Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Miscellaneous
คิดอย่างไรกรณีที่บ้านกับโรงเรียนไกลกัน
โอ นาเกลือ:
พี่ก้อง ขอถามเป็นข้อมูลหน่อยว่า โรงเรียนนี้มีแค่ประถม หรือสามารถเรียนต่อได้จนจบมัธยมเลยหรือเปล่าครับ
หรือว่าพอจบประถมต้องหาที่เรียนใหม่ครับ
ตูมตาม:
--- อ้างจาก: โอ นาเกลือ ที่ 9 กันยายน 2013, 14:13:58 --- พี่ก้อง ขอถามเป็นข้อมูลหน่อยว่า โรงเรียนนี้มีแค่ประถม หรือสามารถเรียนต่อได้จนจบมัธยมเลยหรือเปล่าครับ
หรือว่าพอจบประถมต้องหาที่เรียนใหม่ครับ
--- End quote ---
อัสสัมชัญบางรักมีฝ่ายมัธยมครับ....แต่การต่อเนื่องจากประถมไปมัธยม....เขาจะถือว่าเป็นเด็กใน...อาจไม่ต้องสอบ แต่คะแนนอาจต้องผ่านเกณฑ์ครับ ประมาณนั้น
NGL:
อันนี้ไม่มีความเห็นครับ เพราะบ้านที่พี่ก้องอยู่กับโรงเรียนที่พี่จะไปส่งลูกไกลแบบไหนผมก็ไม่รู้ แต่ตอนที่ลูกผมเข้าโรงเรียน ผบถามว่าจะให้ลูกเรียนที่ไหน ผมตอบว่า" พ่อมันเรียนที่ไหนก็ให้มันเรียนที่นั่นแหละ มันจะดีจะชั่วไม่ได้อยู่ที่โรงเรียน พ่อมันเรียนแค่โรงเรียนประจำตำบลก็ยังเลี้ยงมันโตได้ ส่วนถ้ามันรักเรียน เข้าของรัฐไม่ได้ ก็ให้เรียนเอกชลไป ขอแค่รักเรียนเท่านั้นที่เรียนมิใช่ปัญหา " มันเป็นแค่ความคิดผมนะพี่เล่าสู่กันฟัง :L2736:
ตูมตาม:
มาเหลาให้พี่ก้องฟังซะหน่อย.....ผมเป็นคนนึงที่เคยต้องตัดสินใจกับเรื่องนี้ครับ
สมัยเด็กๆ บ้านผมอยู่แถวคลองเตยครับ....ตอนอยู่ประถมเรียนสาธิตจุฬาฯ ไม่มีปัญหามากนัก เพราะรถติดไม่สาหัส และระยะทางไม่ไกล.....พอขึ้นมัธยมย้ายไปเรียนสวนกุหลาบแถวสะพานพุทธ....ระยะทางมากขึ้นเท่าตัว การจราจรถือว่าสาหัสเอาการ โดยเฉพาะขากลับ.....ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ยังไม่สว่าง....ออกจากโรงเรียนประมาณ 5 โมง กว่าจะถึงบ้านก็เกือบทุ่ม....ใช้เวลาอยู่ในรถประมาณวันละ 2-3 ชั่วโมง.....มันเป็นอะไรที่ทรมานมากครับ....นี่ขนาดการจราจรตอนนั้นไม่สาหัสเหมือนปัจจุบันนะครับ
พอผมมีลูก....ผมไม่อยากที่สุดคือให้ลูก "โตในรถ".....ผมเห็นพ่อแม่ที่เอาลูกเข้าอัสสัมฯ คริสเตียนฯ เซ็นฟรังฯ เซ็นกาเบรียลฯ.....ออกจากบ้านตั้งแต่ยังไม่สว่าง...บางคนลูกต้องแต่งตัวในรถ กินข้าวกันในรถ.....ฝ่าการจราจรที่เข้าขั้นสาหัส....คิดดูครับเวลาเราเจอการจราจรสาหัสอารมย์ของเราพ่อแม่เป็นอย่างไร.....ไม่มีใครอารมย์ดีหรอกครับ.....อารมย์เหล่านี้ก็จะถ่ายทอดไปให้ลูกโดยเราไม่รู้ตัว......มันไม่ดีต่อสุขภาพจิตของเด็กอย่างยิ่ง.....และพฤติกรรมของเราเองเวลาเจอรถติดนี่แหละครับ (ผมเชื่อว่าเวลาเราเจอรถติดหนักๆ พฤติกรรมเราไม่ดีหรอกครับ มีด่า มีบ่น มีแสดงอาการเห็นแก่ตัว ปาด เบียด แทรกกันตลอด) พฤติกรรมแบบนี้แหละครับ มันจะปลูกฝังสิ่งไม่ดีให้กับเด็ก โดยที่เราไม่รู้ตัว
การที่ยอมทรมานรถติดมหาศาล สุขภาพจิตแย่แบบนั้นเพื่ออะไร.....สิ่งที่แลกมาคือลูกได้เข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียง.....ถามจริงๆว่าไอ้การเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงนี่ตัวเด็กได้อะไร.......ผมคิดว่าเดี๋ยวนี้โรงเรียนที่ดีๆไม่ได้จำกัดอยู่แค่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงเท่านั้น......ผมเองก็เรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมาตลอด......ติดยาตายก็มี....เอ็นไม่ติด ลอยไปลอยมาก็มาก.....ที่ได้ดิบได้ดีก็เยอะ....ผมคิดว่ามันแล้วแต่ตัวเด็กเองมากกว่า.....ชีวิตไม่ได้วัดแค่เรียนจากที่ไหน.....มันมาวัดกันตอนโต ตอนทำงานมากกว่า
ดังนั้นในความคิดผม....ผมอยากให้ลูกโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี....มีสุขภาพจิตที่ดี...มี EQ ที่ดี......ส่วนเรื่องวิชาการนั้นไว้ว่ากันตอนโตก็ยังไม่สาย......ผมเลยเลือกโรงเรียนที่สภาพแวดล้อมดี ที่อยู่ไม่ไกลบ้านครับ....ขับรถประมาณ 15 นาทีจากบ้าน......เช้า ผมยังไปส่งเช้ามากครับ ถึงโรงเรียนตั้งแต่ก่อน 7 โมงเช้า เพื่อให้ลูกได้เล่น ได้ทำกิจกรรมก่อนที่จะเข้าเรียน.....เขาได้เล่นกับเพื่อน ได้คุยกับครู ผมว่ามีประโยชน์กว่าเสียเวลา 2 ชั่วโมงอยู่บนถนน นั่งฟังพ่อแม่ด่ารถคันหน้า หรือสบถเรื่องรถติด........ส่วนตัวเย็นก็ไม่ต้องรีบไปรับครับ......เพราะรถไม่ติด....ผมไปรับประมาณ 4.30....แล้วก็พาไปเล่นกีฬาบ้าง ไปเล่นดนตรีบ้าง แล้วแต่จะสนใจ.....ว่ายน้ำซักชั่วโมง หรือไป drive golf ซักชั่วโมง....ดีกว่านั่งอยู่ในรถเหมือนกันครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ.....แค่มาแชร์ในอีกมุมมองหนึ่งให้ฟังครับ......ไม่ได้มา motivate ให้เชื่อกันนะครับ....และไม่ได้แปลว่าเอาลูกเข้าโรงเรียนดังๆแล้วจะไม่ดี.....มันก็มีข้อดีของมันครับ.....เพียงแต่ผมเลือกมองด้านนี้มากกว่าครับ
:sd23: :sd23:
surut jantorn:
แม้...พี่ตามพูดน่าคิด :L2736:
ส่วนตัวผมก็ต้องวางแผนแล้วเหมือนกัน :L2732:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version