ผู้เขียน หัวข้อ: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล  (อ่าน 46706 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: 2 สิงหาคม 2013, 09:47:19 »
Poker Game called "Rooney"

ทุกวันนี้บริโภคข่าวสารฟุตบอล...ทั้งเอียน ทั้งเลี่ยน กับข่าวของ "มนุษย์วานร" ที่กำลังจะย้ายก้นไปหากินในสเปน...อารมย์คงไม่ต่างจากเด็กคลับไก่ที่จริงๆก็ไม่อยากเสียของรัก แต่บริโภคข่าวจนเบื่อหน่าย อยากให้ย้ายไปไวๆ แลกกับเงินก้อนโตเอามาผันเป็นนักเตะดีๆอีกซัก 3 คน......ถึงในหน้าข่าวส่วนใหญ่จะมีแต่เรื่องพี่เบล แต่ก็ยังมีเนื้อที่สำหรับผีแดงพอสมควร ซึ่งนอกจากข่าวความพยายามตามจีบพี่ "เชส"....ก็เป็นบทความจากนักเขียนที่ขายวิญญาณให้ทัพอสูร แต่เนื้อบทความออกมาในแนวบ่นๆปนเสียวๆ ทั้งเรื่องความอืดอาดในการลงตลาด ป่านนี้ยังไม่มีนักเตะเกรดดีเข้ามาเสริม ทั้งเรื่องผลงานยอดแย่ช่วงปรีซีซั่น และที่สำคัญคือบรรยากาศอันอึมครึมจากสถานการณ์ของเจ้าหมูรูนนี่

ซีซั่นใหม่ยังไม่ทันจะเปิด เดวิด มอยส์ แม่ทัพใหญ่ หน้าใหม่ของทัพอสูรก็โดนลองของเข้าไปเต็มๆ โดยคนตั้งโจทย์ก็ไม่ใช่ใครอื่น แม่ทัพโรคจิตของทัพสิงห์บลู "จ่ามู" นี่เองที่เป็นผู้จุดความร้อนแรงของประเด็นนี้ให้มอยส์ต้องระทมกระบาลอยู่ทุกวัน.....จริงๆส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมกับมอยส์ซักเท่าไหร่....เพราะระเบิดที่ชื่อ "รูนนี่" นี้มันมีมาตั้งแต่ยุคท่านเซอร์แล้ว ซึ่งท่านเซอร์ก็รู้ดีว่าเจ้ารูนนี่ นี่มันเป็นปัญหาภายในของทีมมาตลอด (จริงๆตั้งแต่ก่อนที่ RVP จะย้ายก้นมาแล้ว).....แต่ท่านเซอร์เลือกที่จะวางมือ......โดยไม่ได้แก้ฉนวนระเบิดลูกนี้ให้เสร็จก่อน....เพื่อเคลียร์ทางโล่งๆไว้ให้มอยส์ทำงานอย่างเต็มที่.......ลองนึกภาพดูนะครับ ถ้ามอยส์ นายใหม่ถอดด้ามเป็นคนขายรูนนี่ กับท่านเซอร์เป็นคนขายรูนนี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากขายไปแล้ว แรงระเบิดจากผลกระทบต่างกันแน่นอนด้วยบารมีท่านเซอร์ที่สูงกว่ามาก ถ้าท่านเซอร์ขาย แล้วฟอร์ม RVP หรือทีมเกิดตก อย่างมากสื่อก็แค่ออกข่าวนิดหน่อยและตบท้ายด้วยวลียอดฮิต "เดี๋ยวท่านเซอร์ก็พาทีมกลับมาได้".......กลับกันถ้ามอยส์ขายรูนนี่ออกไป แล้วเกิดฟอร์มของทีมตกต่ำขึ้นมา.....รับรองนรกเปิดแน่นอนครับ....สื่อรุมกินโต๊ะมอยส์อย่างไม่ต้องสงสัย.....โดยส่วนตัวผมเลยรู้สึกว่าท่านเซอร์ใจร้ายกับมอยส์ไปหน่อย ไหนๆก็เลือกเขามารับงานแล้ว น่าจะเคลียร์ทางให้โล่งๆ ทำงานสะดวกๆ หน่อย ลำพังแค่รับมือคู่แข่งระดับท็อปอย่างเรือใบ สิงห์บลู ปืนใหญ่ ก็หอบแดกอยู่แล้ว....นี่ท่านเซอร์ยังทิ้งปัญหาภายในไว้ให้ปลดฉนวนอีกลูกเบ่อเริ่ม

จริงๆประเด็นเรื่อง "รูนนี่" ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในแคมป์ทัพอสูร.....มีข่าวออกมาอยู่แล้วเป็นระยะ ตั้งแต่ท่านเซอร์ตัดสินใจดร็อบรูนนี่ใน 2 แมตช์สุดท้ายก่อนปิดฤดูกาลที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมตช์ประวัติศาสตร์ที่ท่านเซอร์อำลาสนามโอลแทรฟฟอร์ด รูนนี่ก็ไม่ได้ลงสนาม....ตั้งแต่นั้นมาก็มีข่าวเรื่องการขอย้ายทีมบ้าง อาการน้อยใจของรูนนี่บ้างออกมาตลอด ยิ่งนายใหม่ที่เข้ามาเป็นมอยส์ที่เคยทะเลาะกันถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้ว ยิ่งทำให้สื่อเอาประเด็นการขอย้ายทีมของรูนนี่มาเล่นกันมันไปในช่วงปิดซีซั่นใหม่......แต่ข่าวคราวก็ค่อยๆเงียบๆไป มีข่าวลือบ้างประปรายแต่ไม่เป็นประเด็น.....ลมทำท่าจะสงบในแคมป์ทัพอสูร เปิดโอกาสให้มอยส์ได้ทำงาน เคลียร์ปัญหากับรูนนี่แบบเงียบๆ....แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่รอดพ้นสายตาแม่ทัพโรคจิตอย่าง "จ่ามู" แน่นอน

จ่ามู ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องการเล่นเกมส์โรคจิตกับคู่แข่ง การสร้างความร้าวฉานในทัพคู่แข่งคือความถนัดอย่างยิ่งของเฮียมู เห็นตั้งแต่ปะทะคารมกับท่านเซอร์ หรือเจ๊ใหญ่แห่งทัพปืนใหญ่สมัยมาคุมทัพสิงห์ครั้งแรก ลากยาวไปจนข้ามช่องแคบไปหากินในอิตาลี และสเปน จ่ามูชอบมากในการเล่นกับสื่อ ทั้งการให้ข่าว สัมภาษณ์ พาดพิง อ้างถึง ใช้คำพูดที่จะทำให้ทัพคู่แข่งเกิดความสั่นคลอนทั้งในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และเสถียรภาพทางอารมย์ ด้วยฝีไม้ลายมือทางด้านนี้ไม่เป็นรองท่านเซอร์ซักเท่าไหร่ (คนนี้ก็ชอบมากกับเกมส์โรคจิตแบบนี้) จึงมีการปะทะกันอย่างเมามันในการคุมทีมในอังกฤษรอบแรกของจ่ามู

เมื่อกลับมาใหม่ มาเจอกับแม่ทัพอสูรคนใหม่....มีหรือจะไม่ลองของซะหน่อย.....ว่าแล้วจ่ามูก็หยิบยกประเด็นของรูนนี่ขึ้นมาพูด......โดยไม่ได้พูดอะไรมากครับ.....ตอนก่อนเดินทางมาเมืองไทย แค่ให้สัมภาษณ์ว่า "รูนนี่เป็นนักเตะที่ดีมาก ผมชอบ".....แค่นั้นแหละครับ.......บวกกับแรงส่งของสื่อ.....ไฟในแคมป์อสูรที่เหมือนกำลังจะมอด ก็ลุกพรึบขึ้นมาใหม่.....รูนนี่จะมีปฏิกริยากับคำพูดของจ่ามูมากแค่ไหนไม่รู้.....แต่ที่รู้ๆคือเจ้าหมูรูนนี่อยู่เมืองไทยได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็บินกลับบ้านไป.......ไฟมันคงติดขึ้นมาบ้างหละครับ ไม่มากก็น้อย ไม่งั้นคงไม่ถูกส่งตัวกลับเร็วปานนั้น........เมื่อแคมป์อสูรออกอาการเป๋ซะขนาดนี้มีหรือคนโรคจิตอย่างจ่ามูจะไม่ซ้ำ.......ว่าแล้วพอมาถึงเมืองไทยก็ให้สัมภาษณ์อีกซักหน่อยว่า "รูนนี่เป็นนักเตะที่ผมอยากร่วมงานด้วยมานานแล้ว"........โอโห....หนักขึ้นอีก....ทีนี้ไฟในแคมป์อสูรคงลุกโชนกว่าเก่าแน่นอน เพราะหลังจากคำสัมภาษณ์นี้ของจ่ามู.......มอยส์ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับรูนนี่ไม่เว้นแต่ละวัน สื่อไม่สนใจเรื่องการจัดตัวลงปรีซีซั่น หรือการวางแผนทำงานของมอยส์.....จ้องจะยิงคำถามเรื่องรูนนี่อย่างเดียว......ในขณะที่มอยส์นั่งรับมือกับกองทัพสื่ออย่างระทมกบาล....จ่ามูก็คุมทีมซ้อมไป นั่งดูเหตุการณ์อย่างสบายใจ.... ถ้านี่เป็นเกมส์ Poker ถือว่าหงายไพ่มา 2 ใบ มอยส์ยังถือว่าตกเป็นรองอยู่พอสมควร....ดังนั้นคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว

เมื่อเกมส์เป็นต่อ......จ่ามูมีหรือจะไม่ซ้ำตามนิสัยคนโรคจิต......เล่นกับสื่อมาพอควรแล้ว......สร้างกระแสอีกซักหน่อย.....ว่าแล้วก็ต่อสายตรงจากกรุงเทพฯ ไปลอนดอน......ไฟเขียวให้ทางแคมป์ลอนดอนยื่นของซื้อรูนนี่ซะหน่อย......ค่าตัวเอาแบบเบาะให้ทัพอสูรเอาไปฉีกทิ้งเล่นๆ 20 ล้านปอด์น....ดูยังงัยค่าตัวรูนนี่ก็ต้องมากกว่านี้.....ราคาแค่นี้มันไม่มีทางซื้อได้อยู่แล้ว....มีหรือคนอย่างจ่ามู และทีมแคมป์ลอนดอนจะไม่รู้.....แต่ที่ยื่นในราคานี้เหมือนตั้งใจแหย่ให้เรื่องมันมีน้ำหนักให้สื่อเอามาโหมอีก....รวมทั้งหยั่งปฏิกริยาของทัพอสูรด้วยว่าจะเอายังงัย.....มันเหมือนเป็นการเปิดไพ่ใบที่ 3 บังคับให้มอยส์ต้องเปิดหน้าออกมาสู้กันต่อ....ห้ามหมอบหนีไปก่อนประมาณนั้น

มอยส์ แม่ทัพใหม่ชาวอสูร เองก็ไม่ธรรมดา.....รู้ทันจ่ามูอยู่หรอกว่าอยากจะเล่นเกมส์อะไร.....เมื่ออยากสร้างความแตกแยกให้แคปม์อสูร.....มอยส์ก็ใช้วิชายืมหอกสนองคืนผู้ใช้.......จัดให้ทัพสิงห์ซะดอกนึง......โดยมีข่าวออกมาจากแคมป์อสูร ระหว่างทัวร์ออสเตรเลียว่า......ข้อเสนอที่ทัพสิงห์เสนอมานั้น มีการพ่วงนักเตะอย่าง มาต้า และลุยส์ มาเป็นข้อแลกเปลี่ยน.....แหมจงใจต้องเป็น 2 คนนี้ซะด้วยนะ.....เพราะ 2 คนนี้ช่วงเวลานั้นยังไม่เข้ามาร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม อยู่ระหว่างพักผ่อน.....เมื่อมีข่าวแบบนี้ตัวนักเตะอาจหวั่นไหว.....รู้สึกไม่มั่นคงกับอนาคต.....จะเคลียร์ก็ลำบาก เพราะอยู่ไกล ทีมอยู่ระหว่างทัวร์เอเซีย นักเตะพักผ่อนอยู่บนหาดทรายแถวไหนก็ไม่รู้ในโลกใบนี้......มอยส์เปิดไพ่ใบที่ 3 มาชนกับจ่ามูแบบนี้ แรกๆดูเหมือนจะได้ผล..........แต่จ่ามูผู้ช่ำชองเรื่องนี้เป็นอย่างดีไม่ยอมเสียท่าง่ายๆ......เปิดแถลงข่าวที่มาเลเซียซะเลยว่า........มีการยื่นขอซื้อรูนนี่จริง (เพื่อตอกย้ำให้รูนนี่ได้ยินว่าฉันเอาจริงนะ) แต่ไม่มีการยื่นนักเตะเป็นการแลกเปลี่ยน (ย้ำให้นักเตะที่ถูกโยงเชื่อมั่นในอนาคต).......เรียกว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัว......แถมตอนท้ายยังย้ำอีกว่า.....เรื่องทั้งหมดขึ้นกับทัพอสูรจะตัดสินใจ........นั่นแน่.....โยนเผือกร้อนกลับไปให้พี่มอยส์ถือไว้อีก

จากเรื่องนี้รูนนี่จะมีปฏิกริยาอย่างไรไม่ทราบได้.....แต่ที่แน่ๆมอยส์ต้องรับมือกับสื่อเพิ่มขึ้นอีก...เพราะจ่ามูบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าถ้าสื่ออยากรู้เรื่องนี้ให้ไปถามมอยส์.......และแล้วมอยส์ก็หลงกลเกมส์ poker เกมส์นี้จนได้ เมื่ออารมย์แตก....หลุดวาทะที่ไม่ควรหลุดออกมาจากปากแม่ทัพคนใหม่ว่า "รูนนี่ไม่มีไว้ขาย แต่จะเก็บไว้เป็นตัวสำรองของ RVP"......คำพูดนี้ส่งผลต่อรูนนี่มากมายอย่างแน่นอน.....แทนที่จะค่อยๆคุยเคลียร์ปัญหาได้ กลับทำให้มันยากขึ้นไปอีก....มีอย่างที่ไหนจะเก็บศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษไว้เป็นสำรองในสโมสร.....หลังจากหลุดคำพูดนี้ออกมา มอยส์พยายามไม่พูดถึงประเด็นรูนนีอีกเลย แต่ก็สายไปแล้ว....เพราะสื่ออังกฤษเอาประเด็นนี้ไปขยายความ เจาะลึก สร้างเรื่องกันบานไปไกล ถึงขั้นที่ว่าเมียรูนนี่มาดูหาซื้อบ้านในลอนดอนแล้ว.......Poker ยกแรกนี้ดูเหมือนมอยส์จะแพ้ทางจ่ามู บาดเจ็บกว่าเยอะ มีเรื่องให้ระทมกบาลเพิ่มขึ้นอีก ปัญหาที่ควรจะจบ เลยไม่จบแบบง่ายๆ

แต่ความโรคจิตของจ่ามูยังไม่หมด....ชนะแล้วต้องกระทืบซ้ำอีก......เพราะหลังจากนั้นจ่ามูก็ให้สัมภาษณ์อีกว่า "ถ้ารูนนี่เป็นตัวสำรอง จะส่งผลเสียต่อทีมชาติอังกฤษ".....พร้อมทั้งหยอดคำหวานอีกว่า "เชลซีจะสนับสนุนนักเตะอังกฤษในสังกัดทุกคน ให้อยู่ในฟอร์มที่ดี สภาพร่างกายที่ดี เพื่อช่วยทีมชาติอังกฤษในบอลโลกปีหน้า"......แหม ยังกะเชลซีมีนักเตะอังกฤษเยอะนักนิ.....ที่หล่นวาทะแบบนี้ก็เพื่อดึงให้สื่ออังกฤษมาอยู่ข้างตัวเองให้มากขึ้น....พร้อมกับถีบให้มอยส์กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของสื่อ.......ถ้ารูนนี่อยู่เป็นสำรองในทัพอสูร แล้วเล่นทีมชาติได้ไม่ดี ..... เดี๋ยวสื่อก็กลับไปเล่นงานมอยส์อีก.....ชนะแล้วไม่พอ ยังกระทืบซ้ำ แถมวางระเบิดไว้ให้อีก.....เกมส์นี้ถือว่ามอยส์โดนไปสาหัสทีเดียว

ส่วนตัวผมว่าเกมส์นี้มันไม่ค่อยแฟร์กับมอยส์ซักเท่าไหร่....อย่างที่บอกไปแล้วว่าเรื่องรูนนี่มอยส์ไม่ได้เป็นคนทำไว้แต่ต้น....แต่มาตอนท้าย และต้องมาเคลียร์ปัญหา......ซึ่งมันก็ยากอยู่แล้ว.......ส่วนจ่ามูนั้นจะได้รูนนี่หรือไม่ ผมว่าแกก็ไม่ได้ซีเรียสมากนัก ได้มายังงัยก็ดีแน่ แต่ถ้าไม่ได้มา ให้รูนนี่กลายเป็นระเบิดอยู่ในทัพอสูรก็ไม่เลว......ที่ผมบอกว่าจ่ามูแกไม่ได้แคร์มากว่าจะได้รูนนี่มาจริงๆหรือไม่ ก็ดูจากวิธีการทำทีมของแกที่ทำมาตลอด โดยปกติทีมของมูรินโญ่นั้นไม่ได้หวังการทำประตูจากกองหน้าเพียงอย่างเดียวอยู่แล้ว แต่การทำประตูเยอะมากมาจากกองกลาง โดยให้กองหน้าเป็นเพียงตัวพักบอล....มีหลายฤดูกาลที่ดร็อกบาเองก็ทำประตูได้ไม่มาก แต่ประตูส่วนใหญ่เกิดจากกองกลางอย่างแลมป์พาร์ด หรือจากคนอื่นๆสมัยจ่ามูมาครั้งแรกเช่น ร็อบเบน ดัฟฟ์......ดังนั้นการจะได้กองหน้าจอมถล่มประตูอย่างรูนนี่มาหรือไม่ จ่ามูก็คงไม่ได้แคร์นัก.....เพราะยังงัยกองกลางชุดปัจจุบันก็จะเป็นเทพอยู่แล้ว การทำประตูในซีซั่นที่แล้วส่วนใหญ่ก็มาจาก อาซาร์ มาต้า และแลมป์ มากกว่าตอเรสกับบารวมกันหลายเท่า

กลับกันทัพอสูรถึงจะมีกองหน้าอยู่ถึง  4 คน แต่เอาจริงๆที่สามารถชี้เป็นชี้ตายได้ก็มีแค่ RVP กับ รูนนี่ เท่านั้น ส่วนเวลเบ็ค กับถั่วน้อย ออกเป็นแนวซุปเปอร์สัพแบบโซลชาซะมากกว่า.......ถ้ามอยส์ตัดสินใจขายรูนนี่ไป...แสดงว่าจะเหลือศูนย์หน้าระดับพระกาฬเหลืออยู่คนเดียว.....ถ้ามีอาการบาดเจ็บหรือโดนแบน มีผลกระทบแน่.....แต่ถ้าจะเก็บไว้ นักเตะที่มีอิทธิพลสูงอย่างรูนนี่ก็อาจทำให้แคมป์แตกได้ง่ายๆ เพราะบารมีของมอยส์ยังไม่เท่าท่านเซอร์ จะซื้อใจนักเตะทั้งหมดได้หรือไม่ยังเป็นคำถามอยู่.......ปล่อยไปก็เสี่ยง เก็บไว้ก็อันตราย.....แค่นี้ก็ระทมกบาลพอแล้ว....แต่มันยังไม่หมดนี่ซิ

ถ้าขายรูนนี่ออกไป...มอยส์คงอยากถีบออกไปนอกประเทศมากกว่าจะส่งหอกไปให้คู่แข่งสำคัญอย่างเชลซีหรือปืนโต.....แต่มองไปที่ทีมต่างชาติที่มีศักยภาพแล้วหนทางมันมืดมนเหลือเกิน.....ทีมที่มีศักยภาพพอที่จะซื้อรูนนี่ และทำให้รูนนี่อยากไป ในโลกมีไม่กี่ทีม......ทีมจากดาวอังคารอย่างบาเซโลน่า เพิ่งซื้อเนย์ม่ามาใหม่ๆ คงไม่ซื้อรูนนี่ไปนั่งสำรองแน่ๆ.....ทีมกาลาติกอสอย่างรีล มาดริด กำลังจะซื้อเบลด้วยค่าตัวทำลายสถิติโลก จะมีเงินมาหว่านซื้อรูนนี่อีกหรือเปล่ายังไม่แน่........ทีมเศรษฐีใหม่จากลีกเอิร์งอย่างโมนาโคกับปารีสฯ ต่างก็ได้ศูนย์หน้าระดับพระกาฬไปเรียบร้อย ทั้งคาวานี่ และฟัลเกา......หรือจะเป็นทีมเทพอย่างเสือใต้ บาร์เยิร์น ก็มีของดีอยู่ในทีมอยู่แล้ว และเป๊ปกุนซือเสือใต้เองก็ทำทีมแบบไม่ต้องหวังพึ่งศูนย์หน้าระดับพระกาฬอยู่แล้วตั้งแต่สมัยคุมบาซ่า บางนัดไม่มีศูนย์หน้าลงเลยซักตัว เล่นกองกลาง 6 คนแทน.....มันเลยดูมืดมนมากหากจะขายรูนนี่ออกไปต่างประเทศ.......ครั้นจะขายให้เชลซีก็เหมือนยื่นหอกให้คู่ต่อสู้ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกก็อาจจะต้องทำ......แต่ก็ไม่กล้าขายเร็ว เพราะถ้าขายเร็ว.....แมทช์ที่ 2 ของฤดูกาล มอยส์จะประเดิมคุมทีมในบ้านนัดแรกเจอกับเชลซี ที่คงจะพกรูนนี่มาลงทำลายตาข่ายผีแดงถึงในบ้านเดิม......มอยส์คงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่ๆ.....แต่ครั้นจะขายช้า.....เดี๋ยวก็เอาเงินไปซื้อตัวใหม่ไม่ทันอีก.......นี่ละครับ ความระทมกบาลของมอยส์....เลยออกมากลายเป็นลูกยักแย่ยักยัน ไม่รู้จะเอายังงัย

จ่ามู....รู้สถานการณ์เป็นอย่างดีครับ......จึงไม่รีบยื่นข้อเสนอรอบใหม่ให้ทัพอสูรพิจารณา......ดึงช้าๆ ให้ไฟมันลามอยู่ในทัพอสูรต่อไป......เดี๋ยวพอเรื่องเริ่มจะเงียบ ไฟเริ่มจะมอด....ค่อยยื่นข้อเสนอไปใหม่ พร้อมกับคงหล่นวาทะอะไรบางอย่างไปให้ไฟมันลุกพรึบขึ้นมาอีก......มอยส์ไม่รีบขาย จ่ามูก็ไม่รีบซื้อ......ขายมาเท่ากับยื่นหอกให้คู่แข่ง กอดไว้ก็เหมือนกอดระเบิด.....เกมส์นี้มอยส์ติดอยู่ในกับดักที่ท่านเซอร์ทิ้งเอาไว้ และจ่ามูไปช่วยหยิบมาหนึบขาไว้ให้


ถึงผมจะเป็นกองเชียร์สิงห์บลู.....แต่พูดตรงๆครับ รู้สึกเห็นใจและสงสารมอยส์ แม่ทัพอสูรคนใหม่คนนี้อย่างมากครับ

 :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: 2 สิงหาคม 2013, 14:52:44 »


เถียงไม่ได้เลยว่าฤดูกาลที่ผ่านมา 90% คนคนนี้มาทำให้...

เพราะที่ผ่านมาหลายสิบปี หลายทีมต้องการล้มแมนยูฯ แล้วก็เคยสำเร็จเช่น จ่ามู
จึงดูว่า จ่ามู คือคู่ต่อกรกับท่านเซอร์ ชนิดสมน้ำสมเนื้อ พักหลังๆ ก็มีมันชินี่มาต่อกรด้วย และทำสำเร็จไปหนึ่งฤดู

แต่ฤดูกาลนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ในหลายทีม การแข่งขันเพื่อก้าวสู่หัวตารางคงสนุก
ผีเองก็ลำบากสุดๆ อย่างแน่นอนสำหรับฤดูกาลนี้ ใหนจะศึกนอก แถมมีศึกในอีก
มอยส์เอง กับการจะก้าวมาครองใจนักเตะในแมนยูฯ แบบชนิดรวดเร็วนั้น แทบจะเปนไปไม่ได้เลย
รูนเองก็เคยมีปัญหากับมอยส์ ตั้งแต่สมัยที่อยู่ทอฟฟี่ กองกลางของผี ก็ค่อนข้างกรอบซะเหลือเกิน การซื้อตัวใหม่ๆ ก็ใช้คำว่า ซื้อใครก็ไม่รู้ ได้เลย
หากปีนี้ นักเตะไม่ท๊อปฟอร์มกันจริงๆ อย่าหวังเลยที่จะอยู่บนหัวตารางแบบสุดๆ ใหนจะต้องไปเล่นถ้วยใหญ่อีก
เอาแค่นัดการกุศลก่อนเปิดฤดู กับสวอนซี ให้ได้สักถ้วยก่อน คิดว่ายังลำบาก เพราะสวอนซี หรือแม้แต่ทีมอื่นเองก็อยากล้มแชมป์ทั้งนั้น

ปีนี้ทีมใหญ่หลายๆ ทีมเปลี่ยนผู้จัดการเกือบหมด ผี เรือ สิงห์
มีแต่สิงห์เท่านั้น ที่ดูทรงของผู้จัดการแล้ว ถือว่าเก๋าที่สุด ในขณะที่ปืนเองไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตัวนักเตะเอง สมัยนี้เก่ง และเก๋า ถึงขนาดเตะไล่โค้ช ก็เคยเห็นกันมาแล้ว และปีนี้อาจจะได้เห็นกันอีก

ถ้าให้อันดับทั้งๆ ที่ยังไม่เปิดฤดูกาล 5 อันดับในใจส่วนตัว มีดังนี้...
- สิงห์
- เรือ
- ปืน
- ผี
- ไก่

ฝากแฟนผี@ปามาเนีย ทุกๆ ท่าน อย่าเพิ่งคาดหวัง หรือเชื่อมันกับการป้องกันแชมป์สำหรับปีนี้อย่างเด็ดขาด
ความสำเร็จในอดีตไม่สามารถยืนยันอนาคตได้...สาธุ

ออฟไลน์ ยีสต์(BD)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 74
  • Like: 13
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: 2 สิงหาคม 2013, 16:04:02 »


เถียงไม่ได้เลยว่าฤดูกาลที่ผ่านมา 90% คนคนนี้มาทำให้...

เพราะที่ผ่านมาหลายสิบปี หลายทีมต้องการล้มแมนยูฯ แล้วก็เคยสำเร็จเช่น จ่ามู
จึงดูว่า จ่ามู คือคู่ต่อกรกับท่านเซอร์ ชนิดสมน้ำสมเนื้อ พักหลังๆ ก็มีมันชินี่มาต่อกรด้วย และทำสำเร็จไปหนึ่งฤดู

แต่ฤดูกาลนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ในหลายทีม การแข่งขันเพื่อก้าวสู่หัวตารางคงสนุก
ผีเองก็ลำบากสุดๆ อย่างแน่นอนสำหรับฤดูกาลนี้ ใหนจะศึกนอก แถมมีศึกในอีก
มอยส์เอง กับการจะก้าวมาครองใจนักเตะในแมนยูฯ แบบชนิดรวดเร็วนั้น แทบจะเปนไปไม่ได้เลย
รูนเองก็เคยมีปัญหากับมอยส์ ตั้งแต่สมัยที่อยู่ทอฟฟี่ กองกลางของผี ก็ค่อนข้างกรอบซะเหลือเกิน การซื้อตัวใหม่ๆ ก็ใช้คำว่า ซื้อใครก็ไม่รู้ ได้เลย
หากปีนี้ นักเตะไม่ท๊อปฟอร์มกันจริงๆ อย่าหวังเลยที่จะอยู่บนหัวตารางแบบสุดๆ ใหนจะต้องไปเล่นถ้วยใหญ่อีก
เอาแค่นัดการกุศลก่อนเปิดฤดู กับสวอนซี ให้ได้สักถ้วยก่อน คิดว่ายังลำบาก เพราะสวอนซี หรือแม้แต่ทีมอื่นเองก็อยากล้มแชมป์ทั้งนั้น

ปีนี้ทีมใหญ่หลายๆ ทีมเปลี่ยนผู้จัดการเกือบหมด ผี เรือ สิงห์
มีแต่สิงห์เท่านั้น ที่ดูทรงของผู้จัดการแล้ว ถือว่าเก๋าที่สุด ในขณะที่ปืนเองไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตัวนักเตะเอง สมัยนี้เก่ง และเก๋า ถึงขนาดเตะไล่โค้ช ก็เคยเห็นกันมาแล้ว และปีนี้อาจจะได้เห็นกันอีก

ถ้าให้อันดับทั้งๆ ที่ยังไม่เปิดฤดูกาล 5 อันดับในใจส่วนตัว มีดังนี้...
- สิงห์
- เรือ
- ปืน
- ผี
- ไก่

ฝากแฟนผี@ปามาเนีย ทุกๆ ท่าน อย่าเพิ่งคาดหวัง หรือเชื่อมันกับการป้องกันแชมป์สำหรับปีนี้อย่างเด็ดขาด
ความสำเร็จในอดีตไม่สามารถยืนยันอนาคตได้...สาธุ

แล้วหงษ์ ไปอยู่ใหนละครับพี่เจมส์  ;D ;D
 
อย่างไรก็ยังเชียร์ผีเหมือนเดิมครับ ต้องรอดูต้นฤดูกาล ว่ามีการเตะไล่โค๊ชหรือไม่ แล้วค่อยไปลุ้นเอา ปลายๆอีกทีครับ

ออฟไลน์ พี่เบนซ์-BEnZ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 148
  • Like: 2
  • เพศ: ชาย
  • ผมมีความความสุขที่เกิดมาบนแผ่นดินไทย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: 2 สิงหาคม 2013, 20:58:40 »
ฤดูกาลยังไม่เปิด
1.หงส์
2.สิงห์
3.ผี
4.เรือ
5.ปืน
6.ไก่

จบฤดูการ ไม่รู้ครับ(ช่างกล้าเนอะ 555+)
สุขหรือทุกข์ ก็อยู่ที่ใจตนเท่านั้น !!!

tod

  • บุคคลทั่วไป
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: 2 สิงหาคม 2013, 22:04:34 »
อย่าอายที่จะบอกว่าเป็นแฟนหงษ์แดง  (มีผมอยู่ทั้งคน)


ดูซิว่าน่าเชียร์ขนาดใหน

 :L4384:

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: 7 สิงหาคม 2013, 11:15:11 »
Poker Game Called "Rooney" (2)

เมื่อเช้าพอมีเวลา เพราะช่วงเช้าไม่มีประชุม เลยมีเวลามานั่งดูข่าวฟุตบอล......ช่วงนี้ข่าว รูนนี่กับสิงห์บลู มาแรงเหลือเกิน.....อย่างที่ผมได้เคยเขียนไปแล้วว่า.....งานนี้มันไม่ใช่แค่การซื้อขายนักเตะแบบธรรมดา....แต่มันเป็นเกมส์ป่วนประสาทของผู้จัดการทีมโรคจิตอย่างจ่ามู ที่ตั้งใจทดสอบความสามารถของแม่ทัพอสูรแดงคนใหม่อย่าง มอยส์

อย่างที่คอบอลทุกคนทราบกัน....เชลซีเคยยื่นข้อเสนอ (อันน้อยนิด) เพื่อขอซื้อรูนนี่จากปีศาจแดงมาแล้วครั้งหนึ่ง.....มูลค่าอันน้อยนิดนั้นโดนปฏิเสธจากทางปีศาจแดงแน่นอน.....แต่แรงกระเพิ่มของการยื่นขอเสนอนั้นมันคงเป็นคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วนทัพอสูรแดง และการทำงานของมอยส์ได้พอสมควร......และผมก็เคยเดาเกมส์ป่วนประสาทไว้ว่า....เดี๋ยวพอเรื่องชักจะเงียบ ทัพอสูรแดงเริ่มจะสงบ.....เดี๋ยวจ่ามูก็ยื่นข้อเสนอมาอีก.....ป่วนประสาท สร้างคลื่นใต้น้ำกันอีกรอบ

และแล้วเมื่อวันจันทร์.....ข้อเสนอใหม่เอี่ยมมูลค่า 25 ล้านปอด์น ก็ร่อนจากรั่วสแตมฟอร์ดบริดจ์ ไปที่แคมป์แคริงตั้นของพลพรรคปีศาจแดง.......อย่างที่ผมเคยบอกไว้.......จ่ามูไม่รีบร้อนจะซื้อรูนนี่หรอก....เพราะถ้ารีบร้อน คงยื่นข้อเสนอมากกว่านั้นไปแล้ว........แต่นี่ยื่นมาใหม่ 25 ล้านปอด์น....มันก็น้อยนิดอยู่ดีเมื่อเทียบกับคุณภาพของรูนนี่ (ปืนใหญ่ยื่นซื้อซัวเรส ยังยื่นตั้ง 40ล้าน + 1ปอด์น).......ดังนั้นข้อเสนอนี้ก็คงไม่ได้ตั้งใจว่าจะได้ซื้อมาจริงๆหรอก....แต่เป็นเกมส์ป่วนประสาทเหมือนเดิม

และก็เป็นอย่างที่คาดไว้....ปีศาจแดงปฏิเสธข้อเสนออย่างไม่ใยดี......แต่คลื่นใต้น้ำที่เกิดจากการยื่นข้อเสนอครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะรุนแรงกว่าคราวแรก.....เพราะวันอังคารก็มีข่าวมาว่าทัพอสูรแดงเริ่มแตก บรรดาผู้เล่นตัวเก๋าๆ ตบเท้าเข้าพบมอยส์ แสดงเจตนาไม่อยากมีรูนนี่อยู่ในทีมอีกต่อไป......ยิ่งไปผสมกับกรณีที่รูนนี่ไม่ได้บินไปร่วมโม่แข้งในเกมส์อุ่นเครื่องที่สวีเดน.....เลยกลายเป็นประเด็นที่นักข่าวเอามาโยงกันให้มันรุนแรงขึ้นไปอีก.....และล่าสุดนักข่าวพยายามเล่นประเด็นที่ว่ารูนนี่จะยื่นเรื่องขอย้ายออกอย่างเป็นทางการ....เอาเข้าไป

นี่แหละครับเกมส์ป่วนประสาทของจ่ามู.......ซึ่งตัวเองไม่ต้องทำอะไร....สบายๆ ทำงานเตรียมทีมของตัวเองไป.....ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อน.....ยื่นข้อเสนอไป....แล้วก็ชิลๆ....รอคลื่นใต้น้ำมันไปปั่นป่วนแคมป์คู่ต่อสู้.......ส่วนมอยส์เอง....ดูเหมือนจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับมาตลอด......ตอนนี้ได้แต่ตั้งการ์ดสูงๆ พยายามรักษารูปมวยไว้ ไม่ให้โดนต่อยร่วงลงไปนับ 8 ตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่เริ่ม.......แม้แต่นักข่าวหลายคนที่ขายวิญญาณให้ทัพปีศาจแดง...ก็ยังเขียนเชียร์ให้มอยส์ตอบโต้กลับไปบ้าง....แต่ดูเหมือนว่ามอยส์จะยังมองไม่เห็นช่องที่จะออกหมัดเด็ดๆใส่จ่ามูได้ซักเท่าไหร่........เลยต้องตั้งรับกันต่อไป

การยื่นข้อเสนอครั้งที่ 2 ผ่านพ้นไป.....คลื่นใต้น้ำรุนแรงขึ้น.......หากรูนนี่มีการขึ้นทะเบียนขอย้ายออกจริงๆ คงเป็นเรื่องหน้าปวดหัวหนักขึ้นสำหรับมอยส์........เพราะนักเตะเก่าๆของปีศาจแดงหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถ้ามอยส์ตัดสินใจขายรูนนี่ให้สิงห์บลู ก็เท่ากับยกแชมป์ให้ทัพสิงโตไปเลย.......กลายเป็นมอยส์โดนกดดันหนักเข้าไปอีก......ตอนนี้ผมลองประเมินทางเลือกของมอยส์ดู น่าจะมีทางออกดังนี้

1. กล่อมให้รูนนี่อยู่กับปีศาจแดงต่อไปอย่างเต็มใจ อย่างที่ท่านเซอร์เคยทำสำเร็จมาแล้ว......ดันนี้เป็นทางที่ดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมอยส์ได้ดีที่สุด....แต่ไม่ง่ายนัก.....ขนาดท่านเซอร์ว่าแน่ๆ รูนนี่ยังออกลูกงอแงใส่.......อีกทั้งมอยส์ยังติดกับดักตัวเองกับคำพูดที่ว่า รูนนี่เป็นตัวสำรองต่อจาก RVP......เมื่อบวกกับประวัติเดิมที่มอยส์กับรูนนี่เคยมีเรื่องขึ้นศาลกันมาก่อน.....รวมกันแล้ว การที่มอยส์จะกล่อมรูนนี่ให้อยู่รับใช้ทัพอสูรต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

2. ขายออกนอกประเทศ......ถ้าไม่อยู่กับทัพอสูรต่อ.....ถ้าเลือกได้มอยส์ขอส่งรูนนี่ไปหากินในประเทศอื่นดีกว่า....แต่อย่างที่ผมเคยเขียนไว้แล้ว.....ทีมที่มีศักยภาพในการซื้อรูนนี่มีไม่มาก และดูเหมือนว่าเกือบทุกทีมจะลงตัวกับตำแหน่งศูนย์หน้าของตัวเองหมดแล้ว......แต่มีช่องทางหนึ่งที่ยังพอได้คือ เอารูนนี่ และ กับเชส.......เพราะบาซ่าร์เองก็มีขุนพลกองหน้าไม่มาก หากได้รูนไปคงเป็นกำลังเสริมได้ดี....อีกทั้งมอยส์เองก็อยากได้เชสใจจะขาด......ถ้าแลกกันได้ มอยส์คงยินดี......แต่ก็มีปัญหาอยู่ที่ว่า เชสก็ไม่ได้อยากมาอยู่กับผีแดงซักเท่าไหร่ อีกทั้งรูนนี่จะยอมไปนั่งเป็นตัวสำรองที่บาซ่าร์หรือไม่ก็ยังน่าคิด เพราะบาซ่าร์มีทั้ง เมสซี่ + เนย์ม่า ยึดครองตำแหน่งอยู่...ถ้าย้ายไปดูยังงัยก็ได้ไปเป็นแค่สำรองเท่านั้น

3. ตัดใจเสนอขายให้อาร์เซนอล.......ปืนใหญ่ กำลังต้องการกองหน้าระดับเพชรฆาตมาเสริมทีมโดยด่วน.....ถึงขนาดหน้ามืดทุ่ม 40ล้านปอด์นขอซื้อซัวเรสจากหงษ์แดง......กลายเป็นตำนานรัก 3 เศร้าที่คงไม่จบง่ายๆ เพราะติดปัญหายึบยับไปหมด.....ปืนอยากซื้อ....ซัวเรสอยากย้าย.....หงษ์ไม่อยากขาย.....ถ้าขายหงษ์อยากได้เงินเยอะๆ.....ปืนไม่อยากจ่าย ดูท่ามันคงกลายเป็นมหากาพย์ยันวันสุดท้ายก่อนตลาดปิด......ดังนั้นถ้ามอยส์ตัดสินใจปลดระวางรูนนี่เพื่อตัดปัญหา.....การเลือกเสนอขายให้ปืนใหญ่ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง.....เพราะปืนใหญ่อยากได้ศูนย์หน้าอยู่แล้ว.....ถ้าราคาไม่สูงมากปืนเอาแน่......ถ้ารูนนี่ย้ายไปปืนใหญ่ก็รับรองการเป็นตัวจริง ศูนย์หน้าเบอร์ 1 ได้ค่อนข้างแน่....แต่มอยส์ก็ต้องตัดใจขายในราคาไม่แพงนัก เพราะขึ้นชื่อว่าเวงเกอร์ แม่ทัพปืนใหญ่ ไม่เคยซื้อของราคาแพง สถิติสโมสรยังแค่ 16.75 ล้านปอนด์แค่นั้นเอง......ทางเลือกนี้ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด ง่ายที่สุด เพราะติดอยู่แค่ที่ตัวรูนนี่คนเดียวว่าจะยอมย้ายไปร่วมก๊วนปืนโตหรือไม่แค่นั้น....ส่วนประเด็นอื่นนั้น ทางสะดวก

4. ตัดใจเก็บตัวปัญหาไว้ในทีมต่อไป.....ก็เป็นทางหนึ่งครับ....คือไม่เคลียร์ปัญหากับรูนนี่.....เก็บแม่งไว้เป็นตัวสำรองเฉยๆแบบนี้แหละ.....รอให้เวลาช่วยชะล้างปัญหาออกไปเอง.....ทางนี้ง่ายที่สุดครับ....ไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ.....แต่การเก็บนักเตะที่มีอิทธิพลสูง และไม่มีใจกับทีมไว้ ก็ไม่ต่างจากเอาระเบิดเวลาซุกไว้ในกางเกงในตัวเองนั่นแหละ......มันจะทำให้สภาพจิตใจของนักเตะในกองทัพระส่ำระสาย....และอาจจะมีผลต่อผลงานในสนามของทีมด้วย.....ยิ่งถ้ารูนนี่เกิดหาพวกได้ขึ้นมา....แกล้งเตะแบบไล่โค๊ชแม่มซะเลย.....ยิ่งไปกันใหญ่ละทีนี้......มีหวังมอยส์ปลิวตกเก้าอี้ในเวลาอันรวดเร็วแน่ๆ.....และที่สำคัญที่สุด......แม่ทัพโรคจิตอย่างจ่ามู ก็เดาไว้แล้วว่ามอยส์อาจเลือกทางนี้......ดังนั้นจ่ามูจึงหยอดระเบิดดักไว้ก่อนว่า ถ้าเก็บรูนนี่เป็นตัวสำรองในทีมแมนยู จะส่งผลเสียต่อทีมชาติอังกฤษในบอลโลกในปีหน้าแน่นอน......ง่ายๆแบบนี้เลย....เอาระเบิดถอดสลัก แล้วไปยัดใส่มือมอยส์ไว้เลย........เมื่อไหร่ผลงานอังกฤษออกมาลุ่มๆดอนๆ พี่มอยส์ก็พร้อมเป็นแพะทันที.....ดังน้้นถ้าเก็บรูนนี่ไว้.......จ่ามูก็จะมีทางเล่นเกมส์ป่วนประสาทต่อไปเรื่อยๆ แบบ non stop และ endless อีกต่างหาก

5. ตัดปัญหา และหันมาสนใจปัญหาของทีมในปัจจุบัน.....ตัดใจปล่อยรูนนี่ให้เชลซี.....โขกเอาเงินมาให้ได้มากที่สุด....แล้วเอาเงินที่ได้ไปซื้อนักเตะมาอุดช่องว่างของทีมที่มีอยู่เต็มไปหมด.......ระดับรูนนี่ ค่าตัวไม่น่าจะต่ำกว่า 40ล้านปอนด์แน่ๆที่จะสามารถโขกได้จากสิงห์บลู.....เงินจำนวนนี้เอามาเปลี่ยนเป็นนักเตะเกรด A ได้ซักคนแน่ๆ หรืออาจเปลี่ยนเป็นพวกเกรด B+ ได้ซัก 2 คน......เอามาปั้นต่ออีกหน่อย....เผื่อขึ้นชั้นเป็นเกรด A.....ทางนี้ทุกฝ่าย happy ending รูนนี่ได้ย้ายตามใจปรารถนา....จ่ามูได้ศูนย์หน้าใหม่ตามต้องการ....มอยส์ตัดปัญหาจบเรื่อง ไม่ต้องวุ่นวาย ไม่ต้องเล่นเกมส์ป่วนประสาทของจ่ามูอีก.......แต่การขายรูนนี่ให้สิงห์บลู......หลายฝ่ายฟันธงว่า ถ้าสิงห์บลูได้รูนนี่ไปจริงๆ "มึงเอาแชมป์ไปเลยไป"......เพราะลำพังขุมกำลังสิงห์บลูปัจจุบันที่มีแต่ศูนย์หน้าสากกะเบือ....ยังหน้ากลัวจนบ่อนยกให้เป็นเต็งแชมป์ร่วมกับเรือใบสีฟ้าแล้ว.....ถ้าบอกศูนย์หน้าระดับรูนนี่อีกคน......อำนาจการทะลวงตาข่ายคู่ต่อสู้คงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า......ดังนั้นการขายแบบนี้ก็เท่ากับมอยส์เอาดาบไปยื่นให้ศัตรูกลับมาฟันตัวเอง.......ดังนั้นมอยส์จะใจถึงหรือเปล่าอันนี้น่าคิด

ดูจากทางเลือกของมอยส์แล้ว.....ปวดหัวแทนเลยครับ.....มันติดขัดไปหมด.....และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้มอยส์ยังไม่ตัดสินใจจะทำอะไรทั้งนั้น......จนตอนนี้เริ่มกลายเป็นภาพลบกับตัวมอยส์เองแล้ว....เพราะเหมือนไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด แก้ปัญหาภายในไม่ได้ การซื้อนักเตะใหม่เข้ามาก็เชื่องช้า แถมผลงานปรีซีซั่นยังออกมาขี้เหร่กว่าใครเพื่อนอีก.....เลยกลายเป็นคนที่นักข่าวเอามาแหวะเล่นได้ตามใจชอบ.....เห็นแล้วรู้สึกเห็นใจครับ....ตอนสมัยคุมทอฟฟี่คงไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้

ที่ผมสงสัยอีกนิดคือ ท่านเซอร์จะรู้มั๊ยว่าบาปกรรมที่ท่านเซอร์ทิ้งไว้นี้มันหนักหนาสาหัสแค่ไหนสำหรับตัวแทนท่านเซอร์......มอยส์นั่งกุมกบาลอยู่ที่แคมป์แคริงตั้นทุกวัน....ขณะที่ท่านเซอร์ไปล่องเรือยอร์ชที่สกอตแลนด์สบายใจเฉิบไป


 :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 11:52:15 »
มูรินโญ่ โดนดีจนได้

Real Madrid 3 - 1 Chelsea

แพ้แบบหมดสภาพ ไร้ทางสู้ class บอลต่างกันเป็นเท่าตัว

 :sd42: :sd42: :sd42:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ยีสต์(BD)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 74
  • Like: 13
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 12:40:22 »
เชียร์ รีลมาดริด เต็มตัวเลยครับพี่ตาม แต่ผิดคาดไปหน่อย ผมเดาสกอร์ 2-1

ออฟไลน์ นุก (ปทุมธานี)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,729
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 14:00:04 »
พี่ตาม ไม่มีมีทติ้งปามาเนีย เตะบอลกันบ้างเหรอครับ ปล.ผมเด็กผีครับ  :L2901:

ออฟไลน์ พี่พงษ์ zentrino

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 824
  • Like: 14
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 14:18:20 »
ไทย VS หงส์ เจอไป 0-3
ไทย VS บาร์ซ่า เจอไป 1-7

 :L2901: :L2901: :L2901:
 :L2739: :L2739: :L2739:

ออฟไลน์ ยีสต์(BD)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 74
  • Like: 13
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 15:08:18 »
ไทย VS หงส์ เจอไป 0-3
ไทย VS บาร์ซ่า เจอไป 1-7

 :L2901: :L2901: :L2901:
 :L2739: :L2739: :L2739:

นักบอลไทยได้ประสพการณ์เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับพี่พงษ์ จะมี ไทย VS ริล มาดริด ใหมน้าา อยากรู้ว่าจะมากรึน้อยกว่า 7 :L2901: :L2901: :L2901:

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 22:00:46 »
พี่ตาม ไม่มีมีทติ้งปามาเนีย เตะบอลกันบ้างเหรอครับ ปล.ผมเด็กผีครับ  :L2901:

ใจพร้อมครับ ปอดพร้อมครับ หัวใจก็พร้อมครับ......แต่เข่าไม่พร้อมซิครับ  :L4386: :L4386: :L4386:

 :L2754: :L2754: :L2754: ผมก็อยากอยู่นะพี่นุก....แต่ดูทรงสมาชิกส่วนใหญ่แล้ว....ถ้าจัดเตะบอล ผมว่าจะมีแต่พี่ๆไปนั่งดวล 037 กันอยู่ข้างสนามซะมากกว่าครับ  :L2754: :L2754: :L2754:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 22:11:54 »
พี่ตาม ไม่มีมีทติ้งปามาเนีย เตะบอลกันบ้างเหรอครับ ปล.ผมเด็กผีครับ  :L2901:

ใจพร้อมครับ ปอดพร้อมครับ หัวใจก็พร้อมครับ......แต่เข่าไม่พร้อมซิครับ  :L4386: :L4386: :L4386:

 :L2754: :L2754: :L2754: ผมก็อยากอยู่นะพี่นุก....แต่ดูทรงสมาชิกส่วนใหญ่แล้ว....ถ้าจัดเตะบอล ผมว่าจะมีแต่พี่ๆไปนั่งดวล 037 กันอยู่ข้างสนามซะมากกว่าครับ  :L2754: :L2754: :L2754:

 :L2905: :L2905: :L2905: งี้ก็ปิ้งย่างข้างสนามบอลด้วยดิ  :L2901:

ออฟไลน์ พีชิน ปาดำ บุรีรัมย์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,258
  • Like: 48
  • เพศ: ชาย
  • ก็แค่ชีวิตที่ขาดหวานไม่ได้
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 22:26:32 »
มาดูบอลบ้านเรามั่งดีกว่า  สนุบสนุนบอลไทย เผื่อก่อนตายจะได้เห็น บอลไทย ไปบอลโลก  :sd42:

เย็นวันอาทิตย์นี้ ศึก แห่งศักดิ์ศรี  ซุปเปอร์ บิ๊กแม็ต  TPL

มีภูมิลำเนา   อยู่  นครราชสีมา
มีภรรยา       อยู่  บุรีรัมย์
มีงานประจำ  อยู่  อุบลราชธานี
มีที่พักผ่อน   อยู่  ปา'มาเนีย

ออฟไลน์ นุก (ปทุมธานี)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,729
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 22:37:19 »
พี่ตาม ไม่มีมีทติ้งปามาเนีย เตะบอลกันบ้างเหรอครับ ปล.ผมเด็กผีครับ  :L2901:

ใจพร้อมครับ ปอดพร้อมครับ หัวใจก็พร้อมครับ......แต่เข่าไม่พร้อมซิครับ  :L4386: :L4386: :L4386:

 :L2754: :L2754: :L2754: ผมก็อยากอยู่นะพี่นุก....แต่ดูทรงสมาชิกส่วนใหญ่แล้ว....ถ้าจัดเตะบอล ผมว่าจะมีแต่พี่ๆไปนั่งดวล 037 กันอยู่ข้างสนามซะมากกว่าครับ  :L2754: :L2754: :L2754:

งั้นคงต้องรอมีทติ้งดูศึกแดงเดือด พร้อมดวล 037 แล้วซินะครับพี่ตาม

surut jantorn

  • บุคคลทั่วไป
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: 8 สิงหาคม 2013, 23:16:30 »
พี่ตาม ไม่มีมีทติ้งปามาเนีย เตะบอลกันบ้างเหรอครับ ปล.ผมเด็กผีครับ  :L2901:

ใจพร้อมครับ ปอดพร้อมครับ หัวใจก็พร้อมครับ......แต่เข่าไม่พร้อมซิครับ  :L4386: :L4386: :L4386:

 :L2754: :L2754: :L2754: ผมก็อยากอยู่นะพี่นุก....แต่ดูทรงสมาชิกส่วนใหญ่แล้ว....ถ้าจัดเตะบอล ผมว่าจะมีแต่พี่ๆไปนั่งดวล 037 กันอยู่ข้างสนามซะมากกว่าครับ  :L2754: :L2754: :L2754:

 :L2905: :L2905: :L2905: งี้ก็ปิ้งย่างข้างสนามบอลด้วยดิ  :L2901:
+1ข้างสนามพร้อม 037  :L2905: :L2905: :L2905:

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2013, 09:54:47 »
พรุ่งนี้แล้วนะขอรับพี่น้อง....EPL จะรูดม่านเปิดการแข่งขันนัดแรกอย่างเป็นทางการ....ใครยังไม่ได้ติด CTH คงต้องหาที่เหมาะๆชมละครับ.....ถ้ายังหาไม่ได้ ติดต่อพี่เจมส์ครับ.....ไปขอดูที่บ้านพี่เจมส์ จะได้คุ้มค่าที่ติดหน่อย....เพราะปกติพี่เจมส์แกหลับตั้งกะบอลยังไม่มา......เลยไม่รู้ว่าแกจะติด CTH ไปทำไม......พวกเราช่วยกันเข้าไปดูที่บ้านแกจะได้คุ้มๆหน่อยคร้าาาาาาาาบ

 :L2754: :L2754: :L2754:

เอาละครับ....พรุ่งนี้ได้ดูบอลนอกให้หายคิดถึงกันละ.....หลังจากตามดูบอลไทยแก้ขัดมาพักใหญ่.....บอลไทยนี่เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นเยอะนะครับ....คนดูในสนามเยอะขึ้น......บรรยากาศดีขึ้น.....แต่รู้สึกว่าวีรกรรมวีรเวรกองเชียร์นี่ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่.....ยังมีหลายเกมส์ที่ดูแล้วเชียร์กันโหดไปหน่อย......โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาไม่พอใจกรรมการ.....ด่าซะยังกะว่ากรรมการไปเตะก้านคอผู้ให้กำเนิดยังไงยังงั้น......แต่ก็ยังดีครับ ยังไม่มีการพัฒนาถึงขัน "บอลไทย ไปมวยโลก" เหมือนอย่างกีฬาที่ชอบถอนขนไก่

 :L2754: :L2754: :L2754:

มาว่ากันถึงเรื่อง EPL กันต่อดีกว่า......เกมส์จริง แข่งจริง แต้มจริง กำลังจะเริ่มต้นแล้ว......ทีนี้ปรีซีซั่น ดีเลวยังงัยพับเก็บได้แล้ว......จะเป็นหมูสนามจริงสิงห์สนามซ้อม......หรือจะเป็นตายในสนามซ้อม อ้อมกลับมาเป็เทพสนามจริง....คงได้ดูให้รู้กัน.....สำหรับผมเอง ถึงจะมีทีมที่ตามเชียร์อยู่....แต่โดยปกติ ผมก็ดูทุกทีมครับ....ดูความเป็นไปของแต่ละทีม.....เพราะในแต่ละฤดูกาล แต่ละทีมมีเรื่องที่น่าติดตามดูแตกต่างกันไป......วันนี้เลยอยากเอาสิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจติดตามดูของแต่ละทีมมาแชร์กันซักหน่อย....แต่คงไม่ครบทุกทีมนะครับ....เอาทีมเด่นๆในลีกละกันครับ

 :L4398: :L4398: :L4398:

1. แมนยู
แชมป์เก่าปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะครับ......ผู้จัดการทีมเปลี่ยนใหม่ สตาร์ฟโค๊ชเปลี่ยนยกชุด......สำหรับผมสิ่งที่คิดว่าน่าติดตามคือ เดวิด มอยส์ จะปรับตัวเองได้ดีแค่ไหนครับ......ประเด็นก็คือแนวทางการเล่นของทีมที่แตกต่างกันมากระหว่างแมนยู กับเอเวอร์ตัน.......มอยส์ตอนคุมเอเวอร์ตัน.....เล่นกับทุกทีมมอยส์จะเน้นที่เกมรับเหนียวแน่น...เกมบุกรวดเร็ว ฉาบฉวย.....บอลสาดจากด้านข้างเข้าโจมตี อาศัยเจ้าเวหาอย่างทิม เคฮิล และเจ้าฟูเป็นเป้า.....ทุกทีมที่เล่นกับเอฟเวอร์ตันนั้นมาแบบมาแย่งแต้มกันนะครับ คือไม่ได้มาอุดเอา 1 คะแนน....ทีมเล็กๆมาเล่นก็เปิดเกมส์รุกเข้าใส่เพื่อลุ้น 3 คะแนน...ยิ่งถ้าเป็นทีมใหญ่มาละก็ เปิดเกมส์รุกบดแหลกเพราะต้อง 3 แต้มเท่านั้น....ดังนั้นเทคนิคที่มอยส์ใช้มาร่วม 10 ปี คือตั้งรับเหนียว จู่โจมเร็ว จึงได้ผลมาตลอด.....แต่พอข้ามห้วยมาคุมแมนยู.....ถึงคุณภาพนักเตะจะดีขึ้น แต่อย่าลืมนะครับว่าเทคนิคของทีมคู่แข่งมาไม่เหมือนกัน....แทบทุกทีมที่เล่นกับแมนยูจะมาอุด (จะมีกี่ทีมที่กล้าเปิดหน้าแลกกับผีแดง)....ตั้งรับต่ำ...ปะทะรุนแรง....โต้กลับเร็ว.....ในขณะที่แมนยูเองก็มีไสตล์ที่แตกต่างจากเอฟเวอร์ตันมาก เพราะแมนยูเป็นทีมที่ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่ตลอดเวลา....บุกเป็นทีม....ต่อบอลตามช่อง หาช่องเจาะ...เรียกว่าแทบล้อมอยู่หน้าเขตโทษ ต่อบอลหาช่องไปมาอยู่แถวเขตโทษคู่ต่อสู้นั่นแหละ.....นี่คือสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างมากที่มอยส์ต้องเจอ.....และที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผมนะครับ.....คือเวลาที่แมนยูตื้อ หรือตัน....คือบุกไม่เข้า ได้แต่ต่อบอลไปมา ยิงหลุดไปหลุดมา.....ในช่วงเวลาแบบนี้ ท่านเซอร์มักมีไม้เด็ดลงมาแก้ทาง....ประเภทลงมายิงนาทีท้ายๆเก็บ 3 แต้มไปมีให้เห็นประจำ......แต่มอยส์ที่ประสบการณ์ด้านการแก้เกมส์แบบนี้มีน้อยกว่ามาก.....น่าติดตามดูนะครับว่ามอยส์จะแก้เกมส์เมื่อทีมตื้อตันได้ดีแค่ไหนกัน


2. แมนซิตี้
ทีมนี้อัดแน่นไปดูซุปตาร์.....กองหน้ามีมากพอจะตั้งได้อีก 2 ทีม (มรึงจะซื้อมาทำไมนักหนา).....สิ่งที่น่าจับตามอง หรือน่าติดตามคือ......การจัดตัว และการหมุนเวียนเปลี่ยนซุปตาร์ลงมาเล่นกันยังงัย โดยเฉพาะในแดนหน้า.....และอีกประเด็นหนึ่งคือพี่ท่านซื้อมาแต่กองหน้าอย่างเดียว......จึงน่าติดตามมากว่ากองหลังที่มีแต่อะไหล่เกรดB จะเป็นช่องโหว่หรือไม่.....แมนซิตี้ช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมานั้น....เรียกได้ว่าใช้ชื่อกองหน้าข่มทีมคู่แข่งได้ตลอด.....คือประมาณว่าทีมฝั่งตรงข้ามให้หน้ากองหน้าแต่ละคนแล้วขาสั่นไม่กล้าบุก....ถอยลงมาอุดต่ำกันหมด......ปล่อยให้เทพกองหน้าทั้งหลายดาหน้าเข้าถล่ม....เลยทำให้จุดอ่อนที่กองหลังไม่โดนแหวะแผลออกมาเท่าไหร่......ฤดูกาลที่แล้วเวลาแมนซิตี้เจอกับแมนยู จะเห็นได้ชัดเลยครับว่าท่านเซอร์สั่งเปิดหน้าโจมตีจุดอ่อนของแมนซิตี้เต็มๆ....พอโดนตีบ่อยๆเข้า กองหลังยวบ...แมนซิตี้เลยโดนผีแดงทุบเละประจำ.....ฤดูกาลนี้ก็คงคล้ายๆกัน เพราะดูการเสริมทัพแล้ว แมนซิตี้พี่เสริมมาแต่กองหน้ากองกลาง....หลังไม่สน.....ต้องดูละครับว่ากุนซือใหม่อย่างเปเยฯ จะจัดส่วนผสมกองหน้ากองกลางอย่างไรให้ลงตัว.....เพราะถ้าไม่ลงตัว ฟอร์มฝืด....คู่แข่งหันมาทุบจุดอ่อนกองหลังได้เมื่อไหร่.....โจ ฮาร์ทได้กลายร่างเป็นลิงแน่ๆ


3. เชลซี
เต็ง 1 แชมป์ในสายตาของสื่อส่วนใหญ่....ทีมไม่ได้เสริมอะไรมาก มีอะไหล่เข้ามา 2 ตัว + ผู้เล่นที่กลับมาจากยืมตัว....ไม่มีซุปตาร์เข้ามาใหม่.....แต่ด้วยชื่อของ "โชเซ่ มูรินโญ่" ย่อมขายได้เสมอ....พะยี่ห้อมูรินโญ่เข้าไป เป็นทีมไหนก็ต้องเต็งแชมป์......แต่สิ่งที่น่าติดตามสำหรับทีมนี้ ผมว่าไม่ใช่ว่าจะได้แชมป์หรือไม่ครับ.....แต่น่าติดตามตรงที่ "มูรินโญ่" จะทำทีมอย่างไร ในเมื่อทีมที่มีอยู่ในตอนนี้มันต่างกันอย่างมากมายจาก "มูรินโญ่ทีม" ที่เขาเคยสร้างไว้ในยุคแรก......เชลซีในยุคแรกของจ่ามู.....เป็นทีมที่มีกองหลังแข็งโป๊ก....แน่นปั๊ก....ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปยันกองกลางตัวตัดเกมส์.....จะยิงเชลซีให้ได้ซักประตูนี่มันยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ.....ส่วนเกมส์รุกไม่มีอะไรมากมายครับ....พึ่งโคตรกองหน้าอย่างดร็อกบาเป็นหลัก.....โดยใช้ฟุตบอลสไตล์ Direct จ่ายบอลให้ดร็อกบาพักบอลในแดนหน้า.....จากนั้นค่อยดูว่าจะพลิกเล่นเอง หรือรอให้กองกลางขึ้นมาเติม......และด้วยความแข็งแกร่งของเดอะดร็อกทำให้ทีมส่วนใหญ่จะใช้กองหลังมากกว่า 1 ตัวประกบ...ส่งผลให้กองกลางที่เติมขึ้นมามีพื้นที่เขาทำประตูง่ายขึ้น....เทคนิคนี้ส่งผลให้กองกลางอย่างแลมป์พาร์ดกลายเป็นโคตรกองกลางที่ยิงประตูได้มากมายทุกฤดูกาล......แต่ทีมปัจจุบันของเชลซีไม่ได้มีเค้าโครงของทีมเดิมอีกแล้ว.....ไร้เงากองหน้าแข็งแกร่งพักบอลดีเล่นเองได้อย่างเดอะดร็อก......ฟุตบอลก็เปลี่ยนจาก Direct มาเป็น Passing ..... บุกกันเป็นทีม....กองกลางจากที่เน้นพละกำลัง...เปลี่ยนมาเป็นอัดแน่นด้วยกองกลางจอมเทคนิคแต่ตัวเล็กนิดเดียว.....ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสไตล์ที่จ่ามูไม่ได้ถนัด.....จึงน่าติดตามว่าในทรัพยากรที่มีจ่ามูจะปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ออกมาดี.....ทั้งๆที่ไม่ใช่ทรัพยากรที่ตัวเองชอบซักเท่าไหร่


4. อาร์เซนอล
ปืนใหญ่ เป็นทีมเดียวใน Top 4 ที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด...ผู้จัดการทีมคนเดิม....ผู้เล่นเดิมๆ...ไม่ได้เติมใครเข้ามา ไม่เสียใครไป......เวงเกอร์พูดตลอดเวลาว่าทีมนี้ดีพอที่จะลุ้นแชมป์.....แต่ก็ว่างจากแชมป์มา 8 ปีแล้ว....จึงน่าติดตามอยู่พอสมควรว่า....ในขณะที่อีก 3 ทีมด้านบนมีการเปลี่ยนแปลงทีมทั้งหมด....ต้องใช้เวลาในการปรับจูน ปรับตัว.....แมนยูได้มอยส์ที่ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง ต้องปรับตัวให้เข้ากับการคุมโคตรทีม ต้องเจอกับเกมส์อุดแหลกที่ตนเองไม่เคยเจอ.....แมนซิตี้ได้ผู้จัดการทีมใหม่ ที่ยังไม่คุ้นชินกับฟุตบอลอังกฤษ สไตล์การทำทีมในสเปนจะเอามาใช้ในบอลอังกฤษได้หรือไม่ ปรับเปลี่ยนแล้วออกมาดีหรือไม่ยังต้องใช้เวลาในการจูนกันต่อไป.....เชลซีที่สไตล์ของผู้จัดการทีม กับสไตล์ของผู้เล่นแตกต่างกันอย่างมากก็คงต้องใช้เวลาในการปรับจูนกัน......ส่วนอาร์เซนอลที่ไม่ต้องจูนอะไรกันมากแล้ว....จะสามารถฉกฉวยประโยชน์จากช่วงเวลาที่คู่แข่งต้องปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหนคงน่าติดตามไม่น้อย.....ถ้าช่วงแรกสามารถควบทิ้งห่าง ขณะที่อีก 3 ทีมหัวตารางสะดุด....คงเป็นอะไรที่น่าดูอย่างยิ่งว่าเวงเกอร์จะอาศัยความได้เปรียบนี้ได้อย่างไร


5. สเปอร์
ไก่เดือยทอง....ทีมอกหักรักคุดแห่งทศวรรต......ทีมที่พยายามถีบตัวเองให้มาติด Top 4 ชิงพื้นที่เล่น Champion League....อกหักปีก่อนโน้น อุตสาห์จบที่ 4....แต่ไม่ได้ไปเล่นถ้วยใหญ่เพราะเชลซีดันได้แชมป์.....ปีที่แล้วยึดที่ 4 อยู่ได้ตั้งนาน....ตกม้าตายตอนจบ โดนปืนใหญ่ปาดหน้าแซงเข้าที่ 4 ซะงั้น......ปีนี้มีการเสริมทัพได้น่ากลัว โดยเน้นที่กองกลางเป็นหลัก....เพราะปีที่แล้วกองกลางพึ่งพอโคตรคนอย่างเบลมากเกินไป....พอเบลไม่ฟิต ทีมก็เลยเล่นไม่ออกไปด้วย....ปีนี้ได้ตัวดีๆมาเสริมทัพหลายตัว.....น่าติดตามว่าไก่เดือยทองจะต่อยอดทีมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้วไปได้ไกลอีกเพียงไหน.....จริงๆแล้วชื่อชั้นของนักเตะตัวหลักของไก่เดือยทองไม่ขี้เหร่......ถึงจะไม่ใช่ซุปตาร์ แต่ก็เป็นนักเตะเกรดดีทุกคน....แต่ปัญหาที่รบกวนตลอดเวลาคืออาการบาดเจ็บ....ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านักเตะไก่ทำไมมันเจ็บง่าย เจ็บนานกันทุกคน.....ประเภทแข้งกระจกกันทั้งทีม เจ็บทีเจ็บเป็นเดือน......และด้วยความที่อะไหล่ทดแทนมีไม่มาก ทำให้พออาการบาดเจ็บรุมเร้ามากๆเข้า ฟอร์มของทีมก็เลยเป๋ออกทะเลเอาง่ายๆ......โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองหลัง เท่าที่เห็นมีตัวดีอยู่แค่ 2 ตัว....แค่คนใดคนหนึ่งเจ็บ...หลังก็รวนไปรวนมาแล้ว....ยิ่งถ้ากองหน้าอย่างเบล หรือเลนนอนเจ็บด้วยละก็.....จากทีมที่ดีๆกลายเป็นทีมดาดๆไปเลย.....ฤดูกาลนี้ AVB พยายามแก้จุดอ่อนของทีมในเรื่องของอะไหล่ทดแทน.....มีการเสริมทีมทั้งตัวจริงราคาแรงๆ และอะไหล่ราคาประหยัดเข้ามาพอสมควร.....น่าติดตามว่าแนวทางการแก้ปัญหาของ AVB จะแก้จุดอ่อนของไก่ได้หรือไม่

6. เอฟเวอร์ตัน
ทอฟฟี่สีน้ำเงิน....มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในทีม....ถึงแม้ผู้เล่นจะเป็นชุดเดิมทั้งหมด ยังไม่เสียแกนหลักไป....แต่ก็ต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีม.....โดยเอามาร์ตี้มาแทนมอยส์ที่หนีไปเป็นแม่ทัพอสูรแดง.......มาร์ตี้กับมอยส์มีไสตล์การทำทีมที่คล้ายกันคือเน้นเกมรับ เกมรุกรวดเร็ว ฉาบฉวย.....แต่มาร์ตี้สมัยคุมวีแกน คุณภาพตัวผู้เล่นอ่อนกว่าเอฟเวอร์ตันเยอะ จึงทำให้ทีมไปไม่ถึงไหน....พอโยกมาคุมทอฟฟี่ที่มีคุณภาพผู้เล่นที่ดีกว่า สไตล์การทำทีมแบบเดิม....ก็มีโอกาสที่จะทำผลงานได้ดี.....แต่จุดที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างมอยส์กับมาร์ตี้คือเรื่องของสายตาในการมองหานักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีม.....มอยส์เป็นผู้จัดการทีมที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในที่มีสายตาคมมากในการมองหานักเตะที่ไม่ดัง...เอามาปั้น เอามาแต่งได้ดี.....หลายคนจากที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อน กลายเป็นนักเตะเกรดดีขึ้นมาหลังจากได้รับการขัดเกลาจากมอยส์....แต่มาร์ตี้นั้นสายตาดูเหมือนไม่คมเท่ามอยส์....ตอนอยู่วีแกน.....ซื้อนักเตะเข้ามาเยอะทุกฤดูกาล.....ที่พอเชิดหน้าชูตาได้มีไม่กี่คน.....ที่เหลือก็งั้นๆ.....ประเภทมาฤดูกาลเดียว แล้วจบฤดูกาลต้องโละทิ้งก็มีเยอะ.....ซึ่งจุดนี้แหละที่น่าติดตามว่าเอฟเวอร์ตันที่ปกติทุกฤดูกาลมักจะได้เพชรเม็ดงามราคาถูกมาเสริมทีมแทบทุกฤดูกาล....พอเปลี่ยนมาเป็นมาร์ตี้แล้ว....โอกาสที่จะผิดพลาดในการซื้อนักเตะมีมากขึ้น.....จะประคองตัวทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนยุคที่มอยส์คุมทีมอยู่หรือไม่....อันนี้น่าติดตามเช่นกัน


7. ลิเวอร์พูล
หงษ์แดงเป็นทีมที่ไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมและสตาร์ฟโค๊ช.......เป็นช่วงฤดูกาลที่ 2 ของร็อดเจอร์สแล้วในการนั่งเก้าอี้แม่ทัพหงษ์แดง......หลังจากรับมรดกจากคิงเคนนี่....ที่มีขยะอยู่เต็มทีม.....ตอนนี้ปัดหน้าทาปากใหม่....โละขยะของคิงเคนนี่ออกไปเพียบ....แล้วเสริมตัวใหม่ๆเข้ามาเติม.....การซื้อตัวในช่วงมกราคมที่ผ่านมาถือว่าร็อดเจอร์สทำได้ดีมาก...ทั้งคูตินโญ่และสเตอร์ริดจ์ เข้ามาช่วยทีมได้เยอะ....ทำผลงานได้เยี่ยม.....ช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว เมื่อไอ้เหยินซัวเรสติดโทษแบนยาว.....ทีมยังพึ่งพานักเตะเก๋าอย่างเจอร์ราด บวกกับแข้งใหม่ ก็ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม.....ช่วงปิดฤดูกาลร็อดเจอร์สเสิรมทีมเข้ามาใหม่พอสมควร ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นักเตะเกรดเอ...แต่ก็น่าสนใจที่ร็อดเจอร์สจะสามารถผสมผสานให้ลงตัวได้ดีแค่ไหน....จะสามารถดึงศักยภาพนักเตะเหล่านี้ออกมาได้มากแค่ไหน.....อย่าลืมนะครับสมัยคุมหงษ์ขาวสวอนซี นักเตะโนเนมกันทั้งทีม.....แต่ร็อดเจอร์สก็สามารถผสมผสานนักเตะเหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม....ดึงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ จนสวอนซีในยุคของเขาขึ้นชื่อว่า สวอนเซโลน่า.......ฤดูกาลนี้สำหรับหงษ์แดงจึงน่าติดตามว่า ตอนนี้ทีมได้ถูกเปลี่ยนจากการเป็น "ทีมของคิงเคนนี่" กลายเป็น "ทีมของร็อดเจอร์ส" แล้ว.......จะสร้างผลงานได้ไฉไลเหมือนสมัยที่เขาสร้างสวอนซีหรือไม่ น่าติดตามยิ่งนัก


นี่แหละครับ....สิ่งที่น่าติดตามดูของ EPL ในฤดูกาลนี้สำหรับผม......ติดตามทุกทีมครับ....เชียร์ทุกทีม (ที่เล่นกับแมนยู)  :L2754: :L2754: :L2754: :L2754: :L2754:

ชมฟุตบอลให้สนุกนะครับ....ชมให้เป็นกีฬา....อย่าข้องเกี่ยวกับการพนันครับ
:L4399: :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2013, 11:54:50 »
สุดยอดเลยพี่ตาม วิเคราะห์ได้เยี่ยมจิงๆ
    เอ...หรือว่าเปน ต.ตาม น้อง ย.โย่งป่าวหว่า กร๊ากกกกกก

ปูลู : ที่ติด CTH เพื่อเอาจานไว้บังแดดคับ ไม่ได้ดูบอล มันมาดึกจิงๆ เปิดสนาม ผีแดง เตะคู่สุดท้ายอีก เฮ่ออออ...ปวดตับเลย

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2013, 15:49:33 »
สุดยอดเลยพี่ตาม วิเคราะห์ได้เยี่ยมจิงๆ
    เอ...หรือว่าเปน ต.ตาม น้อง ย.โย่งป่าวหว่า กร๊ากกกกกก

ปูลู : ที่ติด CTH เพื่อเอาจานไว้บังแดดคับ ไม่ได้ดูบอล มันมาดึกจิงๆ เปิดสนาม ผีแดง เตะคู่สุดท้ายอีก เฮ่ออออ...ปวดตับเลย

เปิดประตูบ้านทิ้งไว้เลยพี่.....เดี๋ยวผมเข้าไปนั่งดูให้ จะได้คุ้ม  :L2754: :L2754: :L6419: :L6419:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: คุยเฟื่อง เรื่องฟุตบอล
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2013, 20:43:31 »
จบแล้วนัดแรก

ลิเวอร์พูล 1-0 สโต๊ค ซิตี้

คู่นี้ดูแล้ว....หงษ์แดงดูดี....แต่ยังใช้โอกาสเปลืองไปหน่อย....คงยังไม่ฟิต 100% ปรับกันต่อไป....ดูมีอนาคตครับ

แต่สโต๊ค......ผมว่าเป็นแบบนี้....สงสัยต้องลุ้นหนีตกชั้นละครับ.....มาร์ค ฮิวช์ ยังทำทีมได้แย่เหมือนเดิม.....ผมไม่แน่ใจว่าแกคิดอะไร.....คือพยายามจะทำให้สโต๊คเป็นแมนยูหรือยังไง....เล่นไปเล่นมายิ่งหนัก ทำตัวเป็นอาร์เซนอลซะงั้น.....ต่อบอลกันจัง......คือมันเป็นการเปลี่ยนธรรมชาติของทีมมากไปครับ....ปกติสโต๊คเป็นทีมที่เล่นแบบง่ายๆ บอลไดเร็ค โยนยาว....พึ่งลูกตั้งเตะ......80 นาทีในเกมส์นี้....สโต๊คพยายามต่อบอลสู้กะลิเวอร์พูล....แต่มันไม่เวิอร์เลย.....จนมา 10 นาทีท้าย ลูกทีมคงคิดว่าไม่ไหวละโว๊ย.....กูโยนยาวแบบเดิมที่กูถนัดดีกว่า......10 นาทีท้ายนี่ทำได้ดี เกือบตีเสมอได้เลยละครับ.......บางทีปล่อยให้นักเตะเล่นกันเองอย่างที่เคยเล่น ยังอาจจะดีกว่าเล่นตามที่ไอ้มาร์ค ฮิวช์ สั่งซะอีก..........ผจก. คนนี้มันห่วยได้ใจจริงๆ....เหมือนตอนคุมทีม QPR เมื่อฤดูกาลที่แล้วเลย
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.