มาแล้วครับ มาช้าไปหน่อย ลองดูเป็นแนวทางนะครับผม
โปรแกรมผมประมาณนี้ครับ กทม. กระบี่ พังงา ภูเก็ต เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือน้ำพุร้อนระนอง หัวหิน กทม.
คืนแรกนอนกระบี่ คืนที่สองและสามนอนภูเก็ต
ไม่แน่ใจว่าพี่จะเดินทางกลางคืนหรือกลางวัน โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบเดินทางกลางคืนครับ ออกเดินทางจากกรุงเทพสัก 2-3 ทุ่ม ถ้าขับเรื่อยๆสัก 120-130 km/h ไปถึงกระบี่ก็น่าจะ 6 โมงเช้าพอดี
ถ้ายังไม่มีโปรแกรมในกระบี่ ผมแนะนำว่าควรจะให้เวลากระบี่สักสองวัน วันแรกพักแถวอ่าวนางไปเที่ยวเกาะต่างๆ เช่น ไปชมทะเลแหวก แวะเกาะปอดะ เกาะไข่ ว่ายน้ำให้อาหารปลาอย่างใกล้ชิดผมมีภาพให้ชมเป็นตัวอย่างครับ ตรงนี้ก็หมดเวลาไปครึ่งวันแล้วครับ ก่อนกลับเข้าฝั่งแวะหาดไร่เลชมการปีนเขาโชว์โดยนักปีนเขามืออาชีพ กลับเข้าฝั่งหาอะไรกินแล้วนอนพักผ่อน วันรุ่งขึ้นแวะไปสระมรกต สระที่มีน้ำใสๆอมเขียวนิดหน่อย สวยงามมาก ลงเล่นได้ด้วยนะ เรื่องอาหารการกินรบกวนพี่ทศช่วยแนะนำหน่อยครับ ผมจำไม่ได้ว่าร้านที่ผมไปกินอยู่แถวไหน เสร็จแล้วก็ตีรถเข้าพังงา มุ่งหน้าสู่อ่าวพังงา อ่าวพังงาเป็นไฮไล้ของจังหวัดพังงาเลยครับ เพราะที่นี่จะมีสัญลักษณ์ของจังหวัดพังงาด้วยนั่นก็คือเขาตาปู ใกล้ๆกันจะมีเขาพิงกัน และที่สุดมหัศจรรย์คือ เกาะปันหยี หรือหมู่บ้านลอยน้ำแหละครับ รู้สึกว่าจะเป็นทั้งตำบลเลยมั้ง(ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยครับ) ที่นี่มีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ กะปิชั้นดีของพังงา ร้านขายของชำร่วย โรงเรียน มัสยิด สนามฟุตบอล สถานีอนามัย ฯลฯ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ลอยอยู่บนน้ำครับ ที่นี่ไม่มีผืนดินให้เหยียบครับ
กลับจากอ่าวพังงาก็น่าจะเย็นๆละ เดินทางเข้าภูเก็ตต่อเลย เข้าเช็คอินโรงแรมที่ชอบได้เลยครับ ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ผมว่าพักในตัวเมืองเลยดีกว่าครับเพราะสามารถเอาเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ อย่าลืมว่าภูเก็ตเป็นเกาะครับ เพราะฉะนั้น กิจกรรมที่น่าสนใจก็คือเลาะไปตามถนนรอบเกาะครับ ถ้าเอาตัวเมืองเป็นศูนย์กลางจะทำให้ไปได้ทั่วถึงกว่า (จริงๆจะไปพักแถวๆที่ติดชายหาดเลยก็ได้ครับ แต่กลัวว่าจะหลงสเน่ห์ของโรงแรมจนไม่อยากออกไปเที่ยวที่อื่นซึ่งผมก็เป็นครับ) สำหรับมื้อค่ำผมแนะนำร้านอาหารจีนแต่มีอาหารไทยด้วย อยู่วงเวียนฟาร์มจรเข้เก่า ถามคนแถวนั้นได้ครับ แค่ถามเค้าว่า ผับ กทม ไปทางไหน ร้านจะอยู่บริเวณเดียวกันครับ สังเกตุง่ายมากครับ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วแนะนำให้นอนเอาแรงไว้ครับ เพราะวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันที่ต้องเหนื่อยสุดๆ เริ่มจากตอนเช้าเลย มีร้านติ่มซำที่คนภูเก็ตนิยม เค้าเรียก เสียโบ๋ย อยู่ถนนพูลผลปากซอย 7 