Pa Mania General (เรื่องทั่วไปปามาเนีย) > Pa Mania On Tour & Meetings
ทริบ New Year 2014 ศรีสัชนาลัย-แพร่-เชียงราย
ตูมตาม:
ระหว่างที่เหล่าพ่อแม่นั่งฟังบรรยายเรื่องกาแฟกัน เด็กๆ ก็ออกไปวิ่งเล่นที่สนามในบริเวณบ้านของน้ายอด สนามหญ้าใหญ่มาก เด็กๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานครับ ผมเองก็ไม่ใช่คอกาแฟ ฟังพอเป็นความรู้ไว้ประดับสมองเท่านั้นเอง ส่วนตอนที่เขาชิมกาแฟกันนั้น ผมก็เลยปลีกตัวออกมานั่งดูเด็กๆวิ่งเล่นในสนาม เลยได้่โอกาสหยิบเอาเจ้าเลนส์ 100-300 ของ Panasonic ออกมาทดสอบซะหน่อยครับ อยากจะลองดูว่าเจ้าเลนส์ตัวนี้เมื่อต่อเข้ากับเจ้า GX7 ตัวใหม่ที่เพิ่งจะถอยมาแล้วจะถ่ายออกมาเป็นยังงัยบ้าง
เอาผลงานมาโชว์ซักนิดนึงครับ
ภาพออกมาใช้ได้ครับ แม้แสงจะต่ำไปหน่อยในบางรูป เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใต้เงาไม้ ภาพออกมาไม่แตกต่างจากตอนเอาเลนส์ตัวนี้ไปใส่ใน GX1 มากนัก แต่การถ่ายนั้นต้องยอมรับเลยว่า GX7 ออกแบบ body มาให้จับถนัดมือกว่า ทำให้การถ่ายนิ่งกว่าครับ และการปรับค่าต่างๆของ GX7 ทำได้ง่ายกว่า GX1 ทำให้การถ่ายภาพทำได้เร็วกว่า
:L2734: :L2734:
ตูมตาม:
--- อ้างจาก: พี่หนึ่ง (noung111) ที่ 8 มกราคม 2014, 23:06:25 ---ทำงานไปอ่านไปตั้งแต่เช้าอ่านได้2หน้า หน้า3พรุ่งนี้มาอ่านต่อ
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และคำบรรยายเหมือนหนังสือ "TRIP" ยังไงยังงั้นครับ :L2900:
--- End quote ---
ขอบคุณพี่หนึ่งที่ติดตามครับ เป็นความภูมิใจที่ได้รับคำชมจากนักเที่ยวอย่างพี่หนึ่งครับ :L4399: :L4399: :L2754: :L2754:
พี่ไซ:
:L4365: :L4365: :L4365:
:L2888: :L2888: :L2888:
ตูมตาม:
หลังจากชิมกาแฟกันจนอิ่มกาเฟอีนแล้ว ก็ถึงคราวต้องมาเติมพลังงานเข้ากระเพาะกันบ้าง เราเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ไม่ไกลจากโรงคั่วกาแฟของน้ายอดมากนัก เพราะเด็กๆวิ่งเล่นมาเป็นชั่วโมง พอออกจากบ้านน้ายอด เด็กๆก็บ่นหิวกันเลย เราก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เจอร้านไหนก็กินร้านนั้น
ระหว่างกินก๋วยเตี๋ยวก็ปรึกษากันต่อว่าช่วงบ่ายจะไปไหนกันดี (เป็นทริบที่ไม่มีการวางแผนเอาซะเลย :sd42: :sd42: ) พวกเรารู้แต่ว่าช่วงเย็น พ่อแม่ของเพื่อนที่เป็นเจ้าบ้านนัดพวกเราไปกินข้าวที่ร้านริมแม่น้ำโขง แถวเชียงแสน ไม่ไกลจุดต่อแดน 3 ประเทศ ไทย-พม่า-ลาว มากนัก เลยคิดว่าจะไปเที่ยวที่จุดต่อแดนนี่แหละ เป็นตลาดการค้าชายแดน ยังไม่เคยไป น่าจะมีอะไรน่าสนใจให้ชมกันบ้าง คุณป้าเจ้าของ Home Stay แนะนำว่าแถวนั้นมีวัดเก่าแก่โบราณน่าแวะไปกราบไหว้ซะหน่อยในวันขึ้นปีใหม่แบบนี้ ... อืม ... วัดเก่าโบราณก็น่าสนใจ จากที่สอบถามคุณป้าทราบว่าวัดอยู่บนเขาริมแม่น้ำโขง ไม่ไกลจากเชียงแสน อยู่บนเส้นทางเชียงแสน - เชียงของ พวกเราก็เลยตัดสินใจไปที่วัดกันก่อน
