Pa Mania General (เรื่องทั่วไปปามาเนีย) > Health & Fitness

ร้ายยยยย...สาระ

<< < (2/4) > >>

พี่ตู่ Black PJM:
ท่าทางช่วงนี้พี่เจมส์เรากำลังเอาใจใส่ดูแลเรื่องของสุขภาพอยู่ หรือไม่ก็กำลังถูก ผบ.ใช้ไปจ่ายตลาดกะให้เป็นพ่อครัวที่บ้าน  :sd42:

หยก วาฬน้ำเงิน:

--- อ้างจาก: พี่ตู่ Black PJM ที่ 19 ตุลาคม 2013, 17:38:12 ---ท่าทางช่วงนี้พี่เจมส์เรากำลังเอาใจใส่ดูแลเรื่องของสุขภาพอยู่ หรือไม่ก็กำลังถูก ผบ.ใช้ไปจ่ายตลาดกะให้เป็นพ่อครัวที่บ้าน  :sd42:

--- End quote ---

สงสัยจะอย่างหลัง :L2739:

พี่นะ [Na ratchada]:
ขอบคุณพี่เจมส์ตกลงที่ลากมาซ่ะยาวเพื่อจะบอกว่ากระชากดีกว่าใช่ไหม 

ผมช่วยใส่ภาพประกอบให้  จะได้เห็นภาพครับ

พี่เจมส์:
เรื่องของกัญชา... หุหุ เอิ๊ก เอิ๊ก


กัญชา (Ganja, Marijuana, Cannabis, Hemp, Weed, Pot ปุ๊น เนื้อ เป็ด etc.)
พืชชนิดนึงที่รับรู้กันดีว่าเป็นสิ่งเสพติดให้โทษ จากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ รวมทั้งจากในทีวี และสื่อทั้งหลายว่าพืชนี้น่ะไม่ดี
เป็นสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมาย นี่คืออีกหลายๆ แง่มุมของกัญชาใบหญ้าต้องห้าม ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนและจะไม่ได้รู้จากสื่อทั่วๆ ไป

กัญชาไม่ใช่ยาที่เสพแล้วติด
กัญชาต่างกับยาเสพติดชนิดอื่น เพราะไม่ว่าคุณจะสูบ หรือกินติดต่อกันนานแค่ไหนก็ตาม คุณจะไม่ลงแดงจากอาการอยากยา
แม้ว่าคุณจะเลิกเสพมันอย่างกระทันหัน เพราะกัญชามันคือพืชจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีใดๆ ที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการอยากยาทั้งทางร่างกาย
และจิตใจ ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับบุหรี่ ที่รู้กันดีว่าเลิกได้ยากเย็นสุดติ่ง จนหลายคนเลิกไม่ได้ต้องสูบไปตลอดชีวิต
เหตุผลก็คือในบุหรี่มีการเติมส่วนผสมถึง 599 ชนิด มันจะกลายสภาพเป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งเมื่อถูกเผาไหม้ ยกตัวอย่างเช่นแอมโมเนีย
หนึ่งในส่วนประกอบของบุหรี่ที่เป็นสารพิษ ส่วนประโยชน์ (ต่อผู้ผลิต) ก็เพื่อเร่งให้สารนิโคตินในใบยาสูบวิ่งเข้าสมองเร็วขึ้น
ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการติดบุหรี่ได้มากขึ้นถึง 100 เท่า

กัญชาไม่ได้ทำลายสมอง
จากการวิจัยของ USCD (University of California at San Diego) ได้ทำการเปรียบเที่ยบการทำงานของสมองของผู้ที่เสพกัญชาเป็นประจำ
จำนวนวน 704 คน กับผู้ที่ไม่ได้เสพ 484 คน พบว่ากัญชาส่งผลกระทบต่อสมองน้อยกว่าคนที่กินเหล้าซะอีก และกัญชาก็ไม่มีผลต่อความสามารถต่างๆ ของผู้เสพ
เช่นการใช้เวลาในการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง คือไม่ได้กลายเป็นคนอืดอาดเชื่องช้า, ยังใช้ความตั้งใจในสิ่งต่างๆได้ดี,
ความสามารถในการให้เหตุผลก็ยังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถในการขับขี่พาหนะก็ไม่ลดลงเช่นกัน ต่างกับเมาเหล้าแล้วขับ
ที่เสี่ยงทั้งชีวิตตัวเองและชีวิตคนอื่น

