Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Miscellaneous

“หลับใน“ เรื่องอันตราย ในการขับขี่

(1/5) > >>

ต๋อง Fuddy:
ช่วงพักหลัง ขับรถ เริ่ม มี อาการ นี่ เลย ค้นหา ถาม อากู๋ ว่าเกิด สาเหตุ ใด  :L2761: หรือว่า แกเลี้ยว  :L4387: :L4387: :L2739: :L4386:
อ้างอิงจาก http://auto.sanook.com/1628/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88/
ทุกวันนี้ที่การทำงานของพวกเราต่างสร้างความเหนื่อยล้ามากขึ้นเรื่อยๆนั้น ทำให้เราได้ยินคำว่า "หลับใน" บ่อยมากยิ่งขึ้น และ ล่าสุดกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิก เมื่อพระเอกหนุ่มชื่อดังของประเทศ เวียร์ ศุกลวัตน์ หลับในกลางกรุง จนเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากความประมาท

แน่นอน..ความประมาท เป็นบ่อเกิดอุบัติเหตุและในครั้งนี้คงเป้นที่จดจำของพระเอกหนุ่มไปอีกแสนนาน ทว่าอาการหลับในที่เกิดขึ้นจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นั้น เป็นเรื่องที่หลายคนไม่คาดคิด โดยเฉพาะหนุ่ม-สาวที่ชอบ Work Hard-Play Hard

อาการหลับในนั้น เป็นอาการหนึ่งของความเหนื่อยล้าที่เราสามารถรู้สึกได้และมันมีสัญญาณ ก่อนหน้า ที่บ่งบอกว่าร่างกายอ่อนเพลียจากการทำงานหนัก และต้องการพักผ่อนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การทำงานหรือกิจกรรมใดที่ใช้เรี่ยวแรง หรือก่อให้เกิดความเครียดเป็นพิเศษนั้น จะทำให้ร่างกายต้องการพักผ่อนเร้วยิ่งขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเมื่อคุณต้องการพักผ่อน แน่นอนวิธีที่ดีสุด คือการนอน และร่างกายเราก็ไม่รู้จักวิธีอื่น ที่ทำให้มันสดชื่น จึงเป็นที่มาของอาการหลับใน ที่เป็นอันตรายอาจจะถึงชีวิตเลยทีเดียว

อาการหลับในนั้น โดยมากจะเกิดขึ้น เมื่อคุณขาดการพักผ่อนอย่างต่อเนื่อง และมีอาการเหนื่อยล้าระหว่างวันรวมอยู่ด้วย ทำให้เราอาจจะรู้สึกไม่สดชื่นระหว่างวัน และเมื่อใดก็ตามที่มีสถานที่หรืออยุ่ในที่เงียบๆ เป็นระยะเวลานาน ร่างกายก็จะปิดตัวเองลงชั่วคราว และเป็นอาการหลับในนั่นเอง

ตามปกติแล้วใน 1 วัน เราควรนอนหลับ อย่างน้อย 5 ชั่วโมง และถ้าจะให้ดีสุดก็ประมาณ 8- 10 ชั่วโมง เราจึงจะตื่นขึ้นมาพร้อมความสดชื่น แต่แน่นนอน เราสามารถหลีกเลี่ยงอาการหลับใดได้และ เรามีวิธีมาฝากกัน

1. นอนให้พอ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนอน ยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพักผ่อนของมนุษย์ และถ้าหากไม่อยากหลับในต้องนอนให้พอ การนอนนั้น หมายถึงเรานอนบนที่นอน ซึ่งควรจะพักผ่อน 10 ชั่วโมงเต็ม โดยที่คุณต้องมีการนอนติดต่อกัน 2-3 คืนเป็นอย่างน้อย และเมื่อเรามีการนอนน้อยกว่าปกติคืนละ 2 ชั่วโมง ร่างกายเราก็จะทวงหนีการนอน โดยสมองจะมีสมรรถนะและทำงานช้าลง และมีการวูบหลับช่วงสั้น และหนักมากอาจเป็นอาการหลับในได้


2.นั่งในท่านั่งที่ถูกต้อง อาการง่วงนอนจนหลับในนั่น ส่วนหนึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากท่านั่งในการขับขี่ ที่คนจำนวนมากมักจะชอบเอาความสบายเข้าว่า ออกอาการกึ่งนอนขับรถ ...การนั่งในท่าทางที่ผิดนั้น ทำให้เราก่อให้เกิดอาการง่วงนอนได้มากในช่วงขณะขับขี่ โดยเฉพาะเวลาเสี่ยง 12.00-07.00 น. และช่วงบ่ายหลังอาหารเที่ยง เพราะฉะนั้น ถ้าคุณต้องขับรถควรปรับเปลี่ยนท่านั่งขับขี่ให้ถูกต้อง จะอาการหลับในได้

3. น้ำและกาแฟช่วยได้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่า กาเฟอีน ที่อยู่ในกาแฟ เป็นตัวกันง่วงที่ดีที่สุด และบางคนก็ติดกาแฟงอมแงม เพราะคิดว่ามันจัช่วยกันง่วงได้ไม่มากก้น้อย การดื่มกาแฟนั้น เป็นเรื่องที่ดี แต่ผลข้างเคียงคือมันจะทำให้คุณตาค้าง และประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน การทานกาแฟ ควรทานแต่พอดีอย่าหักโหม เพราะอาการหลับในจะเกิดขึ้นได้ฉับพลันเช่นกันถ้าคุณทานมันมากไป

เช่นเดียวกับน้ำคนจำนวนมากรอให้ตัวเองกระหายน้ำดื่มก่อนที่แวะปั้มหาซื้อน้ำทาน การนั่งเป้นระยะเวลานานๆ นั้นจะมีโอกาสสูงที่จะเป็คเส้นเลือดดำอุดตัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการอ่อนเพลียและช่วยส่งเสริมการหลับในได้ ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดคือ ดื่มน้ำบ่อยๆขณะขับรถจะสามารถช่วยได้ไม่มากก็น้อย

4. งีบหลับ ถ้าหากคุณมีอาการเพลียมากๆ จนง่วง การจอดนอน เป็นทางที่ดีสุด แต่อย่างติดเครื่องนอนล่ะ นั่นก็อาจทำให้คุณตายได้ง่ายๆ เช่นกัน การนอนหลับในรถควรทำเป้นช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้ร่างกายคุณผละจากความเหนื่อยล้า ประมาณสัก 30 นาที อย่านานกว่านั้น เพราะ เมื่อคุณนอนนานกว่านั้น ร่างกายจะหลับจริง และทำให้เวลาตื่นมาขับต่อแล้วไม่สดชื่น

 

4 วิธีที่กล่าวมานั้น สามารถช่วยป้องกันคุณๆหลับในได้ โดยเฉพาะใครที่เตรียมออกเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ยังไงก็ขอให้ขับรถปลอดภัยกันทุกคน...ครับ

 

Sanook! Auto Comment
อาการหลับในนี่นับว่าน่ากลัวจริงๆ เพราะการหลับในนั้น เกิดขึ้นจาการพักผ่อนไม่เพียงพอและเป็นอาการที่ทางการแพทย์เรียกว่า Micro Sleep หรือวูบหลับ ที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลา 2-3 วินาที ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายจะหลับตาแบบลืมตา ตาราพร่า นิ่งไปชั่วขณะ หรือถ้าหนักหน่อยอาจจะมีอาการอัมพาตชั่วคราว ที่เราไม่สามารถจัดการร่างกายได้ตามปกติ

ลองจินตนาการถึงการหลับในช่วง 2-3 วินาที ขณะที่ใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่รถเคลื่อนที่เร็วกว่า 33 เมตร ต่อวินาที...ถ้าคุณหลับไป 2-3 วินาที ในช่วง 100 เมตร ที่คุณไม่ได้ควบคุมรถลองคิดสิว่า อะไรก็เกิดขึ้น

พี่ตู่ Black PJM:
 :L2900: ครับพี่ต๋อง

เรื่อง หลับใน อันตรายมากครับ ที่เกิดอุบัติเหตุเพราะว่า คนเราไปฝืนมัน คิดว่าตัวเองจะเอาอยู่ แต่สุดท้ายร่างกายเรามันจะปิดสวิทย์ให้เองโดยอัตโนมัติ (โดยช่วงนั้นเราจะเหมือนกับฝันอยู่นะครับ) ซึ่งณจุดนี้อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ครับ
ผมเองก็เคยเจอกับตัวเองมาแล้ว แต่โชคดีที่วูบไปแค่แป๊ปเดียว และไม่ได้อยู่ในจุดที่คับขัน ขนาดสมัยขี่ big bike ไปทำงาน ยังเคยหลับในมาแล้วเลย :sd42:  ดีว่ารถมันดีไม่วิ่งออกนอกทางไปเสียก่อน ตั้งแต่นั้นมาถ้าเกิดอาการต้องรีบหาที่จอด ล้างหน้าล้างตา ยืดเส้นยืดสาย ถ้ายังเอาไม่อยู่จริงๆก็ต้องหาที่ปลอดภัยจอดนอนเลยครับ

ที่สำคัญก็คือ ถ้ารู้ว่าจะต้องเดินทางไกล ต้องเตรียมตัวเรื่องการพักผ่อนให้พอเพียงด้วยครับ  :L2904:

พี่เอ KAN:
มากด :L6428: :L6428: ให้พี่ต๋องกับพี่ตู่ครับ

หยก วาฬน้ำเงิน:
ขอบคุณพี่ต๋อง พี่ตู่ครับ ผมเป็นอยู่หลายครั้งเหมือนกันครับ บางครั้งยังนึกเลยครับว่าเราโชคดีมากที่รอดมาได้เพราะยังพอจะครองสติอยู่บวกกับโชคช่วยด้วย ไอ้เจ้าอาการหลับในนี้มันเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวนะครับ บางทีเราอาจจะคิดว่าควบคุมได้แต่นั่นคือจุดอันตรายจุดสำคัญเลยครับ ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่าอาการหลับในมักจะเกิดขึ้นตอนที่เราขับรถทางตรงยาวๆ วิธีแก้ของผมอันดับแรกคือปิดซีดีเพลงในรถก่อนเพื่อให้สมาธิมาอยู่กับการขับรถให้มากที่สุด ถ้ายังเอาไม่อยู่อีกผมจะหยิกขาหรือตบหน้าตัวเองแรงๆเพื่อให้ตื่นตัว (ดูซาดิสม์นิดๆนะครับ) ถ้าทำถึงขนาดนี้แล้วยังเอาไม่อยู่อีกก็ต้องรีบมองหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดเพื่อล้างหน้า+หากาแฟกินสักแก้วแล้วค่อยไปต่อ  :L2904:

ต๋อง Fuddy:
 :L2758: พี่ตู่ และ พี่หยก ที่มา แชร์ เหตุการณ์ที่ประสบ ช่วงหลังนี้ ผม รู้ สึก เป็น บ่อย ต้อง ปรับ พฤติกรรม ใหม่ :L4386:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version