วัดนี้ชื่อวัดพระธาตุผาเงา ผมเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อนเหมือนกัน ... หาข้อมูลจาก GPS เจอ Destination ... เราใช้เส้นทางพหลโยธินย้อนจากแม่สาย เข้าแม่จัน จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกแม่จัน ใช้เส้นทางแม่จัน-เชียงแสน มุ่งหน้าเชียงแสน ระยะทางไม่ไกลมาก ประมาณ 40 กม. พอถึงวงเวียนหน้าเมืองเชียงแสน เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นเลี่ยงเมืองแล้วมาตัดเข้าเส้นทางวิ่งขนานกับแม่น้ำโขง มุ่งหน้าเชียงของ ถนนช่วงนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ทางเป็นฝุ่นเยอะมาก จากวงเวียนมาไม่ไกล เราก็เห็นภูเขาลูกเล็กๆบริเวณริมน้ำโขง มองเห็นเจดีย์สีขาวๆอยู่บนยอดเขา เดาว่าน่าจะใช่วัดที่เราอยากจะมาแล้วหละ
วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา แต่เนื้อที่ของวัดกินบริเวณภูเขาลูกเล็กๆนี้ทั้งหมด ที่ยอดเขามีเจดีย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ (ผมจำชื่อไม่ได้) เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ ลงมาจาดยอดเขาหน่อยนึงเป็นที่ตั้งของโบสถ์ใหม่ที่สร้างขึ้นโดยพระราชดำริของพระราชินี ส่วนที่เชิงเขานั้นเป็นที่ตั้งของอาคารส่วนใหญ่ของวัดรวมถึงโบสถ์ที่เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อผาเงา และพระธาตุผาเงา (องค์จริง) ก็ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขานี้เช่นกัน
เราเริ่มจากขับรถขึ้นไปบนยอดเขาก่อน ขึ้นไปไหว้เจดีย์ใหญ่กันก่อนเลย
บริเวณยอดเขาสามารถมองลงมาเห็นจุดต่อแดน 3 ประเทศ ไทย-พม่า-ลาวได้
หลังจากเข้าไปไหว้พระภายในเจดีย์แล้ว จริงๆตั้งใจจะลงไปไหว้พระธาตุผาเงาที่ตีนเขาเลย ตอนลงขับผ่านเห็นป้ายทางเข้าโบสถ์ที่อยู่ช่วงกลางเขา เลยกะว่าจะขับแวะไปดูแค่นั้น เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร น่าจะมีแค่โบสถ์ธรรมดาเท่านั้น แต่พอขับเข้าไปเห็นโบสถ์แล้ว ต้องจอดรถลงมาเดินเยี่ยมชมเลยหละครับ สวยงามมากๆ บรรยากาศเงียบสงบมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยซักคน เพราะส่วนใหญ่จะไหว้พระหลวงพ่อผาเงาที่เชิงเขากันหมด
นี่คือภาพด้านหลังโบสถ์ที่ขับรถเข้ามาก็จะเห็นภาพแบบนี้แหละครับที่ทำให้ต้องลงมาเดินถ่ายรูปซะหน่อย
โบสถ์หลังนี้โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นไม้ และมีปูนบางส่วน ประดับตกแต่งด้วยแม้แกะสลักทั้งหลัง รอบๆโบสถ์มีรูปปูนปั้นต่างประดับตกแต่งได้อย่างสวยงาม ฝีมือการสร้างละเอียดสวยงามจริงๆ
รูปปั้นยักษ์บริเวณฐานโบสถ์ สร้างได้อย่างประณีตสวยงามมาก
บริเวณทางขึ้นโบสถ์มีช้างคอยเฝ้าทางขึ้นบันได
เสมาหน้าโบสถ์เป็นผลงานปูนปั้นลายที่สวยงามมากๆ
ซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์เป็นไม้แกะสลักสวยงามเช่นกัน
ภายในโบสถ์ตกแต่งอย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกสงบอย่างมาก มีผลงานไม้แกะสลักมากมายตกแต่งผนังโบสถ์
ตูมตาม:
หลังจากเดินถ่ายรูปรอบโบสถ์อยู่ซักพัก ถึงเวลาลงมาที่เชิงเขาบ้างที่เชิงเขาเป็นที่ตั้งของโบสถ์ที่เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อผาเงาพระประธานของวัดพระธาตุผาเงาแห่งนี้
ท่านเจ้าอาวาสวัดเล่าประวัติวัดนี้ให้ฟังว่า ครั้งแรกที่มีผู้ค้นพบวัดแห่งนี้นั้นมีเพียงเจดีย์พระธาตุผาเงา และมีซากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่ด้านข้างของพระธาตุเท่านั้น ไม่ได้มีโบสถ์ หรืออาคารใดปกคลุมซากองค์พระอยู่เลย หลังจากนั้นชาวบ้านก็เข้ามาถากถางพื้นที่ และมีความคิดว่าจะสร้างโบสถ์ครอบซากองค์พระไว้ พร้อมทั้งอาจจะบูรณะองค์พระขึ้นมาใหม่ แต่ก็มีปาฏิหารย์เกิดขึ้น ท่านเจ้าอาวาสท่านบอกว่าให้เข้าไปดูปาฏิหารนั้นเอาเองภายในโบสถ์
นี่คือโบสถ์หลักของวัด เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อผาเงา สร้างด้วยปูนทั้งหลัง มีการใช้ลวดลายประดับอย่างสวยงาม และสีที่ใช้ก็แปลกกว่าที่วัดอื่นๆ โบสถ์นี้ใช้สีเทาๆ ที่ดูแล้วเคร่งขรึม ไม่เหมือนวัดอื่นๆที่มักใช้สีสดๆ เช่นแดง ทอง
ภาพบรรยากาศภายในโบสถ์ครับ มองจากระยะไกลๆ ยังไม่เห็นปาฏิหารย์ที่ท่านเจ้าอาวาสท่านว่า แต่แปลกๆครับ เพราะมองจากระยะหน้าประตูโบสถ์นี้เห็นแต่ซากขององค์พระที่หักพังไปเกือบหมดแล้ว ไม่ได้มีการบูรณะขึ้นมา และไม่เห็นมีองค์พระประธาน เลยงงๆว่าหลวงพ่อผาเงาคือองค์ไหน หรือจะเป็นองค์ที่หักพังลงมาแล้วก็ไม่น่าจะใช่
พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงจะเข้าใจครับ ที่ตรงฐานขององค์พระที่แตกหักนั้น มีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง องค์เล็กว่า อยู่ในสภาพสมบูรณ์อย่างมาก มองดูเหมือนจะต้องขุดลงไปใต้ฐานขององค์พระที่หักพังลงมาถึงจะเห็นพระพุทธรูปองค์นี้ได้ ท่านเจ้าอาวาสท่านเล่าให้ฟังต่อว่า ตอนที่ชาวบ้านตั้งใจจะบูรณะองค์พระที่หักพังนั้นขึ้นมาใหม่ ก็มีคนฝันว่ามีคนมาบอกให้ขุดลงไปใต้ฐานองค์พระก่อนที่จะดำเนินการสร้างโบสถ์ครอบองค์พระไว้ ชาวบ้านจึงมาขุนที่ใต้ฐานขององค์พระจนพบพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งถูกฝังซ่อนอยู่ใต้องค์พระ ชาวบ้านจึงมาสร้างโบสถ์ครอบไว้ และมิได้บูรณะองค์พระที่หักพัง ปล่อยให้เป็นอยู่อย่างเดิมเช่นนั้น
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version