Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Miscellaneous

คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล

<< < (12/33) > >>

surut jantorn:

--- อ้างจาก: กิต <Black Angel> ที่  8 สิงหาคม 2013, 22:11:54 ---
--- อ้างจาก: ตูมตาม ที่  8 สิงหาคม 2013, 22:00:46 ---
--- อ้างจาก: นุก (ปทุมธานี) ที่  8 สิงหาคม 2013, 14:00:04 ---พี่ตาม ไม่มีมีทติ้งปามาเนีย เตะบอลกันบ้างเหรอครับ ปล.ผมเด็กผีครับ  :L2901:

--- End quote ---

ใจพร้อมครับ ปอดพร้อมครับ หัวใจก็พร้อมครับ......แต่เข่าไม่พร้อมซิครับ  :L4386: :L4386: :L4386:

 :L2754: :L2754: :L2754: ผมก็อยากอยู่นะพี่นุก....แต่ดูทรงสมาชิกส่วนใหญ่แล้ว....ถ้าจัดเตะบอล ผมว่าจะมีแต่พี่ๆไปนั่งดวล 037 กันอยู่ข้างสนามซะมากกว่าครับ  :L2754: :L2754: :L2754:

--- End quote ---

 :L2905: :L2905: :L2905: งี้ก็ปิ้งย่างข้างสนามบอลด้วยดิ  :L2901:

--- End quote ---
+1ข้างสนามพร้อม 037  :L2905: :L2905: :L2905:

ตูมตาม:
พรุ่งนี้แล้วนะขอรับพี่น้อง....EPL จะรูดม่านเปิดการแข่งขันนัดแรกอย่างเป็นทางการ....ใครยังไม่ได้ติด CTH คงต้องหาที่เหมาะๆชมละครับ.....ถ้ายังหาไม่ได้ ติดต่อพี่เจมส์ครับ.....ไปขอดูที่บ้านพี่เจมส์ จะได้คุ้มค่าที่ติดหน่อย....เพราะปกติพี่เจมส์แกหลับตั้งกะบอลยังไม่มา......เลยไม่รู้ว่าแกจะติด CTH ไปทำไม......พวกเราช่วยกันเข้าไปดูที่บ้านแกจะได้คุ้มๆหน่อยคร้าาาาาาาาบ

 :L2754: :L2754: :L2754:

เอาละครับ....พรุ่งนี้ได้ดูบอลนอกให้หายคิดถึงกันละ.....หลังจากตามดูบอลไทยแก้ขัดมาพักใหญ่.....บอลไทยนี่เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นเยอะนะครับ....คนดูในสนามเยอะขึ้น......บรรยากาศดีขึ้น.....แต่รู้สึกว่าวีรกรรมวีรเวรกองเชียร์นี่ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่.....ยังมีหลายเกมส์ที่ดูแล้วเชียร์กันโหดไปหน่อย......โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาไม่พอใจกรรมการ.....ด่าซะยังกะว่ากรรมการไปเตะก้านคอผู้ให้กำเนิดยังไงยังงั้น......แต่ก็ยังดีครับ ยังไม่มีการพัฒนาถึงขัน "บอลไทย ไปมวยโลก" เหมือนอย่างกีฬาที่ชอบถอนขนไก่

 :L2754: :L2754: :L2754:

มาว่ากันถึงเรื่อง EPL กันต่อดีกว่า......เกมส์จริง แข่งจริง แต้มจริง กำลังจะเริ่มต้นแล้ว......ทีนี้ปรีซีซั่น ดีเลวยังงัยพับเก็บได้แล้ว......จะเป็นหมูสนามจริงสิงห์สนามซ้อม......หรือจะเป็นตายในสนามซ้อม อ้อมกลับมาเป็เทพสนามจริง....คงได้ดูให้รู้กัน.....สำหรับผมเอง ถึงจะมีทีมที่ตามเชียร์อยู่....แต่โดยปกติ ผมก็ดูทุกทีมครับ....ดูความเป็นไปของแต่ละทีม.....เพราะในแต่ละฤดูกาล แต่ละทีมมีเรื่องที่น่าติดตามดูแตกต่างกันไป......วันนี้เลยอยากเอาสิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจติดตามดูของแต่ละทีมมาแชร์กันซักหน่อย....แต่คงไม่ครบทุกทีมนะครับ....เอาทีมเด่นๆในลีกละกันครับ