ชื่อร้าน หลานติ่มซำ ที่นี่เปิดตั้งแต่เช้าจนเที่ยงๆไปก็ยังได้กิน ที่นี่นะครับเราไม่ต้องกินจนหมดเข่งครับ กินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้นครับ เช่น เข่งนึงอาจจะมีฮะเก๋าสองชิ้น แต่เรากินชิ้นเดียวเค้าก็คิดเงินชิ้นเดียวครับ แต่ที่เด็ดสุดๆจะเป็นอีกร้านนึงครับ เปิดตั้งแต่สี่ทุ่ม ปิดร้านไม่เกินตีห้า อยู่ถนนปฏิพัทธิ์ใกล้ๆแยกจุ้ยตุ่ย แต่จริงๆแล้วผมว่าร้านที่อยู่ถนนพูลผลก็รสชาดโอเคดีนะครับถ้าไม่อยากตื่นกันเช้ามากๆ
โปรแกรมวันแรกในภูเก็ตครับ ช่วงเช้าหลังจากกินอาหารเสร็จแล้วเรามาเริ่มจาก Phuket Aquarium กันก่อนเลย เส้นทางก็ไม่ยุ่งยากครับ หาถนนศักดิเดชให้เจอแล้ววิ่งตรงไปจนสุดทางจะเจอทะเล ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปจนสุดทางก็จะเจอเลยครับ ตรงนี้ก็น่าจะใช้เวลาสักชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปนมัสการองค์จำลองหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง โดยใช้ถนนเจ้าฟ้าใน ตรงไปจนถึงห้าแยกฉลองให้วนไปทางขวา ระยะทางจากห้าแยกไม่กี่กิโลก็ถึงแล้วครับ วัดจะอยู่ทางขวามือครับ กลับจากวัดฉลองย้อนกลับไปห้าแยกฉลองอีกครั้งแล้ววนขวาหนึ่งรอบไปทางหาดกะรน แล้วต่อด้วยหาดกะตะ ซึ่งที่หาดกะตะนี้จะมีหาดทรายสีขาวเป็นแนวยาว แนะนำให้ลองถอดรองเท้าไปเดินย่ำดูครับ จะรู้ว่าทรายที่นี่ละเอียดขนาดไหน จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่่แหลมพรหมเทพเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกครับ ใช้เส้นทางเรียบชายฝั่งไปเรื่อยๆ ก่อนถึงแหลมพรหมเทพจะเจอกังหันลมขนาดใหญ่ซึ่งที่นี่ช่วงเย็นๆ จะมีผู้คลั่งไคล้เครื่องร่อนวิทยุบังคับมาเล่นเครื่องร่อนให้เราได้ชมกัน โดยตรงจุดนี้จะสามารถมองเห็นแหลมพรหมเทพได้ชัดเจน จากจุดนี้ไปก็จะถึงแหลมพรหมเทพแล้วครับ หากยังไม่เคยไป ผมว่าทดลองเดินลงไปจนสุดแหลมแล้วเดินกลับครับ ไม่งั้นเค้าว่ามาไม่ถึงภูเก็ตนะครับ LOL หลังจากชมพระอาทิตย์ตกน้ำเสร็จแล้ว แนะนำว่าให้ลองชิมอาหารทะเลที่นี่ดูครับ ร้านศาลาลอย อยู่หาดราไวย์ บรรยากาศยามค่ำคืนบวกกับอาหารอร่อยๆ กลับโรงแรมจะได้หลับสบายครับ
เช้าวันรุ่งขึ้น แนะนำว่าลองไปชิมอาหารที่นี่ดูครับ ชื่อร้านลกเทียน อยู่ตรงแยกดีบุกตัดเยาวราชตรงหัวมุมเลยครับ ที่นี่มีอาหารหลากหลายครับ ที่น่าลองก็คือโลบะ(หูหมูและเครื่องในพะโล้) และที่ขาดไม่ได้คือ โอ๊ะเอ๋ว เป็นของหวานที่ดับร้อนได้เป็นอย่างดี สมัยเรียนผมต้องแวะมากินประจำครับ แต่ร้านต้นตำรับจะเป็นซอยถัดไปครับ เป็นรถเข็นขายอยู่หน้าบ้าน ตอนนี้เป็นรุ่นลูกแล้วครับ รุ่นพ่อคงวางมือไปแล้ว ปีที่แล้วผมไปกินก็เจอเพื่อนสมัยเรียนแวะมากินเหมือนกันโดยบังเอิญครับ ประมาณว่าลืมไม่ลงอ่ะครับ
