Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications

Review Radiator R2......รีวิว หม้อน้ำใหญ่สำหรับ Pajero Sport

<< < (3/13) > >>

พี่โต้ง Tongsom:
ที่ บริษัท ก็ผลิย หม้ออยู่ แต่เป็นของ Nissan and Isuzu เสียดายจัง

ถ้าใส่ ด้วยกันได้ จะหาไปใส่สักลูกนึง

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: พี่ทศ@ปามาเนีย ที่ 30 มีนาคม 2013, 15:27:51 ---มอง Part ไม่เห็นพี่นะ  ว่าจะโทรสั่งหม้อสักหน่อย

 :sd42: :sd13:

--- End quote ---
part ซ่อนอยู่ครับพี่ทศ   ต้องเสียค่าเปิดผ้าห่อ part ก่อน  5555  :L2905:

พี่นะ [Na ratchada]:
ผลการใช้งานหม้อน้ำอลูมิเนียม26มม. ใบใหม่ Radiator R.2

ก่อนอื่นเรามารู้จักหม้อน้ำและจุดที่ควรดูแลกันก่อน





หม้อน้ำเดิมของรถ pajero sport ขอเราก็เป็นอลูมิเนียมเหมือนกันนะครับ   แต่มีขนาดหลอดแค่ 16 มม. ไม่ถึง 19 มม.เลย  ส่วนหม้อน้ำใหม่นี้มีขนาดหลอดใหญ่ถึง 26 มม. ซึ่งใหญ่จนเกือบเต็มพื้นที่ของช่องหน้ารถโดยยังสามารถใส่พัดลมเดิมได้  หากทำใหญ่กว่านี้คงต้องตีเฟรมพัดลมใหม่และเปลี่ยนไปใช้พัดลมไฟฟ้าแทนพัดลมฟรีปั๊ม

การทำงานของหม้อน้ำรถ pajero sport ของเราและการระบายความร้อนของพัดลมดังนี้   เมื่อรถเดินเบาระบบเครื่องยนต์จะทำการอุ่นน้ำในระบบจนได้ ระดับ engine temp พอถึงระดับตามการออกแบบซึ่งในรุ่น 2500 cc จะสูงกว่ารุ่น 3200 cc เนื่องจากระบบกระบอกสูบมีช่วงชักสั้นกว่าแต่ให้รอบที่จัดจ้านกว่า 3200cc จึงต้องมี engine temp ที่สูงกว่า   พอได้ถึงจุดนี้วาว์ลน้ำก็จะเริ่มเปิดเอาระบบน้ำใหม่เข้าไปและเอาน้ำที่ร้อนออกมาแต่การเข้าไปจะค่อยๆเข้าไปผสมทีละน้อยไม่ให้อุณหภูมิต่ำไปมากนัก  และพอน้ำเก่าออกมาก็ไหลวนไปเข้าหม้อน้ำเพื่อคลายความร้อนออกจากตัวของน้ำและไหลกลับมารอที่ปากทางวาว์ลน้ำหรือหมุนเข้าไปอีกรอบเป็นวัฐจักรของการระบายความร้อน  และในขณะนี้เองจะมีพัดลมหน้าเครื่องหมุนช่วยระบายอาการให้ด้วยในขณะอุณหภูมิประมาณ  90-92องศา  แต่หากเครื่องยนต์หมุนเร็วเกินกว่านั้นพัดลมตัวดังกล่าวจะถูกปลดฟรีเพื่อให้แรงลมปะทะจากหน้ารถยนต์เอง  แต่พอความเร็วรอบเครื่องยนต์หมุนต่ำลงแต่ temp ยังสูงพัดลมฟรีปั๊มก็จะกลับมาทำงานเหมือนเดิมแบบดูดเข้าหาเครื่องเพื่อดึงอากาศภายนอกผ่านหม้อน้ำเข้ามาในเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับลมที่ปะทะขณะวิ่ง   ไม่ใช่การเป่าย้อนออกไปหน้ารถนะครับ

อีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้หม้อน้ำคลายความร้อนได้บ้างเมื่อtempยังไม่ถึงจุดที่จะให้พัดลมทำงาน  ก็อาศัยลมจากพัดของคอลย์แอร์ที่ขณะเราจอดอยู่กับที่หรือเคลื่อนที่ด้วยรอบไม่สูงนัก  แต่เปิดแอร์อยู่นั้นในการออกแบบให้แผงคอล์ยร้อนของแอร์มาอยู่หน้าหม้อน้ำก็เพื่ออาศัยจังหวะพัดลมแอร์เป่านี้แหละทะลุมาถึงหม้อน้ำด้านหลังด้วยกันเลยเป็นการใช้ประโยช์นของพัดลมที่คุ้มค่าในการออกแบบระบบ(ที่ยังไม่ดัดแปลงเรื่องความร้อน)   นี่แหละเป็นที่มาของทำไมเอาคอยล์ร้อนไปไว้หน้าหม้อน้ำ  แต่ถ้าเอาคอล์ยร้อนไว้หลังหม้อน้ำล่ะจะเกิดอะไรขึ้น  ก็คือแอร์ไม่เย็นเสียทีเพราะมีแต่ไอร้อนมาเป่าตลอดเวลา    แล้วทำไมไอร้อนจากคอล์ยแอร์ไม่มีผลต่อกริลหม้อน้ำในการระบายความร้อนเหรอ   ก็ต้องบอกว่ามีครับแต่ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้หม้อน้ำมากนักเพราะหม้อน้ำทำหน้าที่รักษา water temp ที่จำเป็นต่อเครื่องยนต์เป็นน้ำร้อนไม่ใช่น้ำเย็นดังนั้นการที่ความร้อนจากไอของคอล์ยแอร์กลับมีประโยช์นช่วยอุ่นหม้อน้ำด้วยซ้ำในกรณีที่ temp ยังไม่ถึง engine temp


มาต่อเรื่องการระบายความร้อนจากหม้อเดิม

ใน 1 ช่วงเวลา  ของการระบายความร้อนจากประสิทธิภาพของระบบ   จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์คือตัวแปรสำคัญในการสร้างอัตราเร่งและการสร้างอัตรเร่งที่เร็วก็คือการทำงานที่เร็วมากกว่าเดิม  การสันดาปมากกว่าเดิม   ความร้อนจากการเสียดสีย่อมมีมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน   แต่จากการออกแบบนั้นเขาสัมพันธ์ความร้อนกับการระบายมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   จึงไม่มีปัญหาอะไร    ดังนั้นเรามาดูตามภาพนี้กัน    จากรูปแสดงให้เห็นตัวอย่างสมมุติ

สมมุติว่าประสิทธิภาพของหม้อน้ำเดิมคิอสามารถลดความร้อนในระบบต่อช่วงเวลา=3 องศาของรอบการไหลผ่านด้วยลมปะทะในหน้าร้อนที่อุณหภูมิอากาศภายนอกปกติ  28 -33 องศา  คือเมื่อระบบเครื่องยนต์สร้างความร้อนแบบก้าวหน้า(คือเร่งเค้นไม่ยก)ที่ประมาณ 30% ของกำลังรวม   อาจจะสร้างความร้อน= +3 องศา   ก็จะบวกเพิ่มจาก water temp ที่วาว์ลเปิดเข้ามา  รวมกันออกไปที่ขาออก = 91-94 องศา    พอผ่านหม้อน้ำสามารถลดลงได้ 3 องศา   ทำให้น้ำไหลวนกลับไป = 91 องศา  และหากเราเค้นเครื่องยนต์เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร   ขับได้ต่อระบบก็วนไปเรื่อยๆ

พอเราเริ่มเร่งเครื่องให้ทำงานที่ประมาณ 50-60%  เครื่องก็ตอบสนองเพิ่มและสร้างความร้อนมากขึ้นหน่อยเช่นสร้างมาที่ 4 องศา   แต่น้ำในระบบเมื่อขั้นตอนก่อนยังอยู่ที่ 91   ก็เท่ากับหม้อน้ำขาออกจะรวมเป็น  95-96 องศา   เมื่อผ่านหม้อน้ำก็สามารถลดลงได้ 3 องศาเพราะมีหน้าที่ระบายตามสภาวะลดลงเหลือ 93   คราวนี้น้ำที่ไปวนจ่อก็มี water temp ที่ 93 องศา   

พอเราเร่งเครื่องอีกที่ประมาณ 70-80% ของรถเรา  เครื่องก็สร้างสูงขึ้นอีก  คราวนี้การระบายความร้อนเริ่มระบายช้ากว่าการสร้างความร้อนน้ำที่มาวนเข้าก็มี water temp สูงเมื่อไปรวมกับ engine temp ก็ทำให้ temp ขาออกสูงขึ้นอีก แบบที่เราเห็นใน Smart guage ว่าทำไมยิ่งกดความร้อนเดินแบบก้าวหน้าตลอด  เพราะอะไรกัน   แน่นอนแหละตอบแบบง่ายๆคือความร้อนสะสมมันเยอะและคลายความร้อนไม่ทัน  พอเรายิ่งเร่งก็ยิ่งสะสม  แต่หากเราชลอการเร่งปล่อยให้ระบบคลายความร้อน  โดยการไม่เพิ่มการสร้างความร้อนก็จะสามารถอยู่กับการปล่อยช่วงให้ระบบคลายความร้อนก่อนการสร้างความร้อนครั้งใหม่ต่อไป    เช่นการถอนคันเร่ง   การชะลอคันเร่ง   การค่อยๆเติมคันเร่ง    การใช้ mode tune ต่ำๆเพื่อไม่ให้เค้นอัราเร่ง(แต่จริงแล้วไม่ต้องจูนหลบหรอก  แค่ประคองและไม่สร้างความร้อนเพิ่มสักพักก็ลงแล้ว)

ที่ผมเคยบอกว่าอย่าตกใจเรื่องความร้อนแต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อนเพราะอยากให้รู้วิธีการเกิดความร้อนด้วยการถ่ายทอดด้วยภาษาง่ายๆแบบเล่าให้ฟัง  ไม่ลงลึกถึงรายละเอียดเทคนิคมากเอาแค่คนใช้รถเข้าใจได้และระวังป้องกันได้   หากจะแก้ไขหรือมีคนแนะนำให้แก้ไข ก็จะได้รู้ว่าเขาแก้ตรงไหน  แก้ให้แล้วผลเป็นอย่างไร  หลักการวิธีการขัดกับความเข้าใจไหม และสุดท้ายให้ตัดสินใจเอาเองอีกครั้ง   

**การแต่งกล่อง หรือ step2 แต่งแล้วร้อนไหม   ตอบง่ายมากครับ    ว่าคุณทำอะไรให้เครื่องยนต์ตอบสนองเร็วกว่าเดิมการเสียดสีมากกว่าเดิม  ความร้อนย่อมมีมากกว่าเดิม   แต่หากบอกยิ่งเร็วยิ่งเย็นคงไม่ใช่เหล็กสีกันแล้วครับ  คงเป็นคารมณ์มากกว่า   สีกันไปสีกันมา  เย็นกว่าเครื่องยนต์เสียอีก  บางทีเย็นเป็นวุ้นเลย   555555

พี่นะ [Na ratchada]:
ผลการใช้งานหม้อน้ำใหม่


เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับสมาชิกปามาเนียครับ
 :L4399:

พี่นาย-nine:
 :L2900: นี่ละครับคือการแต่งรถแบบมืออาชีพ ไม่ใช่แค่สวย..เท่ห์ สำคัญต้องมีหลักการ BBB Gang จัดให้....  :L6428: :L6428:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version