 :L4398: :L4398: :L4398:

1. แมนยู
แชมป์เก่าปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะครับ......ผู้จัดการทีมเปลี่ยนใหม่ สตาร์ฟโค๊ชเปลี่ยนยกชุด......สำหรับผมสิ่งที่คิดว่าน่าติดตามคือ เดวิด มอยส์ จะปรับตัวเองได้ดีแค่ไหนครับ......ประเด็นก็คือแนวทางการเล่นของทีมที่แตกต่างกันมากระหว่างแมนยู กับเอเวอร์ตัน.......มอยส์ตอนคุมเอเวอร์ตัน.....เล่นกับทุกทีมมอยส์จะเน้นที่เกมรับเหนียวแน่น...เกมบุกรวดเร็ว ฉาบฉวย.....บอลสาดจากด้านข้างเข้าโจมตี อาศัยเจ้าเวหาอย่างทิม เคฮิล และเจ้าฟูเป็นเป้า.....ทุกทีมที่เล่นกับเอฟเวอร์ตันนั้นมาแบบมาแย่งแต้มกันนะครับ คือไม่ได้มาอุดเอา 1 คะแนน....ทีมเล็กๆมาเล่นก็เปิดเกมส์รุกเข้าใส่เพื่อลุ้น 3 คะแนน...ยิ่งถ้าเป็นทีมใหญ่มาละก็ เปิดเกมส์รุกบดแหลกเพราะต้อง 3 แต้มเท่านั้น....ดังนั้นเทคนิคที่มอยส์ใช้มาร่วม 10 ปี คือตั้งรับเหนียว จู่โจมเร็ว จึงได้ผลมาตลอด.....แต่พอข้ามห้วยมาคุมแมนยู.....ถึงคุณภาพนักเตะจะดีขึ้น แต่อย่าลืมนะครับว่าเทคนิคของทีมคู่แข่งมาไม่เหมือนกัน....แทบทุกทีมที่เล่นกับแมนยูจะมาอุด (จะมีกี่ทีมที่กล้าเปิดหน้าแลกกับผีแดง)....ตั้งรับต่ำ...ปะทะรุนแรง....โต้กลับเร็ว.....ในขณะที่แมนยูเองก็มีไสตล์ที่แตกต่างจากเอฟเวอร์ตันมาก เพราะแมนยูเป็นทีมที่ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่ตลอดเวลา....บุกเป็นทีม....ต่อบอลตามช่อง หาช่องเจาะ...เรียกว่าแทบล้อมอยู่หน้าเขตโทษ ต่อบอลหาช่องไปมาอยู่แถวเขตโทษคู่ต่อสู้นั่นแหละ.....นี่คือสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างมากที่มอยส์ต้องเจอ.....และที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผมนะครับ.....คือเวลาที่แมนยูตื้อ หรือตัน....คือบุกไม่เข้า ได้แต่ต่อบอลไปมา ยิงหลุดไปหลุดมา.....ในช่วงเวลาแบบนี้ ท่านเซอร์มักมีไม้เด็ดลงมาแก้ทาง....ประเภทลงมายิงนาทีท้ายๆเก็บ 3 แต้มไปมีให้เห็นประจำ......แต่มอยส์ที่ประสบการณ์ด้านการแก้เกมส์แบบนี้มีน้อยกว่ามาก.....น่าติดตามดูนะครับว่ามอยส์จะแก้เกมส์เมื่อทีมตื้อตันได้ดีแค่ไหนกัน

2. แมนซิตี้
ทีมนี้อัดแน่นไปดูซุปตาร์.....กองหน้ามีมากพอจะตั้งได้อีก 2 ทีม (มรึงจะซื้อมาทำไมนักหนา).....สิ่งที่น่าจับตามอง หรือน่าติดตามคือ......การจัดตัว และการหมุนเวียนเปลี่ยนซุปตาร์ลงมาเล่นกันยังงัย โดยเฉพาะในแดนหน้า.....และอีกประเด็นหนึ่งคือพี่ท่านซื้อมาแต่กองหน้าอย่างเดียว......จึงน่าติดตามมากว่ากองหลังที่มีแต่อะไหล่เกรดB จะเป็นช่องโหว่หรือไม่.....แมนซิตี้ช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมานั้น....เรียกได้ว่าใช้ชื่อกองหน้าข่มทีมคู่แข่งได้ตลอด.....คือประมาณว่าทีมฝั่งตรงข้ามให้หน้ากองหน้าแต่ละคนแล้วขาสั่นไม่กล้าบุก....ถอยลงมาอุดต่ำกันหมด......ปล่อยให้เทพกองหน้าทั้งหลายดาหน้าเข้าถล่ม....เลยทำให้จุดอ่อนที่กองหลังไม่โดนแหวะแผลออกมาเท่าไหร่......ฤดูกาลที่แล้วเวลาแมนซิตี้เจอกับแมนยู จะเห็นได้ชัดเลยครับว่าท่านเซอร์สั่งเปิดหน้าโจมตีจุดอ่อนของแมนซิตี้เต็มๆ....พอโดนตีบ่อยๆเข้า กองหลังยวบ...แมนซิตี้เลยโดนผีแดงทุบเละประจำ.....ฤดูกาลนี้ก็คงคล้ายๆกัน เพราะดูการเสริมทัพแล้ว แมนซิตี้พี่เสริมมาแต่กองหน้ากองกลาง....หลังไม่สน.....ต้องดูละครับว่ากุนซือใหม่อย่างเปเยฯ จะจัดส่วนผสมกองหน้ากองกลางอย่างไรให้ลงตัว.....เพราะถ้าไม่ลงตัว ฟอร์มฝืด....คู่แข่งหันมาทุบจุดอ่อนกองหลังได้เมื่อไหร่.....โจ ฮาร์ทได้กลายร่างเป็นลิงแน่ๆ

3. เชลซี
เต็ง 1 แชมป์ในสายตาของสื่อส่วนใหญ่....ทีมไม่ได้เสริมอะไรมาก มีอะไหล่เข้ามา 2 ตัว + ผู้เล่นที่กลับมาจากยืมตัว....ไม่มีซุปตาร์เข้ามาใหม่.....แต่ด้วยชื่อของ "โชเซ่ มูรินโญ่" ย่อมขายได้เสมอ....พะยี่ห้อมูรินโญ่เข้าไป เป็นทีมไหนก็ต้องเต็งแชมป์......แต่สิ่งที่น่าติดตามสำหรับทีมนี้ ผมว่าไม่ใช่ว่าจะได้แชมป์หรือไม่ครับ.....แต่น่าติดตามตรงที่ "มูรินโญ่" จะทำทีมอย่างไร ในเมื่อทีมที่มีอยู่ในตอนนี้มันต่างกันอย่างมากมายจาก "มูรินโญ่ทีม" ที่เขาเคยสร้างไว้ในยุคแรก......เชลซีในยุคแรกของจ่ามู.....เป็นทีมที่มีกองหลังแข็งโป๊ก....แน่นปั๊ก....ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปยันกองกลางตัวตัดเกมส์.....จะยิงเชลซีให้ได้ซักประตูนี่มันยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ.....ส่วนเกมส์รุกไม่มีอะไรมากมายครับ....พึ่งโคตรกองหน้าอย่างดร็อกบาเป็นหลัก.....โดยใช้ฟุตบอลสไตล์ Direct จ่ายบอลให้ดร็อกบาพักบอลในแดนหน้า.....จากนั้นค่อยดูว่าจะพลิกเล่นเอง หรือรอให้กองกลางขึ้นมาเติม......และด้วยความแข็งแกร่งของเดอะดร็อกทำให้ทีมส่วนใหญ่จะใช้กองหลังมากกว่า 1 ตัวประกบ...ส่งผลให้กองกลางที่เติมขึ้นมามีพื้นที่เขาทำประตูง่ายขึ้น....เทคนิคนี้ส่งผลให้กองกลางอย่างแลมป์พาร์ดกลายเป็นโคตรกองกลางที่ยิงประตูได้มากมายทุกฤดูกาล......แต่ทีมปัจจุบันของเชลซีไม่ได้มีเค้าโครงของทีมเดิมอีกแล้ว.....ไร้เงากองหน้าแข็งแกร่งพักบอลดีเล่นเองได้อย่างเดอะดร็อก......ฟุตบอลก็เปลี่ยนจาก Direct มาเป็น Passing ..... บุกกันเป็นทีม....กองกลางจากที่เน้นพละกำลัง...เปลี่ยนมาเป็นอัดแน่นด้วยกองกลางจอมเทคนิคแต่ตัวเล็กนิดเดียว.....ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสไตล์ที่จ่ามูไม่ได้ถนัด.....จึงน่าติดตามว่าในทรัพยากรที่มีจ่ามูจะปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ออกมาดี.....ทั้งๆที่ไม่ใช่ทรัพยากรที่ตัวเองชอบซักเท่าไหร่

4. อาร์เซนอล
ปืนใหญ่ เป็นทีมเดียวใน Top 4 ที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด...ผู้จัดการทีมคนเดิม....ผู้เล่นเดิมๆ...ไม่ได้เติมใครเข้ามา ไม่เสียใครไป......เวงเกอร์พูดตลอดเวลาว่าทีมนี้ดีพอที่จะลุ้นแชมป์.....แต่ก็ว่างจากแชมป์มา 8 ปีแล้ว....จึงน่าติดตามอยู่พอสมควรว่า....ในขณะที่อีก 3 ทีมด้านบนมีการเปลี่ยนแปลงทีมทั้งหมด....ต้องใช้เวลาในการปรับจูน ปรับตัว.....แมนยูได้มอยส์ที่ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง ต้องปรับตัวให้เข้ากับการคุมโคตรทีม ต้องเจอกับเกมส์อุดแหลกที่ตนเองไม่เคยเจอ.....แมนซิตี้ได้ผู้จัดการทีมใหม่ ที่ยังไม่คุ้นชินกับฟุตบอลอังกฤษ สไตล์การทำทีมในสเปนจะเอามาใช้ในบอลอังกฤษได้หรือไม่ ปรับเปลี่ยนแล้วออกมาดีหรือไม่ยังต้องใช้เวลาในการจูนกันต่อไป.....เชลซีที่สไตล์ของผู้จัดการทีม กับสไตล์ของผู้เล่นแตกต่างกันอย่างมากก็คงต้องใช้เวลาในการปรับจูนกัน......ส่วนอาร์เซนอลที่ไม่ต้องจูนอะไรกันมากแล้ว....จะสามารถฉกฉวยประโยชน์จากช่วงเวลาที่คู่แข่งต้องปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหนคงน่าติดตามไม่น้อย.....ถ้าช่วงแรกสามารถควบทิ้งห่าง ขณะที่อีก 3 ทีมหัวตารางสะดุด....คงเป็นอะไรที่น่าดูอย่างยิ่งว่าเวงเกอร์จะอาศัยความได้เปรียบนี้ได้อย่างไร

5. สเปอร์
ไก่เดือยทอง....ทีมอกหักรักคุดแห่งทศวรรต......ทีมที่พยายามถีบตัวเองให้มาติด Top 4 ชิงพื้นที่เล่น Champion League....อกหักปีก่อนโน้น อุตสาห์จบที่ 4....แต่ไม่ได้ไปเล่นถ้วยใหญ่เพราะเชลซีดันได้แชมป์.....ปีที่แล้วยึดที่ 4 อยู่ได้ตั้งนาน....ตกม้าตายตอนจบ โดนปืนใหญ่ปาดหน้าแซงเข้าที่ 4 ซะงั้น......ปีนี้มีการเสริมทัพได้น่ากลัว โดยเน้นที่กองกลางเป็นหลัก....เพราะปีที่แล้วกองกลางพึ่งพอโคตรคนอย่างเบลมากเกินไป....พอเบลไม่ฟิต ทีมก็เลยเล่นไม่ออกไปด้วย....ปีนี้ได้ตัวดีๆมาเสริมทัพหลายตัว.....น่าติดตามว่าไก่เดือยทองจะต่อยอดทีมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้วไปได้ไกลอีกเพียงไหน.....จริงๆแล้วชื่อชั้นของนักเตะตัวหลักของไก่เดือยทองไม่ขี้เหร่......ถึงจะไม่ใช่ซุปตาร์ แต่ก็เป็นนักเตะเกรดดีทุกคน....แต่ปัญหาที่รบกวนตลอดเวลาคืออาการบาดเจ็บ....ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านักเตะไก่ทำไมมันเจ็บง่าย เจ็บนานกันทุกคน.....ประเภทแข้งกระจกกันทั้งทีม เจ็บทีเจ็บเป็นเดือน......และด้วยความที่อะไหล่ทดแทนมีไม่มาก ทำให้พออาการบาดเจ็บรุมเร้ามากๆเข้า ฟอร์มของทีมก็เลยเป๋ออกทะเลเอาง่ายๆ......โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองหลัง เท่าที่เห็นมีตัวดีอยู่แค่ 2 ตัว....แค่คนใดคนหนึ่งเจ็บ...หลังก็รวนไปรวนมาแล้ว....ยิ่งถ้ากองหน้าอย่างเบล หรือเลนนอนเจ็บด้วยละก็.....จากทีมที่ดีๆกลายเป็นทีมดาดๆไปเลย.....ฤดูกาลนี้ AVB พยายามแก้จุดอ่อนของทีมในเรื่องของอะไหล่ทดแทน.....มีการเสริมทีมทั้งตัวจริงราคาแรงๆ และอะไหล่ราคาประหยัดเข้ามาพอสมควร.....น่าติดตามว่าแนวทางการแก้ปัญหาของ AVB จะแก้จุดอ่อนของไก่ได้หรือไม่

6. เอฟเวอร์ตัน
ทอฟฟี่สีน้ำเงิน....มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในทีม....ถึงแม้ผู้เล่นจะเป็นชุดเดิมทั้งหมด ยังไม่เสียแกนหลักไป....แต่ก็ต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีม.....โดยเอามาร์ตี้มาแทนมอยส์ที่หนีไปเป็นแม่ทัพอสูรแดง.......มาร์ตี้กับมอยส์มีไสตล์การทำทีมที่คล้ายกันคือเน้นเกมรับ เกมรุกรวดเร็ว ฉาบฉวย.....แต่มาร์ตี้สมัยคุมวีแกน คุณภาพตัวผู้เล่นอ่อนกว่าเอฟเวอร์ตันเยอะ จึงทำให้ทีมไปไม่ถึงไหน....พอโยกมาคุมทอฟฟี่ที่มีคุณภาพผู้เล่นที่ดีกว่า สไตล์การทำทีมแบบเดิม....ก็มีโอกาสที่จะทำผลงานได้ดี.....แต่จุดที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างมอยส์กับมาร์ตี้คือเรื่องของสายตาในการมองหานักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีม.....มอยส์เป็นผู้จัดการทีมที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในที่มีสายตาคมมากในการมองหานักเตะที่ไม่ดัง...เอามาปั้น เอามาแต่งได้ดี.....หลายคนจากที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อน กลายเป็นนักเตะเกรดดีขึ้นมาหลังจากได้รับการขัดเกลาจากมอยส์....แต่มาร์ตี้นั้นสายตาดูเหมือนไม่คมเท่ามอยส์....ตอนอยู่วีแกน.....ซื้อนักเตะเข้ามาเยอะทุกฤดูกาล.....ที่พอเชิดหน้าชูตาได้มีไม่กี่คน.....ที่เหลือก็งั้นๆ.....ประเภทมาฤดูกาลเดียว แล้วจบฤดูกาลต้องโละทิ้งก็มีเยอะ.....ซึ่งจุดนี้แหละที่น่าติดตามว่าเอฟเวอร์ตันที่ปกติทุกฤดูกาลมักจะได้เพชรเม็ดงามราคาถูกมาเสริมทีมแทบทุกฤดูกาล....พอเปลี่ยนมาเป็นมาร์ตี้แล้ว....โอกาสที่จะผิดพลาดในการซื้อนักเตะมีมากขึ้น.....จะประคองตัวทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนยุคที่มอยส์คุมทีมอยู่หรือไม่....อันนี้น่าติดตามเช่นกัน

7. ลิเวอร์พูล
หงษ์แดงเป็นทีมที่ไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมและสตาร์ฟโค๊ช.......เป็นช่วงฤดูกาลที่ 2 ของร็อดเจอร์สแล้วในการนั่งเก้าอี้แม่ทัพหงษ์แดง......หลังจากรับมรดกจากคิงเคนนี่....ที่มีขยะอยู่เต็มทีม.....ตอนนี้ปัดหน้าทาปากใหม่....โละขยะของคิงเคนนี่ออกไปเพียบ....แล้วเสริมตัวใหม่ๆเข้ามาเติม.....การซื้อตัวในช่วงมกราคมที่ผ่านมาถือว่าร็อดเจอร์สทำได้ดีมาก...ทั้งคูตินโญ่และสเตอร์ริดจ์ เข้ามาช่วยทีมได้เยอะ....ทำผลงานได้เยี่ยม.....ช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว เมื่อไอ้เหยินซัวเรสติดโทษแบนยาว.....ทีมยังพึ่งพานักเตะเก๋าอย่างเจอร์ราด บวกกับแข้งใหม่ ก็ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม.....ช่วงปิดฤดูกาลร็อดเจอร์สเสิรมทีมเข้ามาใหม่พอสมควร ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นักเตะเกรดเอ...แต่ก็น่าสนใจที่ร็อดเจอร์สจะสามารถผสมผสานให้ลงตัวได้ดีแค่ไหน....จะสามารถดึงศักยภาพนักเตะเหล่านี้ออกมาได้มากแค่ไหน.....อย่าลืมนะครับสมัยคุมหงษ์ขาวสวอนซี นักเตะโนเนมกันทั้งทีม.....แต่ร็อดเจอร์สก็สามารถผสมผสานนักเตะเหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม....ดึงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ จนสวอนซีในยุคของเขาขึ้นชื่อว่า สวอนเซโลน่า.......ฤดูกาลนี้สำหรับหงษ์แดงจึงน่าติดตามว่า ตอนนี้ทีมได้ถูกเปลี่ยนจากการเป็น "ทีมของคิงเคนนี่" กลายเป็น "ทีมของร็อดเจอร์ส" แล้ว.......จะสร้างผลงานได้ไฉไลเหมือนสมัยที่เขาสร้างสวอนซีหรือไม่ น่าติดตามยิ่งนัก

นี่แหละครับ....สิ่งที่น่าติดตามดูของ EPL ในฤดูกาลนี้สำหรับผม......ติดตามทุกทีมครับ....เชียร์ทุกทีม (ที่เล่นกับแมนยู)  :L2754: :L2754: :L2754: :L2754: :L2754:

ชมฟุตบอลให้สนุกนะครับ....ชมให้เป็นกีฬา....อย่าข้องเกี่ยวกับการพนันครับ :L4399: :L4399: :L4399:

พี่เจมส์:
สุดยอดเลยพี่ตาม วิเคราะห์ได้เยี่ยมจิงๆ
    เอ...หรือว่าเปน ต.ตาม น้อง ย.โย่งป่าวหว่า กร๊ากกกกกก

ปูลู : ที่ติด CTH เพื่อเอาจานไว้บังแดดคับ ไม่ได้ดูบอล มันมาดึกจิงๆ เปิดสนาม ผีแดง เตะคู่สุดท้ายอีก เฮ่ออออ...ปวดตับเลย

ตูมตาม:

--- อ้างจาก: พี่เจมส์ ที่ 16 สิงหาคม 2013, 11:54:50 ---สุดยอดเลยพี่ตาม วิเคราะห์ได้เยี่ยมจิงๆ
    เอ...หรือว่าเปน ต.ตาม น้อง ย.โย่งป่าวหว่า กร๊ากกกกกก

ปูลู : ที่ติด CTH เพื่อเอาจานไว้บังแดดคับ ไม่ได้ดูบอล มันมาดึกจิงๆ เปิดสนาม ผีแดง เตะคู่สุดท้ายอีก เฮ่ออออ...ปวดตับเลย

--- End quote ---

เปิดประตูบ้านทิ้งไว้เลยพี่.....เดี๋ยวผมเข้าไปนั่งดูให้ จะได้คุ้ม  :L2754: :L2754: :L6419: :L6419:

ตูมตาม:
จบแล้วนัดแรก

ลิเวอร์พูล 1-0 สโต๊ค ซิตี้

คู่นี้ดูแล้ว....หงษ์แดงดูดี....แต่ยังใช้โอกาสเปลืองไปหน่อย....คงยังไม่ฟิต 100% ปรับกันต่อไป....ดูมีอนาคตครับ

แต่สโต๊ค......ผมว่าเป็นแบบนี้....สงสัยต้องลุ้นหนีตกชั้นละครับ.....มาร์ค ฮิวช์ ยังทำทีมได้แย่เหมือนเดิม.....ผมไม่แน่ใจว่าแกคิดอะไร.....คือพยายามจะทำให้สโต๊คเป็นแมนยูหรือยังไง....เล่นไปเล่นมายิ่งหนัก ทำตัวเป็นอาร์เซนอลซะงั้น.....ต่อบอลกันจัง......คือมันเป็นการเปลี่ยนธรรมชาติของทีมมากไปครับ....ปกติสโต๊คเป็นทีมที่เล่นแบบง่ายๆ บอลไดเร็ค โยนยาว....พึ่งลูกตั้งเตะ......80 นาทีในเกมส์นี้....สโต๊คพยายามต่อบอลสู้กะลิเวอร์พูล....แต่มันไม่เวิอร์เลย.....จนมา 10 นาทีท้าย ลูกทีมคงคิดว่าไม่ไหวละโว๊ย.....กูโยนยาวแบบเดิมที่กูถนัดดีกว่า......10 นาทีท้ายนี่ทำได้ดี เกือบตีเสมอได้เลยละครับ.......บางทีปล่อยให้นักเตะเล่นกันเองอย่างที่เคยเล่น ยังอาจจะดีกว่าเล่นตามที่ไอ้มาร์ค ฮิวช์ สั่งซะอีก..........ผจก. คนนี้มันห่วยได้ใจจริงๆ....เหมือนตอนคุมทีม QPR เมื่อฤดูกาลที่แล้วเลย

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version