ผู้เขียน หัวข้อ: !ค่าซ่อมมันแพง อยากแรงพึงระวัง...ตอน3 - อย่าตกใจ แต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อน ?  (อ่าน 17859 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
(เครดิต ทีมที่ปรึกษา รั้วสังกะสี)

ตอน3 - อย่าตกใจเรื่องความร้อน  แต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อน ?

•   น้ำมีหน้าที่รักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ 

•    หม้อน้ำมีหน้าที่ระบายความร้อนของน้ำ
( หากจะพูดว่าน้ำช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ก็อาจจะได้เหมือนกัน ) 

•   จุดเดือดของน้ำต่ำกว่าจุดเดือดของน้ำมันเครื่อง
( ช่วยได้ก็แค่รักษาอุณหภูมิของน้ำมันเครื่อง  น้ำมันเกียร์ ครับ    หรืออาจจะช่วยอุ่นหรือต้มน้ำมันเครื่องให้ได้อุณหภูมิ  ใช้งาน จะพูดแบบนี้ก็น่าจะดีกว่า )

•   การลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์คือการลดที่ต้นกำเนิดความร้อน   ไม่ใช่ลดที่ปลายเหตุ เพื่อเค้นต้นเหตุให้คงที่(แช่)หรือเค้นให้มากขึ้น(ตะบี้ตะบันเหยีบบไปอีก)

เรื่องของเรื่องเกิดจากน้ำอีกเช่นเคย  ทั้งที่ความจริงความร้อนถูกสร้างขึ้นจากการเสียดสีของโลหะ , ความร้อนจากการสันดาปของระบบเครื่องยนต์ดีเซล แต่ทั้งหมดไม่ว่าอะไรก็ตามจะส่งถ่ายความร้อนไปให้น้ำ เช่นกัน เพราะคุณสมบัติที่ดีของน้ำคือการนำความร้อน (Heat conduction) คือการถ่ายเทความร้อนโดยตรงระหว่างสารซึ่งต้องการการสัมผัสโดยตรง ความสามารถในการนำความร้อนของวัตถุต่างๆมีไม่เท่ากัน โลหะนำความร้อนได้ดีที่สุด น้ำสามารถนำความร้อนได้ใกล้เคียงกับโลหะ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการพาความร้อน (Heat convection) หรือการถ่ายเทความร้อนจากการเคลื่อนไหวของโมเลกุลสารจำนวนมากๆ ส่งถ่ายกันไป  ได้ดีกว่า

ชีวิตและวัฏจักรของน้ำในเครื่องยนต์ (วาว์ลน้ำ  ฝาหม้อน้ำ  ถังพักน้ำ  และหม้อน้ำ ทำหน้าที่อะไรกัน) ???
เท่าที่เคยฟังและเข้าใจกันมาเรื่องความร้อนนั้น    เริ่มจากเมื่อเราเริ่มstart engine  เครื่องยนต์เริ่มมีการเสียดสีกันจากการระเบิดของการสันดาปในห้องเผาไหม้  ทำให้เกิดความร้อนสูงถึง  500-700 องศาC  ความร้อนที่เกิดขึ้นจะถ่ายเทแทรกตัวเข้าไปในเนื้อโลหะบริเวณใกล้เคียงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว   ในขณะนั้นน้ำก็เริ่มเกิดการแลกเปลี่ยนความร้อนกับโลหะโดยการเริ่มนำพาความร้อนและส่งถ่ายความร้อน ไปตามช่องทางเดินของน้ำในระบบ  ตามหลักการออกแบบเครื่องยนต์   วิ่งไปทุกซอกทุกมุม  ทั้งเสื้อสูบ  ห้องเครื่อง  ห้องเกียร์ ท่อทางเดินของระบบต่างๆ   เพื่อทำการแลกเปลี่ยนความร้อนและขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่อุ่นโลหะและชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์  เพื่อ warm หรือปลุกให้โลหะมีอุณหภูมิสูงขึ้นพร้อมที่จะรองรับการทำงานของเครื่องยนต์  ให้ถึงอุณหภูมิใช้งานได้เร็วที่สุด ( การออกแบบเครื่องยนต์แต่ละรุ่น  มีค่าอุณหภูมิใช้งานต่างกันแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง  87-92 คือพร้อมใช้  และ 90-95 คือเหมาะสม  และในบางรุ่นที่เครื่องยนต์รอบจัดจ้านอาจสูงถึง 92-97 องศา C   ฉะนั้นน้ำก็ทำหน้าที่ของมันไป    ตามที่เคยบอกกันไปแล้วว่าน้ำมีหน้าที่รักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์    และมันก็วิ่งของมันไปเรื่อยๆตามระบบ  พอมันผ่านเข้าไปในหม้อน้ำมันก็ทำหน้าที่อุ่นหม้อน้ำโดยการแลกเปลี่ยนความร้อนอีก  แต่บังเอิญหม้อน้ำนั้นมีครีบอลูมิเนียมในการรับการระบายความร้อนจากอากาศที่เย็นกว่าอีก  จึงทำให้การแลกเปลี่ยนความร้อนของน้ำเสียเปรียบเยอะกว่า  ทำให้ตัวมันมีอุณหภูมิลดลงไปด้วย   พอมันวิ่งกลับไปวนถึงระบบห้องเผาไหม้เมื่อไหร่  มันก็นำพาความร้อนออกมาอีก   เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ  วนเวียนอยู่แบบนั้น

ในการรักษาอุณหภมิของเครื่องยนต์นั้นมันจะถูกส่งถ่ายความร้อนออกมาจากโลหะ  จนบางทีความร้อนของตัวมันสูงมากจนถึงจุดที่กำหนดตามหลักการออกแบบของเครื่องยนต์ที่ต้องการอุณหภูมิใช้งานแค่ในช่วงนั้นๆ  หากมากกว่าก็จะมีวาล์น้ำอีกตัวที่จะคอยเปิดปิดทางเดินของน้ำ เช่น  เมื่อน้ำร้อนถึงช่วง 82 + องศาเมื่อไหร่  วาวล์จะเริ่มเปิดระบบให้น้ำร้อนออกไปน้ำใหม่เข้ามาเพื่อให้คงอุณหภูมิอยู่แบบนั้นเพื่อรองรับการเสียดสีที่รวดเร็วและการเผาไหม้ที่รุนแรง  เพราะที่อุณหภูมิใช้งานนั้นเหล็กจะมีการขยายตัวเต็มที่พร้อมสำหรับการรองรับการทำงานตามระบบ   และเมื่อมีความร้อนในระบบสูง   น้ำก็มีอุณหภมิสูงและเมื่อน้ำมีอุณหภมิสูงก็ต้องมีแรงดันของการขยายตัวของน้ำด้วย มันก็จะนำพาความร้อนและความดันของตัวมันนั้น   หาทางระบายตัวเองโดยการวิ่งแลกเปลี่ยนความร้อนไปเรื่อย  หากแต่ส่วนอื่นๆร้อนกันหมดแล้ว  ก็เหลือแต่ชุดหม้อน้ำเท่านั้นที่จะดึงความร้อนจากตัวมันออกไปได้    บังเอิญหากรถเราไม่ได้วิ่งเร็วอีก  อากาศที่มาปะทะครีบอลูมิเนียมก็มีน้อย   การดึงความร้อนออกจากน้ำจึงไม่ดีเท่าที่ควร  จึงจำเป็นต้องออกแบบพัดลมไฟฟ้าช่วยในรอบเครื่องยนต์ต่ำๆอีก หรือความร้อนสูงมากแต่การระบายยังไม่ดีพอ  พัดลมจะเริ่มทำงานหากแต่การระบายนะจุดนั้นยังไม่พอใจเท่าที่ควร   ฝาหม้อน้ำก็จะเริ่มทำงานโดยการที่น้ำมีอุณหภมิสูงมากและมีแรงดันจากการขยายตัวของน้ำมาก   แต่ยังไม่ถึงกับเดือดที่100 องศานะครับ   เพราะในน้ำนั้นเรามีการผสมน้ำยาหล่อเย็นเข้าไปทำให้เพิ่มจุดเดือดของน้ำ  ให้เดือดสูงกว่านี้ อาจจะมีจุดเดือดที่  120-135 องศาก็ได้   แต่เมื่อความร้อนสูงมากแล้วแรงดันก็สูงมากแล้ว  พัดลมไฟฟ้าก็ทำงานแล้ว     แรงดันนั้นจะดันวาวล์ที่ฝาหม้อน้ำนั้นเปิดออกยอมให้น้ำในระบบดันออกไปที่ถังพักน้ำสำรองในห้องเครื่อง  เมื่อน้ำร้อนในหม้อน้ำมาเจอน้ำเย็นในถังสำรองนั้นด้วยที่การถ่ายเทความร้อนที่เร็วก็เริ่มถ่ายเทความร้อนให้กัน   และการที่แรงดันถูกระบายออกมาที่ถังสำรองนี้ก็ทำให้แรงดันลดลง  ขณะนั้นก็ยังมีพัดลมไฟฟ้าช่วยอีก   พออุณหภูมิน้ำลดลง  แรงดันก็ลดลง  วาว์ลฝาหม้อน้ำก็ปิดตัวลง  ขณะที่แรงดันลดลงนั้นในเมื่อระบบหม้อน้ำเป็นสูญญากาศก็จะมีรูเล็กๆที่ฝาหม้อน้ำดูดน้ำจากถังสำรองกลับมาเพื่อทำงานตามระบบต่อไป   ฉะนั้นจะสังเกตุได้ว่า  จะมีคำแนะนำให้เติมน้ำถังสำรองไม่ให้เกิน max และเวลาหม้อน้ำร้อนอย่าเปิดฝาหม้อน้ำเพราะแรงดันมันสูงมากๆ     และอีกอย่างตรงนี้เองผมก็เพิ่งเข้าใจว่าถังพักน้ำสำรองหม้อน้ำมีหน้าที่ทำอะไร  นึกว่าเอาไว้สำรองให้เผื่อน้ำในหม้อน้ำยุบ   หารู้ไม่ว่ามันช่วยเรื่องการระบายแรงดันนี่เอง
 
**ฉะนั้นการที่จะลดความร้อนโดยการเปลี่ยนฝาหม้อน้ำให้ทนแรงดันสูงขึ้นนั้น   อาจดีในความเร็ว  แต่อาจมีปัญหาในการจราจรแออัดเช่นในเมืองหลวง  เพราะแทนที่ฝาวาวล์จะเปิดก่อน  ก็ต้องรอให้แรงดันในระบบสูงกว่าเดิมอีก  วาวล์จึงจะยอมเปิดออก    หรือเปลี่ยนวาล์วน้ำเพื่อให้เปิดก่อนอุณหภูมิใช้งาน  เพื่อลดความร้อนลง  ก็อาจจะเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาจากประสบการณ์   หรือหากแต่เพื่อนสมาชิกพอใจที่จะเปลี่ยน  หรือมีเทคนิคในการปรับแต่ง   ก็แชร์กันได้นะครับ   ผมก็ฟังมาแต่ทฤษฎีจากที่ปรึกษา  ก็เลยมาแชร์กัน


(เครดิตรูปพี่อ๊อด ปามาเนีย)

เราเล่นกันบนพื้นฐานข้อมูล  มีการตรวจปรับละเอียดยิบ  กว่าจะได้มาถึงมือเพื่อนสมาชิก  แล้วใช้ได้กันเลย 
และไม่ใช่แค่จูนจากการคำนวณและจากความรู้สึกเท่านั้น