หลังจากเติมพลังกันแล้ว...วันนี้จะเป็นการสำรวจหาดป่าตองครับ คาดว่าคงใช้เวลาที่นี่เต็มวันล่ะครับ สำหรับกลางวันที่นี่จะเหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำครับ เช่นเจ็ตสกี พาราชู๊ต บานาน่าโบ๊ต หรือเล่นน้ำทะเล แล้วช่วงเย็นๆก็เดินเล่นตลอดเส้นทาง ซึ่งบรรยากาศจะคล้ายๆกับพัทยาครับ แต่ที่นี่อาหารการกินจะแพงกว่าพอควร อ้อ…ช่วงกลางวันถ้ามีเวลาว่างผมแนะนำให้ลองเลาะชายฝั่งไปทางขวา หรือหาดกะหลิมครับ ระหว่างทางจะมีทางลงไปโขดหินด้านล่างฟังเสียงน้ำกระแทกหินแบบเต็มๆ และอาจจะเห็นช็อตเด็ดเวลาคนตกปลาได้ครับเพราะที่นี่จะมีคนนิยมมาตกปลากันเยอะครับ หากเลาะชายฝั่งไปเรื่อยๆก็จะถึงหาดกมลา ที่นี่จะมีโรงละครขนาดใหญ่ คาดว่าน่าจะเคยได้ยินกันบ้างนะครับ คือภูเก็ตแฟนตาซี ที่มีโชว์อลังการสุดๆครับ แต่ว่าราคาก็เอาเรื่องอยู่นะครับ ผู้ใหญ่พันกว่าบาท เด็กก็พันกว่าบาท แต่ถ้าเด็กเล็กสูงไม่เกิน 140 ซม. ก็ไม่ต้องเสียครับ เค้าเปิดให้บริการเป็นรอบๆนะครับ ลองเช็คเวลาดูก่อนก็ได้ครับ สำหรับรายละเอียดลองถามพี่กูดูครับ search หา ภูเก็ตแฟนตาซี ดูนะครับ จากหาดกมลาหากจะกลับเข้าเมืองก็จะผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพฯท้าวศรีฯ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เคยผ่านมาตอนวันที่เข้าภูเก็ตมาวันแรกครับ
หลังจากรับประทานมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ผมแนะนำให้กลับขึ้นไปนอนที่โรงแรมรอเวลาเช็คเอ๊าต์ครับ เพราะต้องเดินทางไกลกันอีกแล้วครับ สำหรับขากลับก็มีสองทางให้เลือกครับ ระหว่างกลับทางสุราษฏร์ ซึ่งเส้นทางดีกว่า โค้งน้อยกว่า และยังสามารถแวะพักชมเขื่อนรัชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งที่นี่มีร้านอาหารที่อยู่บนเขื่อน มองลงมาด้านล่างวิวสวยดีครับ อาหารอร่อยด้วยราคาสมเหตุสมผล ปรกติผมจะแวะที่นี่ประจำสำหรับขากลับ จากนั้นก็เดินทางกลับเข้ากรุงเทพครับ
ส่วนอีกเส้นทางก็คือเส้นท้ายเหมือง ตะกั่วป่า ระนอง ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเก่า ช่วงระนองจะมีโค้งเยอะ มีน้ำพุร้อน และซาลาเปาทับหลี ขอบอกว่าอร่อยครับเพราะที่นี่ต้นตำหรับซาลาเปาทับหลีของแท้ หากรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากพักผ่อน ที่นี่ก็เหมาะครับ เพราะยังงัยก็ยังมีเวลาเหลืออีก 1 วันมั้งถ้าจำไม่ผิดนะครับ รุ่งเช้าค่อยเดินทางต่อก็ได้ เผื่อว่าจะแวะพักตามที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ หรืออาจจะแวะหัวหิน ชะอำ ก็โอเคนะครับ
ก็ประมาณนี้แหละครับ สำหรับรูปภาพที่เกี่ยวข้องต่างๆที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดจะทะลอยเอามาลงให้ครับ เผื่อจะได้มีแนวทาง หรือเรียกน้ำย่อยได้บ้างครับ รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับเมืองกระบี่ สามารถขอความช่วยเหลือพี่ทศได้ครับ ส่วนภูเก็ตก็มีผมที่พร้อมจะให้คำแนะนำได้ตลอดทริปครับ อ้อ…พี่แกะ (phuket) ก็อยู่ภูเก็ตเหมือนกันครับ
ขอให้เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกครับผม