Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Miscellaneous

หยดเหลือง ๆ จากฟากฟ้า

<< < (2/6) > >>

เต้ย แม่กลอง:
เป็นน้ำยา ที่เมื่อก่อนเคยใช้ครับ หลัง ๆ มานี่ ไม่ค่อยใช้ เท่าไหร่ครับ

แม็ค พัทยา MrMacSayHi:

--- อ้างจาก: เต้ย แม่กลอง ที่ 26 สิงหาคม 2013, 20:31:20 ---เป็นน้ำยา ที่เมื่อก่อนเคยใช้ครับ หลัง ๆ มานี่ ไม่ค่อยใช้ เท่าไหร่ครับ

--- End quote ---


ผมมีติดรถไว้เลยนะครับ เจอเมื่อไหร่มันช่วยได้ครับ ถ้าช่วยไม่ได้ผมก็จะลองดูอีกสองตัวที่เหลือ ก็เรามีรถสีขาวนี่ครับ มันเลยเห็นง่ายกว่าใครเค้า  :L2754: :L2754: :L2754:

เต้ย แม่กลอง:
เดี๋ยว คงได้ซื้อติดรถ ไว้ล้างครับ

เต้ย แม่กลอง:
จำได้ว่า เมื่อ สักปี สองปี ที่เกิดหยดเหลือง ๆ ใหม่ ๆ รายการของสรยุทธก็เคยนำเสนอเรื่องนี้ แต่ก็เหมือนเงียบหายไป

เมื่อครู่เลยลองค้นหาในเน็ตดู


--- อ้างจาก: ร้องจนท.ตรวจสอบหลังพบหยดน้ำคล้ายอึตกจากฟ้าใส่บ้านร่วม 2 เดือน ---
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   20 กุมภาพันธ์ 2550 16:08 น.        


       เชียงใหม่ -ชาวบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเดือดร้อนจากหยดน้ำประหลาด ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า มีกลิ่นคล้ายอุจจาระ วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เกรงว่าจะเป็นสารพิษอันตราย
       
       ครอบครัวข้าราชการตำรวจ ที่พักอาศัยในแฟลตของสถานีตำรวจภูธรตำบลช้างเผือก ในตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 100 ครอบครัว บริเวณถนนโชตนา ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากหยดน้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ลักษณะสีเหลืองมีกลิ่นเหม็นคล้ายอุจจาระมาเป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน ทำให้ไม่สามารถตากผ้าหรือสิ่งของไว้กลางแจ้งได้ นอกจากนั้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้บริเวณหน้าแฟลตมีแต่รอยคราบหยดน้ำสีเหลือง ที่ตกลงมาจนสกปรกเลอะเทอะ
       
       ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว บอกว่า ก่อนที่ละอองหรือหยดน้ำจะตกลงมา ได้สังเกตและเฝ้าติดตามมานานนับเดือน พบว่ามีเครื่องบินพาณิชย์บินผ่าน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเลี้ยวของเส้นทางเครื่องบิน หลังขึ้นบินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ จากนั้นไม่เกิน 10 นาทีจะมีละอองหรือหยดน้ำตกลงมาจากท้องฟ้า และมักจะเกิดก่อนเวลา 11.00 น. จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และพิสูจน์หาสาเหตุโดยเร็ว เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตราย
       
       ล่าสุดวันนี้(20 ก.พ.50)เจ้าหน้าที่สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่เข้า ไปพิสูจน์ แต่กลับไม่พบละอองและหยดน้ำ และได้สอบถามชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งยังยืนยันว่า มีละอองหรือหยดน้ำสีเหลืองที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจริง หลังจากเครื่องบินบินผ่านไม่ใช่ปลิว หรือตกมาจากบริเวณอาคารใกล้เคียง
       
       นายสุเทพ ฟองศรี นักวิชาการ สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่บอกว่า เบื้องต้นจะใช้สำลีเเช็ดคราบหยดน้ำสีเหลือง ที่ติดตามตัวถังรถยนต์และตามหน้าแฟลตเป็นตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์ ทางเคมีโดยแช่ในน้ำยา เอช ไอ ทูหากเป็นอุจจาระ จะมีโคโลฟอร์มของแบคทีเรีย คาดว่าจะทราบผลภายใน 18 ชั่วโมงหรือในวันพรุ่งนี้ ( 21 ก.พ. 50 )
       
       วิธีที่สอง ได้เก็บตัวอย่างไปเพาะเลี้ยงเชื้อ และตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า หยดน้ำประหลาดที่พบเป็นมาจากแหล่งใดต้องรอยืนยันผลการตรวจก่อน
--- End quote ---

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000020833

เต้ย แม่กลอง:

--- อ้างถึง ---"แม่รำพึง" ยังคาใจ วอน "จุฬา-มหิดล" ชี้แจง ฝุ่นเหลืองจากฟ้ามาได้อย่างไร
Sun, 2008-08-24 00:44


หลังจากที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แถลงผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำฝน และฝุ่นสีเหลืองที่ตกใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามการร้องเรียนของชาวบ้านที่อ้างว่า เป็นมลภาวะที่เกิดจากมาจากโครงการโรงถลุงเหล็กเครือสหวิริยา โดยระบุว่า ตัวอย่างน้ำฝนที่เก็บจากหลังคาของชาวบ้านและกลางแจ้งไม่มีค่าความกรด ส่วนฝุ่นสีเหลืองนั้นได้อ้างผลการตรวจสอบของคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล ที่ระบุว่าเป็นละอองเรณูของต้นกก ดาวเรือง ทานตะวัน และต้นปาล์ม ขณะที่ผลสรุปจากภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สรุปว่าเป็นละอองเรณูพืชดอกหลายวงศ์
 

ล่าสุด 23 สิงหาคม 2551 นายสุพจน์ ส่งเสียง รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ได้ตั้งข้อสงสัยว่า กรณีที่นักวิชาการจากจุฬาฯ-มหิดล ออกมาแก้ต่างลงหนังสือพิมพ์หลายฉบับให้กลุ่มทุนบางสะพานว่าหยดสีเหลืองที่หยดลงจากท้องฟ้า อ.บางสะพานกินบริเวณกว้าง 25 กิโลเมตรเป็นเกสร ดอกกก ดอกดาวเรือ ดอกปาล์มนั้น ขัดแย้งกับก่อนหน้านี้หลายเดือนที่ทางจุฬาฯ เคยทำหนังสือยืนยันว่าเป็นขี้ผึ้ง

 

รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง จึงเรียกร้องให้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทั้ง จุฬา-มหิดล ชี้แจงรายละเอียด รวมถึงอธิบายกระบวนการที่เกสรดอกไม้ ดอกกก ดอกดาวเรือง หรือปาล์ม กลายเป็นหยดสีเหลืองตกลงในพื้นที่บางสะพานว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุใดในอดีตจึงไม่มี แล้วแหล่งที่มาจากไหน ทั้งนี้นายสุพจน์ ตั้งข้อสังเกตว่า จังหวัดประจวบฯ เป็นพื้นที่แคบติดทะเลที่มีลมส่วนใหญ่มาจากตะวันออกเฉียงเหนือ และไม่มีป่าใหญ่ ไม่มีพื้นที่ปลูกดอกไม้ หากว่าเป็นเกสรดอกปาล์มที่มีปริมาณมากขนาดนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นพื้นที่เกษตรส่วนใหญ่ซึ่งไม่ควรขยายอุตสาหกรรม เพราะจะเกิดการทำลายผลการเกษตร

 

นอกจากนี้ยังได้ตั้งคำถามถึงกระบวนการตรวจสอบที่ไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรมกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย

 

"การเก็บตัวอย่างเก็บอย่างไร ใครเป็นตัวแทนรับรู้บ้างในการเก็บ เพราะชาวบ้านไม่เข้าใจวิธีการหรอก หากแต่ว่ามีผู้ที่จะเสียผลประโยชน์ไปเกี่ยวข้องไปร่วมขบวนการ ก็คงไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้านผู้ที่ได้รับผลกระทบ อย่าลืมว่าชาวบ้านเขากระทบ แก้ปัญหาที่ผลกระทบ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องซื้อน้ำ จะทำอย่างไร ไม่ว่าการที่ออกมาบอกว่าน้ำฝนตรวจแล้วดื่มได้ ตรวจอย่างไร หากนำตัวอย่างน้ำฝนที่ตกมาแล้วหลายชั่วโมงไปตรวจ ก็คงไม่ได้ผลอะไร ในเมือความเป็นจริงเวลาฝนตกใหม่ ๆ แม้แต่ปลาหางนกยูงยังตายเลย

 

"อยากเรียกร้องให้กรมควบคุมมลพิษรับผิดชอบ มิใช่ให้กลุ่มทุนมาปัดภาระบอกว่าชาวบ้านอุปทานไปเอง อยากถามว่า แล้วคุณจะแก้อุปทานชาวบ้านอย่างไร ใครเป็นต้นเหตุอุปทาน หากแก้ไม่ได้ ใครจะชดเชยจ่ายค่าความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ อยากจะรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างชาวบ้านไม่ใช้เป็นผู้ก่อ และมันไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแน่นอน การที่มีอุตสาหกรรมเผาน้ำมันเตาอยู่กว่าสามแสนลิตรต่อวัน 24 ชั่วโมงที่มีกำมะถันเกือบ 2 % เช่นนี้ ทุกหน่วยงานต้องออกมารับผิดชอบจริงจัง อย่าปัดภาระเพียงเพราะว่าไม่ใช้ความเดือดร้อนของตน.."  นายสุพจน์ กล่าว
--- End quote ---

ที่มา : http://prachatai.com/journal/2008/08/17809

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version