เรื่องวาว์ลน้ำ  ติดตามได้ที่นี่ครับ http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,83.0.html
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
กล่องข้าวน้อย 2 (ดันราง) ที่เอามาเล่นกัน
ข้อมูลนี้ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องดันรางตัวเดียวกับที่ BBB! Gang เล่นกัน   กล่องบางตัวบางยี่ห้อก็สามารถสร้างสิ่งที่เราต้องการได้เหมือนกัน   เพียงแต่ว่าพวกเราทราบแล้วว่าเราจะเติมเต็มส่วนไหนที่ขาดหายไปในเครื่องยนต์ และอยู่ใน range ที่เรายังสามารถเล่นกันอยู่ได้ และไม่ต้องการเค้นเครื่องยนต์กันมากเกินไป    โดยการเล่นของพวกเรานั้นมีการควบคุมด้วยข้อมูล จากแหล่งที่ปรึกษากำกับอยู่ ว่าบางอย่างยอมให้ได้เท่าไหน หรือไม่ให้เกินแค่ไหน     กล่องที่ดีกว่านี้ก็มีมากมายในตลาด   แต่สิ่งที่เราต้องการทั้งหมด  และราคาที่เห็นว่าคุ้มกับสิ่งที่จ่ายไป    เราได้จากกล่องข้าวน้อย2 นี้ครับ   ดังนี้
•   เราต้องการการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติที่สุด  ตามจังหวะกดคันเร่ง  ไม่ต้องการความแรงที่สุด   
•   อัตราเร่งที่รวดเร็ว 
•   ตอบสนองการออกตัว
•   ตอบสนองการเร่งแซง
•   การเปลี่ยนเกียรที่สมูธนุ่มนวล 
•   ความคุ้มค่าของน้ำมันเชื้อเพลิง(ประหยัด)
•   ราคาที่รับได้
•   อุปกรณ์ที่มีให้   (กล่อง + ตัววัดค่า + Clear code )
•   และการบริการที่น่าไว้ใจและประทับใจ
   สิ่งพวกนี้ต่างหากที่เราต้องการมากกว่าความแรง  ครับ

ใส่กล่องดันรางหรือการแต่งกล่องข้าวน้อย 2  แล้วความร้อนขึ้นสูงไหม ?
จากที่กล่าวมาข้างต้น  เพื่อนสมาชิกคงทราบแล้วว่า   ความร้อนมาจากอะไรบ้าง   เครื่องยนต์ที่มีการตกแต่งดัดแปลง  ให้รอบจัดขึ้น  ย่อมมีความร้อนมากขึ้นเป็นธรรมดา   รถผมติด auto meter water temp โดยใช้ Sensor จับอุณหภูมิน้ำขาออกจากเครื่อง(จะวัด temp ของน้ำ)    และติด Smartguage เพื่อจับความร้อนจากระบบที่ ECM นำไปใช้งาน (ซึ่งจะเป็นความร้อนจากเครื่องยนต์+น้ำ)  ฉะนั้นที่ว่า ค่าที่วัดแบบไหนเชื่อถือได้  ผมขอบอกว่า Smart guage จับค่าเร็วกว่าประมาณ 2-3 องศา  อย่างน้อยก็จะได้เตือนให้ยกคันเร่งกันก่อนได้

ในการติดกล่องดันราง  นี้   จะมีความร้อนตอบสนองเร็วกว่าเดิมประมาณ  3-5 องศา  ถ้าเราเร่งเหยีบบคันเร่ง   ฉะนั้นแต่เดิมเราเคยขับกันแบบเดิมๆ  อืดๆ  เราก็กดโดยการค่อยๆเติมคันเร่ง  พอกดเร็วก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก  มันก็ไปตามการตองสนองเครื่องยนต์ของมัน   แต่พอเราแต่งกล่องกันแล้ว   การตองสนองเครื่องยนต์เร็วกว่า  ยิ่งพอเหยียบเร็วยิ่งตอบสนองเท้าดี  เราก็เลยเพลินตะบี้ตะบัน มันส์กับการเหยียบคันเร่ง   แต่พอความร้อนขึ้นจนร้องเตือนก็เลยแอบตกใจ  ทั้งที่เข็มหน้าปัดในเรือนไมล์ก็ไม่ได้กระดิกสูงกว่าเดิมเท่าไหร่   หรือเป็นเพราะ Smart Guage มันหลอนเราหรือป่าว

สำหรับเครื่อง VG นั้นเป็นระบบ Turbo แปรผัน   มีการบูสตัวเองที่ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ที่กำหนด  พอได้เวลากล่องสั่งเปิดระบบ VG ก็จะสร้างบูส กวาดบูสให้เกิดขึ้นเสมือนแต่งโบใหญ่กว่าเดิม   จุดนี้คือจุดที่เครื่องยนต์ต้องการประสิทธิภาพของเครื่องฉะนั้นอุณหภูมิใช้งานของเครื่องยนต์ตรงนี้จะอยู่ที่จุดสูงเพื่อรองรับการทำงานแบบเร่งประสิทธิภาพของตัวมันเอง   และในรอบสูงก็เช่นนั้น  จุดนี้เองจะเห็นได้ว่า   เพียงแค่เดิมๆเครื่อง VG ก็มีอุณหภูมิเครื่องยนต์สูงกว่าอยู่แล้ว   เครื่อง VG นี่ตงลงมันมีอะไรมากกว่าเครื่องเดิมเยอะน่ะ   อุณหภูมิก็สูงกว่าเดิม  น้ำมันก็อร่อยกว่าเดิม  สะดีดสะดิ้งสะพัดกระพืบก็มีมากกว่าตัวเดิม   แถมยังมีน้ำมาฉีดเลอะเทอะที่ไฟหน้าเข้าไปอีก  555555  นี่แหละ  VG = Very Good ?.. (กำไรของ MMTH)

**Note : สำหรับเครื่อง VG ทางเราได้สูตรจากที่ปรึกษาที่ทำ Montero มาลองใช้   และเป็นแนวทางเดียวกับทีมที่ปรึกษาในนี้    และวันนี้มีการทดสอบกับ 2.5 VG  4WD เรียบร้อยได้ผลเป็นที่น่าพอใจและน่าสนใจ

**แนะนำ : กล่องที่เราเอามาแนะนำกันนี้  ไม่ใช่กล่องที่ดีที่สุด เพียงแต่การตอบสนองของการใช้งานตรงกับที่เราต้องการที่สุด  ทั้งเรื่องสินค้า  การบริการหลังการขาย   ข้อมูลเชิงเทคนิค  ปัญหาการใช้งาน  แนวทางการแก้ไขและทดสอบและทดลองอย่างจริงจัง  กับ Pajero Sport เกียร์ Auto เท่านั้น    เป้าหมายคือการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้ดีที่สุด  และไม่ต้องคอยดูแล ปรับแต่งอะไร    ไม่เน้นความเร็วปลายนะครับ   อยากรู้ไปลองกดกันดูครับ   พอวิ่งได้แต่ไม่ถึงขั้นไปแข่งกับใครเขา    ปล่อยแรงไปเดี๋ยวโดนข้อหาขับจี้ตูดชาวบ้านเขา   
 
อร่อยที่ปลายลิ้น : สำหรับ Smart Guage ตามหลักการที่อธิบายไปนั้น   ให้ตั้งเตือนที่  98-99 องศาครับ   และพอได้ยินปรี๊ด  ก็ยกกันบ้างนะครับ   ส่วนใหญ่ผมกดหลายรอบล่ะ  จะปรี๊ดช่วง   180-190 ในขณะกำลังกดเติมเค้น    หากช่วง 180 ไปแล้วลองหยุดการกด รอไหลแล้วค่อยๆเติมตามไปเลย  190+  ก็ยังไม่ร้องน่ะครับ   ฉะนั้นอย่าตกใจเรื่องความร้อน  แต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อน  ครับ

ข้อมูลรถแต่ละรุ่นและ TOP ความร้อนในการทดสอบ
•   2.5 2WD
•   3.2 4WD
•   2.5VG 2WD
•   2.5VG 4WD
•   2.5VG 2WD ที่มิตซูเปลี่ยนหม้อน้ำตัวใหม่แล้ว
•   2.5VG 4WD ที่มิตซูเปลี่ยนหม้อน้ำตัวใหม่แล้ว
•   3.2 VG 4WD ( มีอะไหล่มาก่อนแล้ว  รถยังไม่เห็น)

สรุปทดสอบรถ 2500cc ,178HP , VG Turbo , ช่วงปี Q1-2011  Q3-2012  เฉพาะส่วนของความร้อนได้ผลดังนี้

VG 2WD ช่วงปี Q1-2011  (จำนวนหนึ่ง )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เพิ่มความเร็วตามแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว       175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  208'F ( 97.7'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  145km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  205'F ( 96.1'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  212'F ( 100 'C )

VG 2WD ช่วงปี Q1-2011  Q3-2012
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เพิ่มความเร็วตามแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว       175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  210'F ( 98.8'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  145km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  210'F ( 98.8'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  220'F ( 104.4'C )

VG 4WD ช่วงปี Q1-2011  Q3-2012
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  145 km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  220'F ( 104.4'C )
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"

จุดที่เราไปดัดแปลงจนเกิดการสร้างความร้อนมากกว่าปกติ
1. เค้นค่าแรงดันในระบบคอมมอลเรียล
2. จุดระเบิดรุนแรงมากกว่าปกติ
3. เทอร์โบทำงานรอบจัดกว่าปกติ
4. ใช้งานรอบเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ
5. เค้นให้รถรอบจัดกว่าปกติ บูสมาไว กับน้ำหนักรถที่มาก   ย่อมเป็นการเค้นอีกทางหนึ่ง
6. น้ำระบายความร้อนไม่ทัน เพราะความร้อนถูกสร้างมากกว่าปกติ

การแก้ไข หรือเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากประเด็นข้างบน
จากข้อ 1.   ลดการจูนดันราง  หรือ เปลี่ยนปลายหัวฉีดแทนการปรับแรงดันรางสูงๆ
จากข้อ 2.   หาทางระบายไอเสียให้เร็วและสะดวกกว่าปกติ และต้องรองรับการทำงานที่รอบต่ำได้ดีด้วย....เช่นเปลี่ยนท่อไอเสีย
จากข้อ 3.   ลดความร้อนจากแรงอัดอากาศได้ด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ หรือท่ออลูมิเนียม   หรือร่นความยาวท่ออินเตอร์   หรือทำให้ระบบระบายอากาศ
                อินเตอร์ สะดวกมากกว่าเดิม หรือทำความสะอาดครีบอินเตอร์บ่อยๆ
จากข้อ 4.   ลดความร้อนของการเสียดสี ด้วยน้ำมันเครื่องที่เกรดสูงกว่าปกติอีกนิด จะทำให้ลดการเปลี่ยนแปลงของย่านของอุณหภูมิได้
จากข้อ 5.   พยายามอย่าเค้นคันเร่ง ในช่วงฉุดลากมากเกินไป ให้รถลอยตัวก่อน จึงค่อยๆส่งออกไป (ถ้าไม่จำเป็น)
จากข้อ 6.   ใช้น้ำยาหล่อเย็นที่เกรดสูงขึ้น หรือทำความสะอาดครีบระบายความร้อน หรือเพิ่มความสะดวกในการไหลผ่านของอากาศ (ทดแทนการเปลี่ยน
                หม้อน้ำ อลูมิเนียม ถ้าไม่เล่นใน step สูงๆ)
          7.   ดูแลเป่ากรองอากาศ   ลดน้ำหนักบรรทุก   อย่าปรับจูนเยอะ   แต่งรถใน step บ้านๆ ลดการเค้นการออกตัว



เรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นจากการดัดแปลง....จะสูงมากกว่าเดิมไหม
จากเดิมรถของเราๆท่านๆ   เมื่อเราเหยียบคันเร่งหรือเร่งความเร็วขึ้น   เครื่องยนต์ก็ตอบสนองตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นตามการออกแบบ    ที่อาจจะหน่วงๆ  สักนิด  ถึงแม้จะเหยียบย้ำจนหนำใจก็ยังไม่ตอบสนองใจวัยรุ่นได้ดีพอสมควร   ความร้อนเครื่องยนต์ก็ยังคงอยู่ในพิกัด  180-190 ฟาเรนไฮท์

เราเริ่มแต่งเติม เสริมแรงดันด้วยกล่องดันราง   หมายที่จะสร้างแรงดันรางที่สูงขึ้น    พอแรงดันสูงเครื่องก็ตอบสนองด้วยการมีความเร็วรอบและกำลังที่มากขึ้น  การเสียดสีเพิ่มขึ้น   สร้างพลังงานขับเคลื่อนมากยิ่งขึ้น   ก็ต้องเป็นธรรมดาที่ความร้อนอาจสูงกว่าปกติบ้าง(แต่ไม่มาก)

เราแต่งต่อ  ด้วยการปรับแต่งท้ายราง  เพื่อให้คงแรงดันสูงกว่าเดิมโดยที่ท้ายรางยังไม่เปิดทิ้งแรงดันตามค่าที่ออกแบบไว้   ในเมื่อแรงดันสูงขึ้นได้  ความร้อนก็สูงขึ้นได้ตามเป็นปกติครับ(แต่ก็ยังไม่มากมายจนทำลายเครื่องยนต์)

ครั้งเมื่อรถยังเดิมตอบสนองช้า   เราก็กดไปเรื่อยๆ  ความเร็วความเร่งค่อยๆมา    พอเราตบแต่งให้การตอบสนองดีขึ้นแล้วในขณะที่เรากดคันเร่งแบบเดิม   เครื่องยนต์จะตอบสนองเราแบบเปลี่ยนแปลงให้เห็นว่า   มีอัตราเร่งเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิม   และรถมีอาการกระฉับกระเฉงดีกว่าเดิมมาก  (ความร้อนเพิ่มขึ้นบ้าง   อาจจะ 190-200 ฟาเรนโฮท์)

แล้วเมื่อรถเราตอบสนองดี   มีหรือที่เราจะกดแบบเดิม  แน่นอนหล่ะ  หากกดแล้วมา  ก็กดแล้วมา  ก็ยัดแล้วมา   ทันใจนั้น    ความร้อนก็ต้องเพิ่มทวีคูณตามมาแน่นอน    แต่จะมากน้อยอย่างไรไม่รู้   เราจึงตั้งค่าเตือนไว้ที่ Smart guage ให้ท่านยกเท้าออกบ้าง เพราะในเมื่อรถท่านพุ่งทยายด้วยอัตราเร่งที่เร็ว ความร้อนก็จะตามมาเร็วเหมือนกัน (ความร้อนอาจจะ 195-210 ฟาเรนโฮท์)
แต่หากท่านค่อยๆเติมมัน  ความร้อนนั้นก็จะไหลเวียนระบายออกไปและค่อยๆเพิ่มตามมา   อาจจะไม่กระชั้นชิด   แต่ saveๆ กันสักนิด   ด้วยเท้าขวาของท่านก็จะปลอดภัยต่อเครื่องยนต์


*** แล้วพบกันตอนต่อไป
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
การกำเนิดของความร้อน ลองสังเกตุกันดู


รถเดิมๆปกติที่ไม่ได้ใส่กล่องดันรางคอมมอลเรียล   จะให้ค่าแรงดันคอมมอลเรียล(CRP)เป็นไปตามการออกแบบที่คำนวณไว้  ดังนั้นจากรูปจะสังเกตุว่าเส้นสีฟ้าคือแรงดันที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นซึ่งมีสโลปไม่ชันมากจะค่อยๆขึ้นตามจังหวะการเพิ่มน้ำหนักของคันเร่งหรือระยะของคันเร่งลึกลงเรื่อยๆ  จะสังเกตุว่าเส้นสีแดงก็คือเส้นของความร้อนที่เกิดจากขบวนการสันดาปของเครื่องยนต์เมื่อยิ่งมากยิ่งเร็วขึ้นเท่าไหร่ก็สร้างความร้อนมากขึ้นเท่านั้น   ฉะนั้นการเกิดของความร้อนจึงขึ้นตามแรงดันcrp ที่เพิ่มขึ้น   และเส้นสีเขียวด้านล่างคืออัตราการระบายความร้อนของหม้อน้ำซึ่งสามารถระบายได้ทันและเหมาะสมกับความร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงต่อหนึ่งหน่วยของเวลา  ตามหลักการออกแบบเชิงพานิช(เชิงพานิชก็คือต้นทุนที่ดีที่สุดและได้สัดส่วนของกำไรที่ดีที่สุด)    ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก


ต่อมามาดูรูปนี้  เมื่อเราดันราง

เมื่อรถเราไปใส่กล่องดันราง  ก็คือการใส่อุปกรณ์ไปหลอกล่อให้กล่องECU จ่ายน้ำมันมากกว่าปกติเพื่อสร้างค่าแรงดัน crp ใหม่  โดยปกติแล้วการคำนวณที่ผิดผลาดของกล่องecu นั้นก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ   แต่เขาก็ยังออกแบบ sensorท้ายรางมาช่วยไม่ไให้แรงดันcrpสูงมากเกินไปจนรางฉีดคอมมอลเรียลมีปัญหา  ซึ่งพอค่าสูงเกินกำหนด sensor ท้ายรางจะเปิดทิ้งทำให้แรงดันลดลง กำลังลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้    พอเราไปใส่กล่องและปรับแต่งsensorท้านรางแล้วจะทำให้ sensor ทนแรงดันมากขึ้นกว่าเดิม   ผผลก็คือเครื่องยนต์สามารถสร้างแรงดัน crp ได้สูงมากกว่าเดิมในระยะการกดคันเร่งที่เท่ากันเมื่อมีการหลอกแรงดันcrpแล้วจะทำให้แรงดันสูงมากกว่าปกติ ทำให้รถมีอัตราเร่งดีขึ้นมาก  ดังรูปที่เส้นสีฟ้ามีการยกตัวขึ้นตามความสามารถของการปรับจูน   และเมื่อค่า crp เริ่มช้นและตั้งสูงขึ้นก็เกิดความร้อนขึ้นตามเป็นปกติของการทำงานของเครื่องยนต์    และหากเราค่อยๆกดเติมคันเร่งก็คือการค่อยๆเพิ่มค่า crp ให้ค่อยๆสูงขึ้นแบบรูปแรกบน  การเกิดความร้อนก็ช้าลงตามปกติ


คราวนี้มาดูเรื่องการกดคันเร่งเร็ว กดแช่ เค้น กับการกดช้า มีผลอย่างไร


สังเกตุจากภาพแรกเมื่อเราใส่กล่องดันรางก็ทำให้รถเรามีความสามารถดีดเส้นสีฟ้าขึ้นไปได้และทำให้ได้อัตรเร่งที่ดีกว่าเดิมแจาเรากดคันเร่งแต่พอหอมปากหอมคอ  ค่อยๆเติม ค่อยๆริน  ค่อยๆกดเติมแบบรินน้ำชา(สูตรรั้วสังสะสี)  รถเราก็จะมีอัตราเร่งขึ้นตามจังหวะกดและการเกิดความร้อนก็ค่อยๆเกิดตามปกตินั้นแหละ  พอเรากดช้าการเดิความร้อนช้าทำให้หม้อน้ำมีโอกาสระบายความร้อนได้ทันการเกิดของความร้อนในหนึ่งช่วงเวลาก็เป็นแบบนี้เรื่อยไป

คารวนี้พอเรามากดคันเร่งแบบยัดคันเร่ง  เค้นคันเร่ง กันและรกเราก็เปิดความสามารถโดยการดันราง ทำท้ายรางกันมาแล้ว  คราวนี้เส้นสีฟ้าสามารถตั้งชันได้ง่ายมาก  ผลคือรถจะมีแรงฉุดดึงที่เร็ว เสียงเครื่องที่มีกำลังขึ้น  ค่า crp สูงขึ้นโดยฉับพลัน   ในขณะเดียวกันความร้อนก็มาในฉับพลันเมื่อกัน    แต่เราลืมไปหรือป่าวว่าการระบายความร้อนของหม้อน้ำเราเชิงพานิชนั้นมันคืออะไร  คือมันก็ระบายตามspecของมัน  แต่เราสร้างความร้อนต่อเนื่องและอยู่นอกเหนือขีดจำกัดของสโลปของแรงดัน crp จึงเกิดการระบายความร้อนไม่ทันและช่วงเค้นก็จะกลายเป็นความร้อนสะสมในเครื่องที่ยังระบายไม่หมด  พอเรายิ่งเค้นยิ่งสูงของเก่าก็สะสม  ของใหม่ก็สร้างความร้อนก็เลยสูงตามแค่นั้นเอง   จังหวะนี้หากเรามี SMG ก็จะร้องเตือนบอกว่า " พอก่อนเว้ยเฮ้ย! ยกหน่อยรอให้หม้อน้ำระบายความร้อนก่อนเดี๋ยวกดใหม่ "  ถ้าเราเชื่อเราก็ยกค้างไว้  water temp ก็ลดลง   สักพักก็กดใหม่ได้    แต่ถ้าเราไม่ยกล่ะก็ร้องลั่นอยู่แบบนั้นจนกว่าอะไรจะบินออกจากเครื่องสักชิ้น2ชอ้นคงจะหยุด  ถ้ามันมากพอ
นี้คือเหตุการณ์ปกติของมันนะครับ  ฉะนั้นเรียนรู้และเข้าใจมันก่อนว่าความร้อนมาจากไหน  และเกิดได้อย่างไร   หากงงและสับสนว่าทำไมคันอื่นยี้ห้ออื่นไม่เป็น รบกวนกลับไปอ่านตอน2  และต้นของตอน 3 ใหม่อีกครั้งครับ


แนวทางแก้ปัญหาของปามาเนีย คืออะไร   มาดูรูปนี้

จากภาพเมื่อเรายอมรับแล้วว่าการเกิดความร้อนคืออะไร  และเราพอจะลดจังหวะตรงนั้นอีกสักหน่อยได้อย่างไร  ก็เลยใช้ทฤษฎีจากรั้วสังกะสีที่สอนเรามามาวอเคาระห์และวางแผนการทำอย่างไรให้  เส้นสีเขียวมี range กว้างขึ้นเพื่อให้มีความสามารถรั้งเส้นสีแดงไว้ในขณะที่เส้นสีฟ้ากำลังถูกเค้นขึ้นไปเพื่อรีดแรงและอัตราเร่ง   ก็คือการทำอย่างไรก็ได้ในการระบายความร้อนให้เร็ว   ระบายความร้อนสะสมให้เร็ว   ช่วยให้ความสามารถในการระบายความร้อนในหนึ่งช่วงเวลามากขึ้น  ก็คือการทำให้น้ำคายความร้อนให้อยู่ในอุณหภูมิใช้งานให้เร็วที่สุด  เพื่อวนเวียนในระบบ    จึงเป็นที่มาของเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของการคายความร้อนของเครื่องยนต์


หมายเหตุ : สิ่งที่ทำ สิ่งที่แก้ไข และสิ่งที่ทดสอบ ไม่ได้ทำเพื่อให้เพื่อนสมาชิกไปเค้นความเร็วปลายและอัตราเร่งกันนะครับ   ทำเพื่อ safety เครื่องยนต์และเพื่อประสิทธิภาพในส่วนที่เราดัดแปลงแก้ไขเท่านั้น   อย่าเอาวิธีนี้ไปใช้แล้วบอกว่ายืนพื้นอยู่ 200+ แค่  15 นาที   เครื่องพังเลย    แบบนั้นต้องปรึกษาร้านเฉพาะทางแล้วนะครับ
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่ตุ้ย_Yindee

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Like: 49
  • เพศ: ชาย
  • ไปทุกที่ด้วยPAJERO SPORT
 มาหาความรู้ก่อนใส่กล่องครับ,
ผมไล่อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วและตอนนี้เลยไล่มา
ขอบคุณผู้ให้ความรู้และเป็นการโน้ตไปด้วยว่าอ่านแล้ว(ถึงแม้จะตามไม่ค่อยทัน)
ขอบคุณ พี่นะสำหรับความรู้ครับ
:sd24: I LOVE PA_MANIA  :L4398: :sd24: "Pamania เพื่อนกันตลอดไป"

ออฟไลน์ อั๋น ราชพฤกษ์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,434
  • Like: 171
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณคับอ่านแล้วอ่านอีกคับเอาใหัรู้แจ้งกันไปเลยคับ.    ขอบคุณพี่นะมากคับ.   
สบาย สบาย. ชิว ชิว คร้าบบ

ออฟไลน์ Goodboy

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,813
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
อ่านเหมือนเตรียมสอบ  :P :L4399:
Pamania so good

ออฟไลน์ จิรวัฒน์ จิตนันทกุล (หมู หนองคาย)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 609
  • Like: 17
  • เพศ: ชาย
 :L4365: ขอบคุณครับกับความรู้เนื้อหาสาระ  :L2900:

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
มาอัพเดทความร้อนกัน  สำหรับ temp ปกติในการเดินเบาของเครื่อง 2500  ที่ 88   นี่แหละปกติ ดี
(ที่ Water temp แปลงได้ดังนี้  [ (190องศาF - 32 ) x 5 ] / 9 = 87.7 องศาC



หลังจากทดลองมาเป็นเดือนกับอุปกรณ์บางตัวต่อเข้ากับห้องเครื่องด้วยสายไฟ 2 เส้น   ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่ออากาศภายนอกเย็นตัวที่ประมาณ 24-27 องศาC  จะเกิดการวัดค่าเปลี่ยนแปลง   อาการนี้จะสังเกตุไม่ได้เลยถ้าไม่มีตัววัด temp เทียบ   ตามรูป


เห็นอะไรไหม  ขณะวิ่งและกดยาวๆ  บูสเต็ม ( Temp 85 -86 )




ซึ่งปกติ  รถผมที่ความเร็วนี้กับการรีดคันเร่งมาแบบนี้ต้องมี  92+  กับโหลดที่ล้อเยอะมาก     แต่ผมไม่สบายใจเลยเพราะผิดกับตำราการทดสอบปกติอยากให้ร้อนวัดค่าได้เท่าเดิมจึงเสียบสายกลับคืนปรากฏว่าปกติครับ การวัดค่าปกติแบบเดิม    แต่หากใช้งานตามอุปกรณ์ที่ว่าจะเกิดอาการนี้เมื่อ temp ภายนอกประมาณ 24-27 C

บังเอิญรถผมมี external temp ที่ใช้กับ RV meter จึงวัดค่าได้ที่หน้าจอเพื่อ monitor การเปลี่ยนแปลง     หากสังเกตุดีๆจะพบว่าด้านหลังที่ผมใช้ water temp นั้นขึ้นค่าที่ตำนวณได้ปกติ  แต่ค่าที่ smg เพี้ยนไป    แบบนี้นับว่าเป็นข้อดีหรือข้อด้อยกันแน่   ผมละ.......งง จริงๆกับของเล่นใหม่นี้   แรงดีกว่าเดิมแต่เพิ่งสังเกตุว่ามีการเปลี่ยนแปลงด้วย   

ตอนนี้กำลังจะทดสอบช่วง temp ภายนอกปกติๆในหน้าร้อน     รอกันไปเรื่อยๆ    การบ้านฉบับนี้รายงานผลไปแล้วไม่ต้องตกใจอะไรกันนะครับ

 :L2739: :L2739: :L2739:

ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ ตุ้ย - นนทบุรี

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 353
  • Like: 4
  • เพศ: ชาย
มารอติดตามด้วยครับ

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
มาอัพเดทความร้อนกัน  สำหรับ temp ปกติในการเดินเบาของเครื่อง 2500  ที่ 88   นี่แหละปกติ ดี
(ที่ Water temp แปลงได้ดังนี้  [ (190องศาF - 32 ) x 5 ] / 9 = 87.7 องศาC


วิธีแก้ไขอาการนี้  ตามไปเลย

 " ปรับแต่ง : วิธีแก้ไขอาการค่าความร้อนที่ SMG [Smart gauge] แสดงค่า ECT ผิดปกติ "
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4528.msg181477/topicseen.html#msg181477
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ อาท Workkind

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,652
  • Like: 50
  • เพศ: ชาย
  • สวัสดีคร้าบ..บ พี่ๆทุกท่าน
กล่องข้าวน้อย 2 (ดันราง) ที่เอามาเล่นกัน
ข้อมูลนี้ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องดันรางตัวเดียวกับที่ BBB! Gang เล่นกัน   กล่องบางตัวบางยี่ห้อก็สามารถสร้างสิ่งที่เราต้องการได้เหมือนกัน   เพียงแต่ว่าพวกเราทราบแล้วว่าเราจะเติมเต็มส่วนไหนที่ขาดหายไปในเครื่องยนต์ และอยู่ใน range ที่เรายังสามารถเล่นกันอยู่ได้ และไม่ต้องการเค้นเครื่องยนต์กันมากเกินไป    โดยการเล่นของพวกเรานั้นมีการควบคุมด้วยข้อมูล จากแหล่งที่ปรึกษากำกับอยู่ ว่าบางอย่างยอมให้ได้เท่าไหน หรือไม่ให้เกินแค่ไหน     กล่องที่ดีกว่านี้ก็มีมากมายในตลาด   แต่สิ่งที่เราต้องการทั้งหมด  และราคาที่เห็นว่าคุ้มกับสิ่งที่จ่ายไป    เราได้จากกล่องข้าวน้อย2 นี้ครับ   ดังนี้
•   เราต้องการการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติที่สุด  ตามจังหวะกดคันเร่ง  ไม่ต้องการความแรงที่สุด   
•   อัตราเร่งที่รวดเร็ว 
•   ตอบสนองการออกตัว
•   ตอบสนองการเร่งแซง
•   การเปลี่ยนเกียรที่สมูธนุ่มนวล 
•   ความคุ้มค่าของน้ำมันเชื้อเพลิง(ประหยัด)
•   ราคาที่รับได้
•   อุปกรณ์ที่มีให้   (กล่อง + ตัววัดค่า + Clear code )
•   และการบริการที่น่าไว้ใจและประทับใจ
   สิ่งพวกนี้ต่างหากที่เราต้องการมากกว่าความแรง  ครับ

ใส่กล่องดันรางหรือการแต่งกล่องข้าวน้อย 2  แล้วความร้อนขึ้นสูงไหม ?
จากที่กล่าวมาข้างต้น  เพื่อนสมาชิกคงทราบแล้วว่า   ความร้อนมาจากอะไรบ้าง   เครื่องยนต์ที่มีการตกแต่งดัดแปลง  ให้รอบจัดขึ้น  ย่อมมีความร้อนมากขึ้นเป็นธรรมดา   รถผมติด auto meter water temp โดยใช้ Sensor จับอุณหภูมิน้ำขาออกจากเครื่อง(จะวัด temp ของน้ำ)    และติด Smartguage เพื่อจับความร้อนจากระบบที่ ECM นำไปใช้งาน (ซึ่งจะเป็นความร้อนจากเครื่องยนต์+น้ำ)  ฉะนั้นที่ว่า ค่าที่วัดแบบไหนเชื่อถือได้  ผมขอบอกว่า Smart guage จับค่าเร็วกว่าประมาณ 2-3 องศา  อย่างน้อยก็จะได้เตือนให้ยกคันเร่งกันก่อนได้

ในการติดกล่องดันราง  นี้   จะมีความร้อนตอบสนองเร็วกว่าเดิมประมาณ  3-5 องศา  ถ้าเราเร่งเหยีบบคันเร่ง   ฉะนั้นแต่เดิมเราเคยขับกันแบบเดิมๆ  อืดๆ  เราก็กดโดยการค่อยๆเติมคันเร่ง  พอกดเร็วก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก  มันก็ไปตามการตองสนองเครื่องยนต์ของมัน   แต่พอเราแต่งกล่องกันแล้ว   การตองสนองเครื่องยนต์เร็วกว่า  ยิ่งพอเหยียบเร็วยิ่งตอบสนองเท้าดี  เราก็เลยเพลินตะบี้ตะบัน มันส์กับการเหยียบคันเร่ง   แต่พอความร้อนขึ้นจนร้องเตือนก็เลยแอบตกใจ  ทั้งที่เข็มหน้าปัดในเรือนไมล์ก็ไม่ได้กระดิกสูงกว่าเดิมเท่าไหร่   หรือเป็นเพราะ Smart Guage มันหลอนเราหรือป่าว

สำหรับเครื่อง VG นั้นเป็นระบบ Turbo แปรผัน   มีการบูสตัวเองที่ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ที่กำหนด  พอได้เวลากล่องสั่งเปิดระบบ VG ก็จะสร้างบูส กวาดบูสให้เกิดขึ้นเสมือนแต่งโบใหญ่กว่าเดิม   จุดนี้คือจุดที่เครื่องยนต์ต้องการประสิทธิภาพของเครื่องฉะนั้นอุณหภูมิใช้งานของเครื่องยนต์ตรงนี้จะอยู่ที่จุดสูงเพื่อรองรับการทำงานแบบเร่งประสิทธิภาพของตัวมันเอง   และในรอบสูงก็เช่นนั้น  จุดนี้เองจะเห็นได้ว่า   เพียงแค่เดิมๆเครื่อง VG ก็มีอุณหภูมิเครื่องยนต์สูงกว่าอยู่แล้ว   เครื่อง VG นี่ตงลงมันมีอะไรมากกว่าเครื่องเดิมเยอะน่ะ   อุณหภูมิก็สูงกว่าเดิม  น้ำมันก็อร่อยกว่าเดิม  สะดีดสะดิ้งสะพัดกระพืบก็มีมากกว่าตัวเดิม   แถมยังมีน้ำมาฉีดเลอะเทอะที่ไฟหน้าเข้าไปอีก  555555  นี่แหละ  VG = Very Good ?.. (กำไรของ MMTH)

**Note : สำหรับเครื่อง VG ทางเราได้สูตรจากที่ปรึกษาที่ทำ Montero มาลองใช้   และเป็นแนวทางเดียวกับทีมที่ปรึกษาในนี้    และวันนี้มีการทดสอบกับ 2.5 VG  4WD เรียบร้อยได้ผลเป็นที่น่าพอใจและน่าสนใจ

**แนะนำ : กล่องที่เราเอามาแนะนำกันนี้  ไม่ใช่กล่องที่ดีที่สุด เพียงแต่การตอบสนองของการใช้งานตรงกับที่เราต้องการที่สุด  ทั้งเรื่องสินค้า  การบริการหลังการขาย   ข้อมูลเชิงเทคนิค  ปัญหาการใช้งาน  แนวทางการแก้ไขและทดสอบและทดลองอย่างจริงจัง  กับ Pajero Sport เกียร์ Auto เท่านั้น    เป้าหมายคือการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้ดีที่สุด  และไม่ต้องคอยดูแล ปรับแต่งอะไร    ไม่เน้นความเร็วปลายนะครับ   อยากรู้ไปลองกดกันดูครับ   พอวิ่งได้แต่ไม่ถึงขั้นไปแข่งกับใครเขา    ปล่อยแรงไปเดี๋ยวโดนข้อหาขับจี้ตูดชาวบ้านเขา   
 
อร่อยที่ปลายลิ้น : สำหรับ Smart Guage ตามหลักการที่อธิบายไปนั้น   ให้ตั้งเตือนที่  98-99 องศาครับ   และพอได้ยินปรี๊ด  ก็ยกกันบ้างนะครับ   ส่วนใหญ่ผมกดหลายรอบล่ะ  จะปรี๊ดช่วง   180-190 ในขณะกำลังกดเติมเค้น    หากช่วง 180 ไปแล้วลองหยุดการกด รอไหลแล้วค่อยๆเติมตามไปเลย  190+  ก็ยังไม่ร้องน่ะครับ   ฉะนั้นอย่าตกใจเรื่องความร้อน  แต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อน  ครับ

ข้อมูลรถแต่ละรุ่นและ TOP ความร้อนในการทดสอบ
•   2.5 2WD
•   3.2 4WD
•   2.5VG 2WD
•   2.5VG 4WD
•   2.5VG 2WD ที่มิตซูเปลี่ยนหม้อน้ำตัวใหม่แล้ว
•   2.5VG 4WD ที่มิตซูเปลี่ยนหม้อน้ำตัวใหม่แล้ว
•   3.2 VG 4WD ( มีอะไหล่มาก่อนแล้ว  รถยังไม่เห็น)

สรุปทดสอบรถ 2500cc ,178HP , VG Turbo , ช่วงปี Q1-2011  Q3-2012  เฉพาะส่วนของความร้อนได้ผลดังนี้

VG 2WD ช่วงปี Q1-2011  (จำนวนหนึ่ง )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เพิ่มความเร็วตามแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว       175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  208'F ( 97.7'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  145km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  205'F ( 96.1'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  212'F ( 100 'C )

VG 2WD ช่วงปี Q1-2011  Q3-2012
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เพิ่มความเร็วตามแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว       175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  210'F ( 98.8'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  145km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  210'F ( 98.8'C )
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  175km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  220'F ( 104.4'C )

VG 4WD ช่วงปี Q1-2011  Q3-2012
-  ขับเคลื่อนจากความเร็วล้อเคลื่อน 15-25 km/h , เร่งความเร็วตามสร้างแรงฉุดลากขึ้นไปที่ความเร็ว  145 km/h  ได้ค่าความร้อนเฉลี่ยที่  220'F ( 104.4'C )

กลับมาอ่านข้อมูลตรงนี้ก็เหมือนจะดีใจเข้าข้างตัวเองว่ารถเราก็ปกติสินี่ VG 4WD  :sd10:
Pajero Sport 2.5 VG - 4 WD / 2011 / ญฎ - 2518 กทม.

ออฟไลน์ ป้อม (pomek)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 124
  • Like: 7
  • เพศ: ชาย
  • ปามาเนีย
ตอน3 - อย่าตกใจ แต่ให้เข้าใจเรื่องความร้อน ?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 2 กุมภาพันธ์ 2017, 21:28:45 »
ขอบคุณครับ   :sd23: