ผลการใช้งานหม้อน้ำอลูมิเนียม26มม. ใบใหม่ Radiator R.2ก่อนอื่นเรามารู้จักหม้อน้ำและจุดที่ควรดูแลกันก่อน


หม้อน้ำเดิมของรถ pajero sport ขอเราก็เป็นอลูมิเนียมเหมือนกันนะครับ แต่มีขนาดหลอดแค่ 16 มม. ไม่ถึง 19 มม.เลย ส่วนหม้อน้ำใหม่นี้มีขนาดหลอดใหญ่ถึง 26 มม. ซึ่งใหญ่จนเกือบเต็มพื้นที่ของช่องหน้ารถโดยยังสามารถใส่พัดลมเดิมได้ หากทำใหญ่กว่านี้คงต้องตีเฟรมพัดลมใหม่และเปลี่ยนไปใช้พัดลมไฟฟ้าแทนพัดลมฟรีปั๊ม
การทำงานของหม้อน้ำรถ pajero sport ของเราและการระบายความร้อนของพัดลมดังนี้ เมื่อรถเดินเบาระบบเครื่องยนต์จะทำการอุ่นน้ำในระบบจนได้ ระดับ engine temp พอถึงระดับตามการออกแบบซึ่งในรุ่น 2500 cc จะสูงกว่ารุ่น 3200 cc เนื่องจากระบบกระบอกสูบมีช่วงชักสั้นกว่าแต่ให้รอบที่จัดจ้านกว่า 3200cc จึงต้องมี engine temp ที่สูงกว่า พอได้ถึงจุดนี้วาว์ลน้ำก็จะเริ่มเปิดเอาระบบน้ำใหม่เข้าไปและเอาน้ำที่ร้อนออกมาแต่การเข้าไปจะค่อยๆเข้าไปผสมทีละน้อยไม่ให้อุณหภูมิต่ำไปมากนัก และพอน้ำเก่าออกมาก็ไหลวนไปเข้าหม้อน้ำเพื่อคลายความร้อนออกจากตัวของน้ำและไหลกลับมารอที่ปากทางวาว์ลน้ำหรือหมุนเข้าไปอีกรอบเป็นวัฐจักรของการระบายความร้อน และในขณะนี้เองจะมีพัดลมหน้าเครื่องหมุนช่วยระบายอาการให้ด้วยในขณะอุณหภูมิประมาณ 90-92องศา แต่หากเครื่องยนต์หมุนเร็วเกินกว่านั้นพัดลมตัวดังกล่าวจะถูกปลดฟรีเพื่อให้แรงลมปะทะจากหน้ารถยนต์เอง แต่พอความเร็วรอบเครื่องยนต์หมุนต่ำลงแต่ temp ยังสูงพัดลมฟรีปั๊มก็จะกลับมาทำงานเหมือนเดิมแบบดูดเข้าหาเครื่องเพื่อดึงอากาศภายนอกผ่านหม้อน้ำเข้ามาในเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับลมที่ปะทะขณะวิ่ง ไม่ใช่การเป่าย้อนออกไปหน้ารถนะครับ
อีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้หม้อน้ำคลายความร้อนได้บ้างเมื่อtempยังไม่ถึงจุดที่จะให้พัดลมทำงาน ก็อาศัยลมจากพัดของคอลย์แอร์ที่ขณะเราจอดอยู่กับที่หรือเคลื่อนที่ด้วยรอบไม่สูงนัก แต่เปิดแอร์อยู่นั้นในการออกแบบให้แผงคอล์ยร้อนของแอร์มาอยู่หน้าหม้อน้ำก็เพื่ออาศัยจังหวะพัดลมแอร์เป่านี้แหละทะลุมาถึงหม้อน้ำด้านหลังด้วยกันเลยเป็นการใช้ประโยช์นของพัดลมที่คุ้มค่าในการออกแบบระบบ(ที่ยังไม่ดัดแปลงเรื่องความร้อน) นี่แหละเป็นที่มาของทำไมเอาคอยล์ร้อนไปไว้หน้าหม้อน้ำ แต่ถ้าเอาคอล์ยร้อนไว้หลังหม้อน้ำล่ะจะเกิดอะไรขึ้น ก็คือแอร์ไม่เย็นเสียทีเพราะมีแต่ไอร้อนมาเป่าตลอดเวลา แล้วทำไมไอร้อนจากคอล์ยแอร์ไม่มีผลต่อกริลหม้อน้ำในการระบายความร้อนเหรอ ก็ต้องบอกว่ามีครับแต่ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้หม้อน้ำมากนักเพราะหม้อน้ำทำหน้าที่รักษา water temp ที่จำเป็นต่อเครื่องยนต์เป็นน้ำร้อนไม่ใช่น้ำเย็นดังนั้นการที่ความร้อนจากไอของคอล์ยแอร์กลับมีประโยช์นช่วยอุ่นหม้อน้ำด้วยซ้ำในกรณีที่ temp ยังไม่ถึง engine temp
มาต่อเรื่องการระบายความร้อนจากหม้อเดิม
ใน 1 ช่วงเวลา ของการระบายความร้อนจากประสิทธิภาพของระบบ จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์คือตัวแปรสำคัญในการสร้างอัตราเร่งและการสร้างอัตรเร่งที่เร็วก็คือการทำงานที่เร็วมากกว่าเดิม การสันดาปมากกว่าเดิม ความร้อนจากการเสียดสีย่อมมีมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน แต่จากการออกแบบนั้นเขาสัมพันธ์ความร้อนกับการระบายมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นเรามาดูตามภาพนี้กัน จากรูปแสดงให้เห็นตัวอย่างสมมุติ
สมมุติว่าประสิทธิภาพของหม้อน้ำเดิมคิอสามารถลดความร้อนในระบบต่อช่วงเวลา=3 องศาของรอบการไหลผ่านด้วยลมปะทะในหน้าร้อนที่อุณหภูมิอากาศภายนอกปกติ 28 -33 องศา คือเมื่อระบบเครื่องยนต์สร้างความร้อนแบบก้าวหน้า(คือเร่งเค้นไม่ยก)ที่ประมาณ 30% ของกำลังรวม อาจจะสร้างความร้อน= +3 องศา ก็จะบวกเพิ่มจาก water temp ที่วาว์ลเปิดเข้ามา รวมกันออกไปที่ขาออก = 91-94 องศา พอผ่านหม้อน้ำสามารถลดลงได้ 3 องศา ทำให้น้ำไหลวนกลับไป = 91 องศา และหากเราเค้นเครื่องยนต์เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขับได้ต่อระบบก็วนไปเรื่อยๆ
พอเราเริ่มเร่งเครื่องให้ทำงานที่ประมาณ 50-60% เครื่องก็ตอบสนองเพิ่มและสร้างความร้อนมากขึ้นหน่อยเช่นสร้างมาที่ 4 องศา แต่น้ำในระบบเมื่อขั้นตอนก่อนยังอยู่ที่ 91 ก็เท่ากับหม้อน้ำขาออกจะรวมเป็น 95-96 องศา เมื่อผ่านหม้อน้ำก็สามารถลดลงได้ 3 องศาเพราะมีหน้าที่ระบายตามสภาวะลดลงเหลือ 93 คราวนี้น้ำที่ไปวนจ่อก็มี water temp ที่ 93 องศา
พอเราเร่งเครื่องอีกที่ประมาณ 70-80% ของรถเรา เครื่องก็สร้างสูงขึ้นอีก คราวนี้การระบายความร้อนเริ่มระบายช้ากว่าการสร้างความร้อนน้ำที่มาวนเข้าก็มี water temp สูงเมื่อไปรวมกับ engine temp ก็ทำให้ temp ขาออกสูงขึ้นอีก แบบที่เราเห็นใน Smart guage ว่าทำไมยิ่งกดความร้อนเดินแบบก้าวหน้าตลอด เพราะอะไรกัน แน่นอนแหละตอบแบบง่ายๆคือความร้อนสะสมมันเยอะและคลายความร้อนไม่ทัน พอเรายิ่งเร่งก็ยิ่งสะสม แต่หากเราชลอการเร่งปล่อยให้ระบบคลายความร้อน โดยการไม่เพิ่มการสร้างความร้อนก็จะสามารถอยู่กับการปล่อยช่วงให้ระบบคลายความร้อนก่อนการสร้างความร้อนครั้งใหม่ต่อไป เช่นการถอนคันเร่ง การชะลอคันเร่ง การค่อยๆเติมคันเร่ง การใช้ mode tune ต่ำๆเพื่อไม่ให้เค้นอัราเร่ง(แต่จริงแล้วไม่ต้องจูนหลบหรอก แค่ประคองและไม่สร้างความร้อนเพิ่มสักพักก็ลงแล้ว)
ที่ผมเคยบอกว่า
อย่าตกใจเรื่องความร้อนแต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อนเพราะอยากให้รู้วิธีการเกิดความร้อนด้วยการถ่ายทอดด้วยภาษาง่ายๆแบบเล่าให้ฟัง ไม่ลงลึกถึงรายละเอียดเทคนิคมากเอาแค่คนใช้รถเข้าใจได้และระวังป้องกันได้ หากจะแก้ไขหรือมีคนแนะนำให้แก้ไข ก็จะได้รู้ว่าเขาแก้ตรงไหน แก้ให้แล้วผลเป็นอย่างไร หลักการวิธีการขัดกับความเข้าใจไหม และสุดท้ายให้ตัดสินใจเอาเองอีกครั้ง
**การแต่งกล่อง หรือ step2 แต่งแล้วร้อนไหม ตอบง่ายมากครับ ว่าคุณทำอะไรให้เครื่องยนต์ตอบสนองเร็วกว่าเดิมการเสียดสีมากกว่าเดิม ความร้อนย่อมมีมากกว่าเดิม แต่หากบอกยิ่งเร็วยิ่งเย็นคงไม่ใช่เหล็กสีกันแล้วครับ คงเป็นคารมณ์มากกว่า สีกันไปสีกันมา เย็นกว่าเครื่องยนต์เสียอีก บางทีเย็นเป็นวุ้นเลย 555555