เหล้า บุหรี่ อันตรายกว่ากัญชา
การที่รัฐบาลจะกำหนดว่าอะไรถูกหรือผิดกฎหมาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนหรอก
เพราะทั้งเหล้าและบุหรี่ ที่รัฐบาลอนุญาติให้ขายและเสพได้อย่างเสรีนั้นก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นสาเหตุให้คนตายปีละเกือบแสนคน
ทั้งโรคมะเร็งปอด ที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้นๆ ที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ และยังก่อให้เกิดความซวยได้ถ้ารับควันมือสองเข้าไป
นิโคตินที่ถูกเผาไหม้มันไม่ได้เข้าปอดคนสูบคนเดียว แต่ไอ้ที่ถูกพ่นและลอยในอากาศมันก็ทำร้ายคนข้างๆ ที่สูดดมควันเข้าไปด้วยเหมือนกัน
ส่วนเหล้านี่ก็เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งตับ และมะเร็งเต้านมที่ฆ่าผู้หญิงเป็นอันดับที่ 3 แถมเหล้าก็เป็นน้ำเปลี่ยนนิสัยที่หลายครั้งก่อให้เกิดเหตุ
ทะเลาะวิวาทในวงเหล้า ที่เดี๋ยวแม่งก็ยิงกันหน้าผับอีกละ แล้วไม่ใช่แค่ฆ่าคนเมาด้วยกันเอง แต่แอลกอฮอล์ยังถือเป็นการฆ่าตัวตายผ่อนส่ง
ไม่ต่างจากบุหรี่ เพราะทั้งนิโคตินและแอลกอฮอล์ล้วนเป็นพิษต่อร่างกายและสมองแถมทำให้เมาค้างตอนเช้า ซึ่งคุณจะไม่พบอาการแฮ้งโอเว่อร์นี้ในกัญชา
และเชื่อหรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่เคยมีใครตายหรือเป็นมะเร็งจากการเสพกัญชาเลยแม้แต่คนเดียว


กัญชาไม่ได้ทำให้ขี้เกียจ
ว่ากันว่ากัญชาทำให้คนสูบขี้เกียจ ไม่มีวันเจริญ ซึ่งข้อนี้มันก็อาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้ มันขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยและความรับผิดชอบของตัวคนสูบ
ว่าจะเอาแต่นอนเมาเกาไข่อยู่หน้าทีวี หรือสูบแล้วรู้หน้าที่ตัวเองและใช้มันในทางสร้างสรรค์ เพราะงั้นก็หยุดโทษใบไม้ว่ามันทำให้ขี้เกียจหรือขาดแรงจูงใจในชีวิตกันซะ
นี่คือตัวอย่างบางส่วนของคนดังที่ประสบความสำเร็จในชีวิตที่สูบกัญชา



เริ่มที่ Michael Phelps นักว่ายน้ำฉลามหนุ่มผู้กวาดเหรียญทองได้เป็นประวัติศาสตร์โลก ก็เพิ่งเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตเมื่อมีภาพเค้ากำลังสูบกัญชาบ้องใหญ่
แม้เจ้าตัวจะออกมาบอกว่าไม่จริ๊งไม่จริงและไม่ยอมรับ แต่สิ่งนึงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือกัญชาไม่ได้ทำให้ปอดของนักว่ายน้ำผู้นี้อ่อนแอลงเลยซักนิดอย่างแน่นอน



พูดถึงกัญชาแล้วจะขาดคนนี้ไปได้ยังไงกัน Bob Marley สุดยอดนักร้องเร็กเก้ อมตะตลาดกาล แม้แต่ตัวตายไปแล้วแต่เสียงเพลงของเค้า
ยังคลาสสิคไปทั่วโลก จารึกไว้ในฐานะนักร้องผู้ชื่นชอบกัญชาและลัทธิรัสตาฟาเรียนนิสม์ (Rastafarianism) ลัทธิที่นับถือกัญชาว่าเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ
เป็นสื่อกลางเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณ บ๊อบ มีลูกชายเท่ๆ อีก 5 คนที่โตขึ้นโดยเจริญรอยตามพ่อบ๊อบ โดยเป็นศิลปินเร็กเก้กันหมด สิ่งนี้อาจพอพิสูจน์ได้อย่างนึงว่า
พ่อที่สูบกัญชาไม่ได้แปลว่าต้องเป็นขี้ยาหรือที่น่ารังเกียจของครอบครัว เพราะบ๊อบเป็นคุณพ่อตัวอย่างและเป็นที่รักสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกๆ ได้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน



ว่ากันว่าสูบกัญชานานๆ จะทำให้สมรรถภาพทางร่างกายลดลง อ่อนแอ เหลาะแหละไม่เป็นผู้เป็นคน แต่ช้าก่อน ถ้าลองดูคนนี้
แล้วอาจทำให้ใครเปลี่ยนความคิดและเปิดสมองได้บ้าง เพราะเอ็ดดี้ บราโว่เองก็สูบกัญชามาช้านาน แต่อาชีพของฮีคือครูสอนวิชาป้องกันตัวสไตล์ Jiu-Jitsu
เป็นพิธีกรในการแข่งขัน UFC แถมมีโรงเรียนสอนวิชาป้องกันตัวของตัวเองถึง 30 แห่ง เป็นนักดนตรี เป็นนักเขียนด้วย
เอ็ดดี้ไม่อายเลยที่จะบอกว่า กัญชานี่แหละคือสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตเค้าประสบความสำเร็จ ช่วยให้เค้าโฟกัสในสิ่งที่ทำมากขึ้น
เป็นเหมือนยาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้เค้า



ยังจำรายการเปิบพิศดาร Fearfactor ที่กินหนอนกินมดแมงสาบไส้วัวกันได้มั้ย นี่คือ พิธีกรมาดนิ่ง Joe Rogan และเค้ายังเป็น MMA Commentator,
ครูสอนวิชาป้องกันตัว, นักตลกเดี่ยวไมโครโฟนฝีปากคมคาย โจ โรแกน บอกว่าเค้าชอบสูบกัญชาแล้วไปออกกำลังกาย และเค้ายังเป็นตัวตั้งตัวตีในการช่วยโปรโมท
ถึงประโยชน์ของกัญชาเพื่อให้กัญชาถูกกฎหมาย ส่วนที่ว่าสูบกัญชาทำให้ขี้เกียจโจบอกว่า
"all weed does is motivate you to not do things that suck. And weed just makes you enjoy whatever you like doing even more.
แปลว่า "กัญชาช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณไม่ทำเรื่องห่วยๆ และช่วยให้สนุกกับสิ่งที่ชอบทำมากกว่าที่เคย" เรื่องห่วยๆ ในที่นี้
ก็ประมาณว่าพวกงานทั้งหลายที่คุณไม่อยากทำแต่ต้องทำ ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพสำหรับพนักงานกินเงินเดือนทั้งหลายที่ยังต้องชงกาแฟให้ผู้จัดการ
และพวกแขกดอยคอยดื่มในห้องประชุม จากปกติที่คุณเคยก้มหน้าก้มตาชงๆ แม่งไป แต่เมื่อคุณเมากัญชา คุณจะสำนึกได้ว่าเอ๊ะนี่กูไม่ได้มีอาชีพชงกาแฟนี่หว่า
หลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะคุณก็จะคิดได้อีกว่า การอยู่ในออฟฟิศวันละ 8 ชั่วโมงนี่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณค้นพบกับความหมายที่แท้จริงหรือความสุขของชีวิต
และตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้ว คุณคือหนึ่งในทาส full time ที่น่าจะรีบๆ หาทางหลุดพ้นจากชีวิตทาสซะที ด้วยการเริ่มคิดเรื่องการมีธุรกิจเล็กๆ ก๊องๆ แก๊งๆ ของตัวเอง
เป็นเจ้านายตัวเอง ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครอยากคิดถึงเพราะแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว



และคนสุดท้าย  Bill Hicks สุดยอดนักตลก Stand-Up Commedian ผู้ล่วงลับ ก็เคยทำเดี่ยวจิกกัดกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาไว้เพียบ
ส่วนความเห็นของ Bill เกี่ยวกับเรื่องสูบกัญชาแล้วขี้เกียจก็คล้ายๆ กับที่โจ โรแกนบอกนั่นคือ
"They lie about marijuana. Tell you pot-smoking makes you unmotivated. Lie! When you're high, you can do everything you normally do, just as well.
You just realize that it's not worth the fucking effort. There is a difference.
"แปลว่า เค้าโกหกเราว่าสูบกัญชาแ้ล้วจะขี้เกียจ โกหกสิ้นดี ตอนที่เมาคุณก็ทำทุกอย่างได้เหมือนกับตอนไม่เมานั่นแหละ แต่คุณจะสำนึกได้มากกว่าเดิมว่า
ไอ้สิ่งที่ทำน่ะมันไม่คุ้มค่ากับความพยามเอาซะเลย เนี่ยแหละที่มันต่างกัน..."

กฎหมายที่ว่ากัญชาผิดกฎหมายนั้นช่างสตอเบอร์แหล

ลองคิดขำๆ ว่ามีหน่วยงานของรัฐเดินเข้าไปในสวนผลไม้หลังบ้านคุณ เดินดิ่งไปที่ต้นน้อยหน่าแล้วหันมาบอกคุณว่าห้ามปลูกนะครับ
น้อยหน่าผิดกฎหมายนะครับ เพราะหน้าตามันเหมือนระเบิดเดี๋ยวจะมีคนเอาไปใช้ผิดวัตุประสงค์ ห้ามปลูกห้ามขายอีกต่อไป คุณคงคิดในใจว่า
เห้ย เอ่อ!!! ไอ้ห่านี่มึงบ้าไปแล้วรึเปล่า ใครมันจะไปห้ามธรรมชาติได้วะ ซึ่งเนี่ยแหละ มันก็เหมือนกับกัญชาที่ไม่ได้ต่างกับต้นไม้อื่นหรอก
ธรรมชาติสร้างมันขึ้นมาเหมือนกัน เพราะงั้นการที่มีคนตั้งกฎแล้วเขียนมันลงในหน้ากระดาษว่ากัญชาผิดกฎหมาย ถ้าใครสูบ มีในครอบครองและขายใบไม้นี้
จะต้องไปนอนในกรงขังน่ะมันไม่ใช้แค่บ้าธรรมดา แต่มันโคตรบ้าอำนาจ ยิ่งกว่านั้น รู้มั้ยว่าที่ออกกฎหมายให้กัญชาผิดกฎหมาย
มันก็ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงและความยุติธรรมเลย เพราะในปี 1553 กัญชามันเคยถูกกฎหมายขนาดที่ใช้จ่ายแทนภาษีได้
แค่นั้นไม่พอ ชาวนาชาวไร่ในสมัยนั้นจะต้องถูกปรับซะด้วยซ้ำหากมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกแต่ไม่ยอมปลูกกัญชา
หรือปลูกแล้วเอามาใช้ไม่ได้ เพราะการไม่ปลูกกัญชาในสมัยนั้นมีโทษและถือว่าผิดกฎหมาย และในปี 1850 มีฟาร์มที่ปลูกกัญชามากถึง 8,300 ฟาร์ม
ส่วนปัจจุบันปี 2012 ถ้าคุณมีแค่ซักต้นนึงในกระถางหลังบ้าน คุณต้องไปเที่ยวห้องกรง เห็นมั้ยว่ากฎหมายที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้กับใบไม้อย่างกัญชานั้น
ไม่ได้เป็นสิ่งที่เที่ยงตรงและแท้จริงเลยซักนิด แต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมสิทธิของมนุษย์อย่างเราๆ ให้เป็นไปตามความต้องการของรัฐบาลแต่ละยุคสมัยเท่านั้นเอง
อย่างในสมัยนี้ ถ้ากัญชาไม่ผิดกฎหมาย รายได้ของรัฐบาลที่ได้จากการเก็บภาษีเหล้าและบุหรี่ก็จะลดลงไปมาก เพราะใครๆ ก็จะปลูกกัญชาและสูบมันเองฟรีๆ
ดีกว่าเสียเงินซื้อเหล้าและบุหรี่ที่ยิ่งสูบยิ่งกินก็เหมือนฆ่าตัวตายผ่อนส่ง

กัญชาเป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพดีเยี่ยม 
กัญชาเป็นวัถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมากมายกว่า 25,000 ชนิด ย้อนไปเมื่อ 12,000 ปีที่แล้ว กัญชาถูกปลูกไว้เพื่อใช้ผลิตกระดาษและวัสดุสิ่งทอที่มีคุณภาพสูง 
กระดาษแผ่นแรกบนโลกนี้ก็ทำขึ้นจากกัญชา และมันเป็นกระดาษที่มีคุณภาพดีที่สุดที่ต่อให้นานยังไงมันก็จะไม่เหลืองและขาดง่ายๆ
คัมภีร์ไบเบิ้ลเล่มแรกของโลกก็เขียนบนกระดาษที่ทำจากกัญชา และยังเอามาทำเป็นเส้นไยไฟเบอร์ผลิตเชือกที่แข็งแรงที่สุด เป็นอาหารสัตว์
แถมยังสกัดเอามาทำน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับรถได้ด้วย และมันยังถือว่าเป็นอาหารที่สุดยอดเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่มนุษย์ต้องการ
ถ้าเอามาทำเป็นน้ำมันสำหรับทำอาหารก็จะไม่ทำลายสุขภาพเพราะมันเป็นไขมันดี รู้มั้ยว่าถุงชาลิปตันก็ทำมาจากกัญชาเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นกัญชายังเป็นพืชเกษตร
ที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของทุกประเทศยากจนได้แบบพลิกเศรษฐกิจโลกได้เลย และด้วยความที่มันคือหญ้า มันเลยปลูกได้โคตรง่ายแบบหว่านไปทางไหนก็ขึ้นเอง

กัญชา กัญชา เป็นยาวิเศษ
นอกจากใส่ในอาหารอร่อยแบบต้องซดจนหยดสุดท้ายแล้ว กัญชายังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้ ช่วยรักษาโรคเบื่ออาหารในผู้ป่วยโรคเอดส์ 
สาร THC ในกัญชายังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยมะเร็ง รักษาโรคไขมันอุดตันของหลอดเลือดจากการสูบบุหรี่  โรคหัวใจ แม้แต่มะเร็งผิวหนังก็มีคนหายมาแล้ว
เพราะทาน้ำมันกัญชาที่เรียกว่า Hemp Oil กัญชายังเป็นยานอนหลับฉบับธรรมชาติที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และโรคทางจิตเวทอย่างโรคซึมเศร้าก็ช่วยได้โดย Side Effect ของมัน
ก็คือช่วยให้คุณอารมณ์ดีและหัวเราะ ซึ่งก็ดีกว่ากินยาผสมฟลูโอไรด์อย่าง Prozac ที่ทำให้สุขภาพแย่ลงไม่ต่างจากกินยาพิษ และความวิเศษของกัญชาแบบ Non Toxic นี่เองที่อาจจะทำให้กัญชาเป็นพืชต้องห้าม เพราะถ้ามันถูกกฎหมายแบบใครก็ปลูกได้ แล้วใครล่ะ จะอยากไปเสียเงินมากมายเป็นหมื่นเป็นแสน
ให้คลีนิคและโรงพยาบาล รู้มั้ยว่าธุรกิจของพวกโรงบาลแพทย์แผนตะวันตกนั้นทำรายได้มากที่สุดในโลกเป็นอันดับสองรองจากธุรกิจค้าอาวุธ
โชคดีหน่อยที่แม้ปัจจุบันในบางรัฐของอเมริกา เม็กซิโก และแคลิฟอเนีย เค้าอนุญาติให้ขายกัญชาแก่ผู้ป่วยได้แล้ว แต่ทุกคนก็ต้องได้รับอนุญาติจากหมอก่อนอยู่ดี...




กัญชากับศาสนา
นับพันนับหมื่นปีมาแล้วนะทุกคน ที่กัญชาถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในหลายๆ ศาสนาทั่วโลกทั้งแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย
อย่างฮินดูเองก็มีเทพที่ชื่อว่า Shiva หรือไทยเราเรียกว่าพระศิวะนั่นแหละ กัญชาที่พระศิวะสูบเรียกว่า "โอสถมวน" แปลว่าของมึนเมาแห่งจักรวาล
แถมเค้ามีพิธีเจ๋งๆ ที่เรียกว่า "ศิวะราตรี" จัดขึ้นในเนปาล โดยจะมีพวกนักบวชและนักแสวงบุญมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายเพื่อสูบกัญชากันแบบ Non Stop 1 วัน 1 คืนเต็มๆ
เพื่อถวายแก่พระศิวะ ว้าววว...

Shiva Night


อีกหนึ่งศาสนาที่เกี่ยวกับกัญชาคือ ราสตาฟาเรียน (Rastafarian) ศาสนาที่มีรากฐานมาจากจาไมก้า ศาสนานี้เค้ามีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในกัญชา
แรกๆ ชาวจาไมก้าเค้าใช้กัญชาเป็นยาสมุนไพร เอามาต้มๆ เป็นชา น่าจะคล้ายๆ กับวิธีการกินยาจีนยาหม้อบ้านเรา แต่ก็มีแบบสูบด้วยเหมือนกัน
ชาวราสตาฟาเรียนยังให้ชื่อกัญชาว่าเป็น "Wisdom Weed" หญ้าแห่งปัญญา บอกว่าเป็นพืชที่จะช่วยให้ฉลาดขึ้น
โดยช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณภายในตัวเองมากกว่าเดิม ซึ่งข้อนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่มีวิญญาณ คุณควรจะรู้จักวิญญาณของตัวเองให้แท้จริง
เพราะไม่มีใครบนโลกนี้จะรู้จักวิญญาณของคุณเองได้ดีไปกว่าตัวคุณ แต่คุณต้องให้เวลาค้นหาความหมายของชีวิตคุณเอง เพื่อจะุได้รู้ว่าชีวิตของคุณนั้นต้องการอะไรอีก
นอกจากแบล็กเบอรี่ ไอแพด ไอโฟน ความขาวและกล้ามเนื้อไบเซบ เพื่อการพัฒนาตัวตนภายในของคุณให้สูงขึ้นเพื่อค้นพบกับความสุขที่แท้จริงด้วยตัวของคุณเอง
และสำหรับชาวราสตาฟาเรียนแล้วเค้ายกให้กัญชาเป็นส่วนช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณของตัวเองได้ง่ายขึ้น นี่แหละที่เรียกว่าความฉลาดตามความหมายของราสตาฟาเรียน
ไม่เกี่ยวกับคะแนนหรือ GPA ที่คนอื่นระบุให้คุณ แต่เป็นคุณที่พัฒนาวิญญาณของคุณไปตลอดชีวิต เพราะเนื้อหนังมังสาภายนอกไม่ได้จีรังยั่งยืน
ไม่ใ่ช่สิ่งแท้จริงและไม่ใช่ของคุณด้วยซ้ำ วิญญาณตังหากจะเ็ป็นสิ่งที่ระบุตัวตนของคุณและเป็นสิ่งเดียวที่ยังอยู่หลังจากคุณตาย

Rastafarian

แดง เขียว เหลือง สัญลักษณ์ของ Rastafarian


กัญชากับโยคะ
ส่วนตัวเฟิร์ส (ผู้เขียน) เองมีโอกาศได้ฝึกโยคะได้เกือบๆ 2 ปี และก็ชอบมากจริงๆ ทำให้รู้ว่าร่างกายของเรานั้นมันยืดได้กว่าที่คิด 
ว่าไปมันไม่ใช่แค่กิจกรรมสำหรับคนที่สนใจโยคะตามคลาสหรอก แต่โยคะเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำทุกวันเพื่อยืดเส้นยืดสาย เพราะมันช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ทุกส่วนจริงๆ นะ
คุณจะรู้จักส่วนต่างๆ ของร่างกายดีขึ้นและรู้ว่าจะทำท่าไหนให้ส่วนที่ตึง ได้คลาย พอไอ้ส่วนที่มันตึงได้โดนปล่อย ระบบเลือดไหวเวียน มันก็ส่งผลถึงอารมณ์ของคุณด้วย
ปัจจุบันมีการเอากัญชาเข้ามาผสมผสานกับการทำโยคะด้วย เรียกว่า “Ganja Yoga” มีการสูบแบบจริงๆ จังๆ ในห้องโยคะกันเลยทีเดียวแหละ
เค้าบอกว่ามันทำให้ผ่อนคลายได้ลึกขึ้น โดยครูสอนโยคะเปรียบกัญชาว่ามันก็เหมือนกับเกลือบนอาหารนั่นแหละ คือช่วยเพิ่มรสชาดให้การทำโยคะนุ่มนวลกว่าเดิม

:

ทั้งหมดทั้งปวงที่เขียนๆ มา ไม่ว่าจะเรื่องกัญชาไม่ทำให้คุณกลายเป็นคนติดยาแบบที่สังคมชอบประนามกัน
หนำซ้ำยังอันตรายน้อยกว่าเหล้าและบุหรี่ที่ถูกกฎหมายขายกันเกลื่อนซะอีก ไหนจะเป็นยาวิเศษช่วยรักษาโรคได้ทั้งกายและจิตใจ
เป็นวัตถุดิบช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และช่วยพัฒนาตัวตนของคุณ นี่ก็แสดงให้เห็นได้แล้วล่ะว่า กัญชาน่ามีประโยชน์กับมนุษย์ซะมากกว่าจะทำร้ายเรา
แต่สิ่งที่บั่นทอนเรามากกว่าใบหญ้าที่เรียกว่ากัญชานั่นก็คือ..."กฎหมายบ้าๆ" ที่ออกมาควบคุมสิทธิของเราทุกคนให้อยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่เค้ากำหนด
คุณพอจะเซ็งบ้างรึยังกับพวกบ้าอำนาจที่ออกกฎเพื่อประโยชน์ของตัวเองโดยไร้ความยุติธรรมและคุณธรรม












กฎหมาย...อาจล้างสมองใครบางคนให้กลัวพืชได้ แต่ก็คงไม่ใช่กับใครอีกหลายคน แล้วคุณล่ะ ?

ที่มาทั้งหมด เครดิตโดย : first on fire.com

ปูลู : แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ไม่ได้ชี้ช่องให้คุณกระทำผิด เพียงอยากให้รู้ว่าแท้จริงแล้ว "กัญชามันก็แค่หญ้าแห้งๆ" แค่นั้นเอง

พี่เจมส์:
ว่าจะแถมให้ เกือบลืมจนได้

เนื้อกับหนัง
วงดนตรีแนว Heavy Metal..รุ่นแรกของเมืองไทย
ชื่อชุด ฆาต-กัญชา ปี 2526

http://www.youtube.com/watch?v=08HMzulCeB4



คนเราโศรกเศร้า หงอยเหงา หรือแม้กระทั่งดีใจ
อ้าปากตะโกนออกไป ผ่อนคลายดีเหลือเกิน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version