Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Miscellaneous

ตร.เตรียมห้ามรถอายุเกิน7ปี วิ่งพื้นที่กทม. จริงเท็จยังไงรู้ไว้ก่อนก็ดี

(1/5) > >>

tod:
พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงแผนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาระบบการจราจรในกรุงเทพมหานคร โดยระบุถึงกรณีการเตรียมนำรถยกมาใช้ จะเป็นการใช้ข้อกฎหมายเดิม คือความผิด พ.ร.บ.จราจรมาตรา 57และ 59 ห้ามจอดในที่ห้ามฝ่าฝืน มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลอีกวันละ 200 บาท
โดยเปลี่ยนวิธีการบังคับใช้จากการบังคับล้อเป็นการใช้รถยก และจะบังคับใช้เฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น โดยหลังจากนี้ จะมีการประชุมกับกระทรวงคมนาคม และจะมีการประชาสัมพันธ์กับประชาชนได้ทราบ ซึ่งคาดว่าจะมีการเตรียมบังคับใช้ภายในต้นเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ เตรียมการเสนอโครงการจำกัดอายุการใช้งานรถยนต์ต่อรัฐบาล อาทิ รถอายุเกิน 7-10 ปี ห้ามนำเข้ามาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งหากนำเข้ามาวิ่งจะต้องเสียภาษีเทียบเท่ารถใหม่ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจราจร อาทิ การเสียค่าปรับกรณีทำการจราจรติดขัด นาทีละ 100 บาท พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยว่า สำหรับแนวคิดดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งคาดว่า ในอนาคตอาจจะมีการนำมาหารือและบังคับใช้ได้

ที่มา........
http://news.mthai.com/general-news/275554.html

ผมอยู่ตจว.ค่อยดีหน่อย แต่สงสารน้องปาใน กทม.จัง 7 ปี คงขายกันหมด
 :L4386:


surut jantorn:
ข้าราชการไทยนี่มันงี่เง่า ปัญญาอ่อนสิ้นดี มันคิดได้แค่นี้อ่ะนะ มันเป็นการปัญหาที่ปลายเหตุ

พี่เอ็กซ์ Exit8689:
 :L4365: แล้วจะทำอย่างไรกันดีคร้าบ  :L4386:

หยก วาฬน้ำเงิน:
จำกัดอายุรถ 7 ปียังไม่น่ากังวลเท่าจำกัดการใช้งานบนถนนตามเลขทะเบียนตัวท้ายครับผม หลายๆประเทศที่จำนวนรถยนต์บนถนนมีมากกว่าพื้นที่จะให้รถวิ่งเช่นจีนและฟิลิปปินส์ เขาจำกัดการใช้งานรถตามเลขทะเบียน เช่น ลงท้ายเลข 1-2 ห้ามขับวันจันทร์ ลงท้ายเลข 3-4 ห้ามขับวันอังคาร เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ปักกิ่งเขาห้ามรถมอไซค์ที่ใช้น้ำมันมาขี่ในเขตเมือง จะขี่ได้ต้องเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น ดีไปอย่างที่เสียงไม่ดังและไม่มีควันเหม็นๆด้วย แต่เสียตรงที่มันไม่มีเสียงเนี่ยแหละ เดินๆอยู่มันมาด้านหลังเราไม่รู้เลยอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ

อีกอย่างไอเดียที่จะเก็บค่าปรับกรณีรถเสียทำให้จราจรติดขัดนาทีละ 100 บาทนั้นผมเห็นด้วยนะ แต่ไม่คิดว่าจะใช้ที่เมืองไทยได้ผล ง่ายๆเลยครับว่าจะเริ่มคิดตั้งแต่นาทีที่เท่าไหร่ ใครประเมิน แล้วใครมันจะยอมจ่ายครับ วันๆนึงผมเห็นมีรถเสียตั้งมากมาย ที่จริงถ้าตั้งใจจะแก้ปัญหาจราจรจริงๆควรจะติดกล้องบันทึกภาพตรงทางร่วม-ทางแยกทุกแห่ง ใครแซงซ้ายปาดเข้าขวา แซงขวาติดไฟแดงปาดเข้าเลนซ้าย ก็ส่งจม.รักไปเก็บเงินที่บ้านเหมือนขับรถเร็วอ่ะครับ อันนี้ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะแก้ปัญหาได้

เมืองไทยนี่ไม่รู้ยังไง อะไรที่ควรทำ ทำแล้วได้ประโยชน์กลับไม่ทำ อะไรที่ส่วนรวมไม่ได้ประโยชน์ชัดเจนเห็นทำกันจัง แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เราจะพัฒนาซักทีล่ะ :sd06: :sd06: :sd06:

โอ นาเกลือ:
ความเห็นส่วนตัวครับ
   
      อายุรถไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาจราจรครับ ถ้าเอาอายุรถมาเป็นประเด็นในการเปลี่ยนแปลง

คงต้องบอกว่ากลับไปหาสิ่งที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดปัญหาตัวจริง  มาแก้ใขจะดีกว่า 

      ถ้าคิดได้แค่นี้  คงไม่สามารถคิดได้หรอกว่า ปัญหาที่จะตามมาจากแนวความคิดนี้ มันจะสาหัสแค่ใหน

ถ้าไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุจริงๆ ครับ

      ช่วงนี้มีข่าวความคิดออกมาตรการในการจัดการจราจรออกมา หลายข่าว แต่ละข่าวมักจะเอาตัวเองออกมาเป็นตัวตั้งโจทก์

เพื่อที่จะแก้ปัญหา เหมือนว่าจะหวังดีออกไอเดียแบบ ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนหรือเปล่าว่า ถ้าทำจริงอาจสร้างความเดึอดร้อน

ให้กับคนส่วนใหญ่ และไม่ได้ทำให้ปัญหาจราจรลดลงได้ด้วยไอเดียแบบนี้

     หากมาตรการพวกนี้สามารถนำมาใข้ จะได้ใช้แบบเสมอภาคกัน ในรถทุกคัน แบบเสมอภาคหรือเปล่า เช่น รถเมล์

รถสาธารณะ รถราชการ รถบรรทุก รถกู้ภัย รถพยาบาล

     อีกตัวอย่างที่ พี่หยก ว่า การใช้เลขท้ายทะเบียนมาจำกัดวันวิ่ง ประเทศที่ใช้อยู่ก็มีปัญหารถเพิ่มขึ้น ด้วยสาเหตุที่คนที่จำเป็น

ต้องใช้รถทุกวันต้องหารถมาเพิ่มเพื่อไม่ให้ถูกจำกัดวันในการวิ่ง

     และถ้ามาตการทำนองนี้ไม่ได้ลดปัญหา แนวทางการแก้ไข หรือ ความรับผิดชอบจะมีมั๊ย(ด้วยวิธีใด)   




   

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version