ปาออสซี่ีหนีเที่ยว ... อช. ทองผาภูมิ ปิล๊อก บ้านอีต่อง

[พี่ตู่ Black PJM]

สงสัย ขับสองอย่างเราคงต้องแอบดู 

ผมก็ขับสองลุยไปบนยอดอีต่องมาแล้ว แต่ไม่ได้แวะลุยตามข้างทางครับ 

[โอ นาเกลือ]

 มารอรับชมภาพสวยๆ จากพี่ตามกับพี่ตุ้ย ลืมกันหรือเปล่าครับ

[พี่ตุ้ย_Yindee]

  มารอรับชมภาพสวยๆ จากพี่ตามกับพี่ตุ้ย ลืมกันหรือเปล่าครับ

นั่นๆมารอชมกันแล้วครับ…
ว่าไงเอ่ย พี่ตาม ครับ
ผมก็รอชมภาพประกอบการเล่าเรื่องอันแสนสนุกนะคร๊าบบบบบบ

 

[ตูมตาม]

นั่นๆมารอชมกันแล้วครับ…
ว่าไงเอ่ย พี่ตาม ครับ
ผมก็รอชมภาพประกอบการเล่าเรื่องอันแสนสนุกนะคร๊าบบบบบบ

 

  กราบขออภัยครับ มัวแต่ไปเป็นเฒ่าเล่านิทานอยู่ครับ ยังไม่ลืมขอรับ เดี๋ยวเอามาลงให้จ้า 

[ตูมตาม]

เอาละครับ หลังจากที่กลับมาจากทริบนี้ ต้องมาทำงานชดใช้หนี้กรรม เพราะหนีงานไปเที่ยว 

เพิ่งจะมีเวลามานั่งดูรูปที่ถ่ายๆเก็บไว้นะครับ .... วันนี้เลยขออนุญาติเอาภาพบางส่วนมาฝากก่อนนะครับ

ขออนุญาติเริ่มทริบจากจุดนี้เลยนะครับ ที่นี่เป็นร้านกาแฟชื่อ Crab Coffee ครับ เป็นจุดนัดพบระหว่างผมกับพี่ตุ้ยตามคำแนะนำของพี่โอครับ ... ขอบคุณพี่โอไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ... ผมมาถึงจุดนัด late กว่าเวลาที่นัดกับพี่ตุ้ยไว้ประมาณ 1ชั่วโมงกว่าๆน่าจะได้ .... พี่ตุ้ยเลยนั่งกินกาแฟรอผมยาวๆได้ ไม่งั้นถ้านัดกันที่ตลาดคงลำบากพี่ตุ้ยน่าดูครับ

 

[ตูมตาม]

จากจุดนัดพบ เราออกเดินทางกันตอนประมาณบ่าย 3โมง เพราะกว่าผมจะมาถึงก็ปาเข้าไปบ่าย2แล้ว เดินทางอีกประมาณ 60 กม. วิ่งเลียบอ่างเก็บน้ำหลังเขื่อนเขาแหลม มุ่งหน้าสู่ อช.ทองผาภูมิ ก่อนถึงตัวอช. ประมาณ 9 กม. มีจุดแวะชมวิว คณะเราอันประกอบไปด้วยรถ 7 คัน 7 ครอบครัว จึงตัดสินใจแวะพักก่อน เพราะเส้นทางขาขึ้นมาประมาณ 20 กม. สุดท้ายนี่ เป็นทางขึ้นอย่างเดียวเลยครับ ปกติเวลาขึ้นเขา ทางมันจะมีขึ้นมีลงสลับกันบ้าง แต่ที่นี่ไม่มีเลยครับ 20 กม. ลากทางขึ้นเขากันแบบยาวๆ ผ่านโค้งน่าจะประมาณซัก 300 กว่าโค้งได้ พลขับเริ่มรู้สึกล้า ฟังจากวิทยุสื่อสาร ผมซึ่งเป็นผู้นำขบวนเลยตัดสินใจจอดแวะพักที่ตรงจุดนี้ซักหน่อยครับ ... อยากจะถ่ายรูปด้วย แต่ดันมาถึงเวลาไม่เหมาะ จุดที่วิวสวยดันต้องถ่ายย้อนแสงครับ พระอาทิตย์กำลังคล้อยลงด้านนั้นพอดี ... ก็เลยต้องถ่ายแบบย้อนๆแบบนี้แหละครับ

เอารูปวิวที่จุดชมวิวมาฝาก





ภาพวิวที่เห็นที่ทำเอาหายเหนื่อยเลยครับ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงามมากๆครับ ไม่ต้องไปถึงเมืองนอกเมืองนา ที่เมืองไทยก็มีวิวสวยๆแบบนี้ให้ดูได้ อากาศก็เย็นสบาย ตอนไปถึงอุณหภูมิประมาณ 20 กว่าๆ กำลังสบายๆเลยครับ

[ตูมตาม]

ออกจากจุดแวะพัก ก็เดินทางต่ออีกไม่ไกล ประมาณ 9กม. ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ พวกเราตัดสินใจเข้าไปเคลียร์เรื่องที่พักกันก่อน เพราะกว่าจะมาถึงก็เกือบ 5โมงแล้ว (แวะที่จุดพักนานไปหน่อย) เลยต้องรีบเข้าไปกางเต้นท์กันก่อน

ที่อช.ทองผาภูมิมีจุดกางเต้นท์ 2 จุดคือเนินกูดดอย และเนินช้างเผือก ... จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ประจำอยู่ตรงจุดแวะพัก เขาแนะนำว่าที่เนินกูดดอยจะมีวิวสวยกว่า แต่ลมจะแรงในช่วงกลางคืน ถ้าไม่อยากเจอลมแรงๆก็ให้ไปกางที่เนินช้างเผือก ... หลังจากเข้ามาที่จุดกางเต้นท์แล้ว เราเลือกกางกันที่เนินกูดดอยเพราะติดใจกับภาพวิวที่สวยงาม และบรรยากาศที่ดีของตรงนี้จริงๆ

จุดกางเต้นท์ที่นี่จะไม่ได้เป็นลานโล่งๆ แต่จะเป็นเนิน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปรับเนินให้กลายเป็นลักษณะขั้นบันไดเพื่อให้สามารถกางเต้นท์ได้ และด้วยความที่มีต้นไม้ปกคลุมเยอะมาก บรรยากาศจึงสงบร่มรื่นดีจริงๆ

เราเลือกกางเต้นท์ที่เนินกูดดอย บรรยากาศ ณ จุดกางเต้นท์ จากเต้นท์เราสามารถมองเห็นวิวได้เลย


เต้นท์ของผมเองครับ Coleman Instant 6 ออกปฏิบัติการอีกครั้ง


ส่วนอันนี้จริงๆก็ของผมเหมือนกัน Coleman Everston 8 เต้นท์ขนาดนอน 8 คน หรือที่เรียกว่า Base Camp คราวนี้เพื่อนผมครอบครัวใหญ่มายืมใช้

[ตูมตาม]

อ้อ ผมลืมไปนิดนึง ตอนเข้ามาถึงที่ทำการอุทยาน เจอกับพนักงานต้อนรับประจำอุทยานนี้ด้วยครับ





ที่นี่มีพนักงานต้อนรับ 2 ตัว เป็นนกเงือกครับ จะอาศัยอยู่ที่ด้านหน้าของที่ทำการอุทยานตลอด เจ้าหน้าที่ป่าไม้เล่าให้ฟังว่าเป็นนกที่มีคนซื้อไปจากพรานป่าที่มาลักลอบล่าไปขาย หลังจากเอาไปเลี้ยงได้ซักพัก ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร เจ้าของเอามาคืนให้กับอุทยานแห่งชาติ แต่การที่เขาถูกนำไปเลี้ยงไว้กับคน ทำให้เขาหากินเองไม่เป็น ทางอุทยานก็เลยเลี้ยงเขาไว้ต่อมา แต่ก็ไม่มีการผูกหรือขังนะครับ ก็ให้เขาบินไปบินมาอยู่ตามต้นไม้แถวนั้น ถึงเวลาให้อาหารเจ้า 2 ตัวนี้ก็จะลงมากินเอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้บอกว่าอยากให้เขากลับเข้าป่าเหมือนกัน แต่เจ้า 2 ตัวนี้ก็ไม่ยอมไป และถ้าไม่ให้อาหารก็คงตาย เพราะเขาหากินเองไม่เป็นแล้ว สรุปก็เลยทำให้ที่อช.ทองผาภูมิมีพนักงานต้อนรับเพิ่มอีก 2 ตัว นักท่องเที่ยวที่มาจะจอดแวะถ่ายรูปกันทุกคนครับ กลายเป็นดาราหน้ากล้องไปเลย

[ตูมตาม]

คืนแรก เราต้องฝากท้องไว้กับร้านค้าสวัสดิการของทางอช. กันก่อนครับ เพราะมาถึงเย็นมาก ไม่มีเวลาเตรียมอาหารแล้ว หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็รีบเข้านอน เพราะตอนเช้าจะตื่นแต่เช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย 

เช้าวันต่อมาตื่นตั้งแต่ตี 5 มาเข้าห้องน้ำ (จะได้ไม่ต้องแย่งกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ) เสร็จแล้วก็ถือเจ้า Micro4/3 มานั่งรอพระอาทิตย์ที่จุดชมวิวเนินกูดดอย ห่างจากเต้นท์ผมไปประมาณ 20 ก้าว 

แสงแรกของวัน




วันนี้ไม่มีทะเลหมอกครับ มีแต่หมอกจางๆที่เบื้องล่าง แต่ก็สวยไปอีกแบบ


ไม่มีหมอกก็ได้หินทิวเขาซ้อนๆกันแทน


พระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาแล้ว


เด็กๆก็ตื่นแต่เช้ามาชมความสวยงามของธรรมชาติด้วยกัน

[โบ๊ท[Sathu49]]

สวยมากเลยครับพี่ตาม 

[ตูมตาม]

เช้าวันแรกเรากินอะไรแบบง่ายๆ อาหารมีเตรียมมาก็พวกขนมปัง แฮม มาม่าคัพ กาแฟ ทำกินกันเองง่ายๆแถวหน้าเต้นท์ เพราะวันนี้ตารางเที่ยวแน่นเพียบเลยครับ ต้องรีบทำเวลา

เราออกจาก อช. ประมาณ 9 โมง มุ่งหน้าสู่บ้านอีต่อง ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลครับประมาณ 8 กม. เท่านั้นเอง จุดแวะเที่ยวจุดแรกคือจุดชมวิวเนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการทางทหารเก่านะครับ ตอนนี้ก็ยังเป็นเขตพื้นที่ของทหาร แต่ไม่มีทหารติดอาวุธมาประจำการแล้ว มีแค่ทหารที่คอยดูแลเพื้นที่ 2 นาย แวะเวียนมาเท่านั้นครับ

วิวจากเนินช้างศึก ที่เห็นด้านขวาของภาพคือบ้านอีต่องครับ


ลานจอดฮอ. ที่เนินช้างศึก ที่นี่อยู่สูงจนดูแล้วเหมือนเมฆจะอยู่ใกล้แค่เอื้มเลย


วิวแบบ Panorama


เนินช้างศึกตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ดังนั้นจึงเห็นวิวได้แบบ 360 องศา


ยังคงมีบังเกอร์ของทหารให้เห็นอยู่ภายในฐานปฏิบัติการ


อนาคตทหารไทย 


เก็บภาพน้องปาน้ำตาลของพี่ตุ้ยบนเนินช้างฝากครับ

[ตูมตาม]

จากเนินช้างศึก ไม่ไกลกันนัก เราก็ไปแวะที่จุดต่อไปที่เรียกว่า อุโมงเหมือง จริงๆเป็นเขาที่มีการเจาะหาสายแร่ เจาะกันจนพรุนไปทั้งเขาเลยครับ และมีบางจุดที่เจาะเป็นอุโมงลึก สามารถเดินเข้าไปชมได้ แต่เนื่องจากคาดว่าคนเจาะน่าจะตัวเลข ดังนั้นอุโมงที่เจาะไว้นั้น สำหรับผมยากมากที่จะเข้าไปได้  ดังนั้นก็เลยขอบ๊ายบายที่ปากอุโมง แล้วเดินเล่นแถวยอดเขาชมวิวดีกว่า (คาดว่าเข้าไปอุโมงอาจจะถล่มได้) 

จากยอดเขาบริเวณอุโมงเหมือง สามารถมองเห็นบ้านอีต่องได้อย่างชัดเจน


เขาที่อยู่บริเวณนี้ทั้งหมดจะมีการเจาะหาสายแร่จนพรุนไปหมด


มีที่นั่งพักเก่ายังคงหลงเหลืออยู่ เมื่อก่อนคาดว่าคงเป็นที่นั่งกินเหล้าแน่ๆ บรรยากาศฟินสุดๆ 


ก่อนลงจากเขาอุโมงเหมือง ขอถ่ายรูปน้องปาออสซี่คู่กับปาน้ำตาลของพี่ตุ้ยซะหน่อย

[พี่ลีโจ]

น้องวินโตเร็วจังกินอะไรมาครับ 

[ตูมตาม]

จุดเที่ยวจุดต่อไป เราต้องเดินทางออกจากเนินช้างศึก ขับรถผ่านบ้านอีต่องไปจนสุดชายแดน จริงๆที่กะจะไปเที่ยวคือช่องมิตรภาพไทย-พม่า ที่มีการเจาะเขาให้เป็นทางสามารถเดินทางเข้าไปในพม่าได้ (คาดว่าสงสัยพี่ตู่จะมีแอบกลับมากินอาหารไทยที่บ้านอีต่องทางนี้แน่ๆ) แต่วันที่เราไปถึง ทางที่จะไปถึงช่องมิตรภาพนั้นปิด เจ้าหน้าที่ปตท. ที่ประจำด่านแถวนั้นแจ้งว่ามีการก่อสร้างวางท่อก๊าซ ไม่สามารถไปถึงช่องมิตรภาพได้ เราเลยไปได้ถึงแค่เนินเสาธง ที่เป็นจุดแวะเที่ยวอีกที่หนึ่งในโปรแกรมของเรา

ที่เนินเสาธงนี้สามารถมองลงไปยังฝั่งพม่า และจะเห็นสถานีก๊าซ ของปตท. ที่อยู่ในฝั่งพม่าด้วย ที่เห็นด้านล่างของรูปคือสถานีที่ฝั่งพม่า ไม่รู้พี่ตู่ทำงานอยู่แถวๆนี้หรือเปล่า แต่คิดว่าคงได้แวะเวียนมาที่สถานีนี้อยู่บ้างละมั้ง



ที่เนินเสาธง ก็ต้องมีเสาธงซินะ ธงไตรรงค์ถึงแม้จะขาด แต่ก็ยังคงโบกสะบัดแสดงถึงความเป็นเอกราชของชาติไทย 

[ตูมตาม]

หลังจากลงมาจากเนินเสาธง เราก็ย้อนกลับมาที่่บ้านอีต่อง เพราะได้เวลาใกล้เที่ยง จะมาหาข้าวกินซะหน่อย

ที่เห็นบ้านฝั่งตรงข้ามน้ำนั่นแหละครับบ้านอีต่อง



ร้านนี้ถ้าจำไม่ผิดพี่ตู่เคยแนะนำไว้ ขอตามรอยพี่ตู่ซะหน่อย แต่ที่นี่ดันไม่มีเห็ดโคนซะนี่ เจ้าของร้านบอกว่าเห็นยังไม่ออก เลยอดกินเยย 



หลังจากกินอาหารเที่ยงกันแล้ว ก็เดินเล่นในหมู่บ้านกันซะหน่อย บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆครับ บ้านเรือนยังเป็นบ้านไม้เก่าๆ ร้านค้าก็ยังมีไม่มาก ยังอยู่ในสภาพดิบๆเดิมๆเป็นส่วนใหญ่




แต่บางจุดก็เริ่มเห็นพร็อพถ่ายรูปมาตั้งแล้ว  อีกหน่อยคงคล้ายๆปาย ที่จะดูปลอมไปทั้งเมือง 



เริ่มคล้ายๆปายละ มีจักรยานมาวางเป็นพร็อพถ่ายรูป มีขายโปสการ์ดให้เขียนแล้วส่งกลับ


ไปรษณีย์ปิล็อก เขียนด้วย Font แปลกๆดี

[ตูมตาม]

จริงๆที่นี่มีจุดท่องเที่ยวอีกที่ที่อยากไปครับคือเขาช้างเผือก อยู่ห่างจากบ้านอีต่องไปอีก 8 กม. ไม่ไกลหรอกครับ แต่ highlight ของเขาช้างเผือกคือ ตรงบริเวณยอดเขาจะเรียกว่า "สันมีด" คือจะเป็นลักษณะทางเดินที่แคบมากๆ ทั้งด้านซ้ายและขวาจะเป็นเนินลาดชันหรือเหวลึกลงไป ในทริบนี้มีเด็กอยู่ประมาณเกือบ 10 คน และอยู่ในวัยซนๆทั้งนั้น การเดินในลักษณะเขาสันมีดแบบนี้ไม่เหมาะแน่ๆ และอีกอย่างหนึ่งคือกว่าจะเดินไปถึงยอดเขาสันมีดและกลับใช้เวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง หมดเวลาเที่ยวอย่างอื่นพอดี ดังนั้นคราวนี้เลยต้องฝากไว้ก่อนสำหรับเขาช้างเผือก ไว้รอลูกโตกว่านี้อีกหน่อยเจอกัน

[ตูมตาม]

หลังจากเดินเที่ยวหมู่บ้านกันซักพักนึงแล้ว บรรดาผบ. ก็ซื้อของซื้อกับข้าวเตรียมสำหรับอาหารเย็นตุนไว้ก่อน เพราะจากนี้จะต้องไปอีก 2 ที่ ไม่แน่ใจว่ากลับออกมาจะมีเวลามาซื้อหรือเปล่า เลยจัดการตุนอาหารใส่รถไว้ก่อนเลย

หลังจากซื้อของเสร็จ เราก็เดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปเป็น highlight ของการเที่ยวบ้านอีต่อง หรือเหมืองปิล็อคเลยครับ เป็นที่ๆทุกคนที่มาเที่ยวพยายามจะไปให้ถึง ที่นั่นคือ "เหมืองสมศักดิ์" หรือ "บ้านป้าเกล็น" ครับ ระยะทางไม่ไกลครับ ทางเข้าอยู่ห่างจาก สภ.อ.ปิล็อคไม่มาก จากปากทางเข้าถึงตัวบ้านป้าเกล็นระยะทาง 5.1 กม. แต่เป็นทางธุรกันดารทั้งหมด ต้องเป็นรถ 4WD เท่านั้นครับถึงจะผ่านไปได้ (แต่ที่บ้านป้าเกล้นแกก็ใช้กระบะ 2WD นะ)  แต่ผมว่า 2WD อย่าเสี่ยงดีกว่า ถ้าใครเอารถ 2WD ไปแนะนำให้จอดรถไว้ที่ สภ.อ. ครับ จะมีรถจากบ้านป้าเกล็นมารับเข้าไป

เอาละครับ เริ่มต้นเส้นทาง 4WD ไปเหมืองสมศักดิ์ หรือบ้านป้าเกล็น


วันนี้ขอติดไว้เท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวคืนนี้มีเวลามาอัพให้ดูกันต่อ

[ตูมตาม]

น้องวินโตเร็วจังกินอะไรมาครับ 

 

[ตูมตาม]

สวยมากเลยครับพี่ตาม 

ขอบคุณครับพี่โบ๊ท 

[.น้องเอก.]

ภาพสวยเหมือนเคยครับพี่ตาม 
ขอบคุณที่พาเที่ยวครับ