แต่ไหนๆก็มาถึงพิษณุโลกแล้ว ในโอกาสขึ้นไปใหม่แบบนี้ต้องขอไปกราบพระพุทธชินราชที่วัดใหญ่ซะหน่อย เราเลยไม่ได้ใช้เส้นทาง bypass ลุยฝ่ารถติดเข้าไปที่วัดใหญ่ รถเยอะมากครับตอนไปถึง รถติดอยู่หน้าวัด ด้วยความที่ไม่ได้มานาน เลยไม่ทราบว่าทางวัดรื้อที่จอดด้านหลังก่อสร้างอาคารไปแล้ว อุตสาห์วนเข้าไปกะจะไปจอดที่ลานจอดด้านหลังโบสถ์ ดันไปเจอว่าปิด กลายเป็นสถานที่ก่อสร้างไปซะแล้ว เลยต้องวนออกมาด้านวัดนางพญา โชคดีมีที่ว่างแถวตลาดก่อนถึงวัดนางพญา เลยได้จอดรถแถวนั้น

อากาศที่พิษณุโลกค่อนข้างร้อนทีเดียว ไม่มีเค้าความหนาวเหมือนตอนอยู่ที่แพร่กับเชียงรายเลย ผู้คนในวัดใหญ่เยอะมาก มาศักการะพระพุทธชินราชกันมากมาย แทบจะเดินเข้าไปในโบสถ์ไม่ได้ กว่าจะเบียดเข้าไปได้ก็สาหัสพอควร เพื่อนบางคนถอดใจขอไหว้ที่หน้าโบสถ์ แต่ผมอยากเข้าไปกราบท่าน และอยากถ่ายรูปในโบสถ์ด้วยเลยตลุยฝ่าฝูงชนเข้าไป ได้ถาพระยะไกลมาภาพนึง


จากนั้นก็ฝ่าฝูงชนเข้าไปกราบพระนเรศวรภายในโบสถ์ เลยได้ถ่ายรูปองค์พระพุทธชินราชใกล้ๆอีกรูป ใจจริงอยากถ่ายแบบตรงๆแต่ฝ่าคนเข้าไปไม่ไหว เลยได้ภาพมุมเอียงๆมาแทน

ตูมตาม:
หลังจากออกจากโบสถ์วัดใหญ่แล้ว คณะเราก็ไปหาอะไรกินรองท้องแถวตลาดข้างวัดใหญ่ฝั่งวัดนางพญา ระหว่างทานข้าวเจ้าลูกชายก็มาถามประวัติวัดใหญ่ ผมก็เล่าให้ฟังคร่าวๆว่าเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกมานานแล้ว เจ้าลูกชายสงสัยว่าทำไมวัดเก่าถึงดูไม่เก่า ไม่เห็นมีเจดีย์เก่าๆเหมือนวัดอื่นๆที่ไปเที่ยวมาในทริบนี้ ผมก็เลยบอกว่าถ้าอยากดูเจดีย์เก่าๆก็ลองแวะไปที่วัดนางพญา น่าจะยังมีเหลืออยู่ ก็เลยถือโอกาสเล่าประวัติวัดนางพญาให้ฟังแบบสั้นๆ ว่าเป็นวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยพระนเรศวร ที่ตั้งชื่อว่าวัดนางพญานั้นมีนัยว่าถวายเป็นพระราชกุศลแด่เสด็จแม่และพี่สาวคือพระสุพรรณกัลยาที่ไม่ได้ตามเสด็จกลับมาจากพม่า

พระนางพญาจากวัดนี้ก็เป็น 1 ในพระเบญจภาคีที่หายาก ราคาสูงลิบลิ่ว พระนางพญานั้นก็สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระนเรศวร บรรจุไว้ในพระเจดีย์ภายในวัด และบางส่วนพระองค์ได้พระราชทานให้แก่ทหารที่ออกไปรบกับพระองค์ท่าน และด้วยความที่พระองค์ท่านมีความปรีชาสามารถรบชนะทั้งพม่าและเขมรอย่างต่อเนื่องทำให้พระนางพญาจึงได้รับความนับถืออย่างมาก

ผมเคยได้ฟังเรื่องเล่าจากเซียนพระรุ่นเก่าว่า พระนางพญานั้นถูกพบตอนที่เจดีย์หลังโบสถ์ภายในวัดองค์หนึ่งแตกและพังลงมา จึงพบว่าภายในเจดีย์และที่ใต้ฐานมีพระเครื่องบรรจุอยู่จำนวนมาก ตอนนั้นเจดีย์ที่พังลงมามีบางส่วนตกลงไปในคูน้ำหรือบ่อน้ำใกล้ๆ ทำให้พระนางพญาจำนวนหนึ่งตกลงไปในน้ำด้วย หลังจากมีการพบพระภายในเจดีย์ ก็มีการขุนค้นกันยกใหญ่ มีทั้งที่ขุดโดยได้รับอนุญาติจากทางวัด และการลักลอบขุด สุดท้ายท่านเจ้าอาวาสองค์หนึ่งจึงให้เทปูนบริเวณเจดีย์เดิมนั้นทั้งหมด รวมถึงก่ออิฐล้อมฐานเจดีย์ที่เหลืออยู่เพื่อป้องกันคนลักลอบขุดจนทำให้เจดีย์ที่เหลือพังทลายลงมา จึงเชื่อกันว่าใต้พื้นปูนหลังโบสถ์วัดนางพญาน่าจะยังมีพระนางพญาหลงเหลือตกค้างอยู่ที่ใต้ดินพอสมควร

หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้ว เราจึงเดินไปที่วัดนางพญา พาเจ้าลูกชายไปดูเจดีย์หลังโบสถ์ที่ยังเหลืออยู่


จากนั้นก็เข้าไปกราบพระประธานที่ในโบสถ์ มีผู้คนมาน้อยมากไม่เหมือนกับวัดใหญ่เลยทั้งๆที่อยู่ติดกัน โบสถ์ของวัดนางพญาเล็กกว่ามาก แต่ภายในตกต่างได้สวยงาม องค์พระประธานสร้างขึ้นในลักษณะเดียวกับพระพุทธชินราชที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดใหญ่

ตูมตาม:
เอาละครับ หลังจากที่ออกจากวัดนางพญามาแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับ มุ่งหน้ากรุงเทพ โดยใช้เส้นทางเดิมที่เรามา จากพิษณุโลก ผ่านพิจิตร เข้านครสวรรค์ แวะไปทานข้าวกันที่ริมบึงบอระเพ็ด จากนั้นก็มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เป็นการปิดทริบครั้งนี้

ขอขอบคุณพี่ๆที่ติดตามการรีวิวทริบนี้ของผม ทริบนี้เป็นทริบที่ไม่ได้วางแผนอะไรมากนัก สถานที่ท่องเที่ยวก็พยายามหลีกหนีจากผู้คน จึงเลือกไปเที่ยวในที่ๆไม่โด่งดัง บางที่ผมเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ แต่เมื่อไปแล้วก็พบว่าสถานที่เหล่านี้ก็มีเรื่องราว ที่น่าสนใจ มีบรรยากาศที่ดีแตกต่างกันไป เป็นอีกทริบหนึ่งที่น่าประทับใจ เด็กๆได้มีโอกาสเข้าถึงวิถีชีวิตของคนชนบท และภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างที่ไม่มีให้เห็นในเมืองกรุง และที่สำคัญได้ไหว้พระเยอะมากครับสำหรับทริบนี้ (ไม่รู้จะไปไหนเลยพาไปเที่ยววัด  :sd42: :sd42: )

สุดท้ายนี้ของส่งท้ายทริบนี้ด้วยภาพนี้ละกันนะครับ พาปามาเนียมาไหว้พระขอพรแทนพี่ๆในช่วงปีใหม่นี้ครับ


ขออวยพรให้พี่ๆชาวปามาเนียทุกท่าน มีความสุขในปีใหม่นี้ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง สมหวังดังปรารถนาทุกท่านครับ .... ขอบคุณและสวัสดีครับ

ขาวเข้ม:
เมื่อคืน ค่อยๆอ่านรีวิวพี่ตามแบบเก็บละเอียด หลับคาไอแพดเลย :L4391:

   ชอบมากๆเลยพี่ตาม รีวิวได้ข้อมูลได้ความรู้ด้วย ภาพสวยงามมากครับพี่  :L2900:
ตอนแรกเห็นพี่บอกจะไปน่าน ยังนึกเจอกันแน่เลย ออกวันเดียวกันด้วย พอดีพี่ตามเปลี่ยนแผนไปเชียงราย เลยไม่ได้พบกัน
  แต่ดีแล้วพี่ ที่พี่ไม่เข้าน่าน ผมออกแปดโมงเช้า ถึงเวียงสาสองทุ่ม 12 ชม.สุดยอดมวลมหารถเลย
    ที่น่าน....บนดอยเสมอดาว นี่เรียกว่า ดอยเสมอเต๊นท์ดีกว่า มากมายจริงๆ  :L2736:

หม่อง Pamania:
เลนส์วายพี่ตามทำงานได้ดีมากเลย แถมฝีมือถ่ายภาพได้เยี่ยมทีเดียว :L4384:
พี่ตามใช้ขาตั้งกล้องช่วยหรือเปล่าครับในการถ่ายภาพภายในโบสถ์
ผมดูคอนทราสย์ของภาพยังคิดอยู่เลยว่าพี่ตามเป็นสาวกนิคซะอีกแต่ผมคิดผิด  :sd06:
ไว้มีโอกาสคงได้ศึกษาการถ่ายภาพจากพี่ตามบ้างแล้วละ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว