ผู้เขียน หัวข้อ: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ  (อ่าน 17040 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ พี่โต (1007)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,280
  • Like: 28
  • เพศ: ชาย
น้องปาดีเซลมีติดแก๊สบ้างไหมครับพี่ ๆ ชาวปามาเนีย ถ้ามีช่วยเอาลงมาเป็นวิทยาทานหน่อยครับ  :sd23:
:L4398: โอม  งึมงำ งึมงำ รักกู  หลงกู  รักปา  หลงปา... :L2901:

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 2 มกราคม 2013, 19:17:26 »
น้องปาดีเซลมีติดแก๊สบ้างไหมครับพี่ ๆ ชาวปามาเนีย ถ้ามีช่วยเอาลงมาเป็นวิทยาทานหน่อยครับ  :sd23:

มาตอบว่า ไม่มีครับพี่โต
ผมดีเซลล้วนๆเลย
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html

ออฟไลน์ พี่โต (1007)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,280
  • Like: 28
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 2 มกราคม 2013, 22:29:37 »
ลองหาข้อมูลดูครับ  เลยได้ลิ้งนี้มา http://www.iwebgas.com/smf/index.php?topic=2843.30  เผื่อเข้าท่าครับ :L2901:
มีวีดีโอให้ดูด้วยครับ http://www.youtube.com/watch?v=fwo3ZX6gqAk  (ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางบริษัทนะครับ  เอามาให้ดูเพื่อเป็นแนวทางเฉย ๆ ครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2 มกราคม 2013, 23:01:04 โดย โต 1007 »
:L4398: โอม  งึมงำ งึมงำ รักกู  หลงกู  รักปา  หลงปา... :L2901:

ออฟไลน์ ต๋อง Fuddy

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,332
  • Like: 170
  • เพศ: ชาย
  • *Love You Always*
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 3 มกราคม 2013, 09:31:59 »
บอกตามตรงนะครับ ไม่กล้าติดครับ คือ เพื่อนผมใช้ไทรตัน 2.5 Auto (ดีเซล) ไปติดมา ยอมรับว่า แรงจริง ขนาดออกตัวยังฟรีล้อทิ้งเลย แล้วใช้มาได้ไม่ถึงอาทิตย์ครับ ดับคาเท้า ลากเข้าศูนย์ (แต่ถอดถังแก๊สและอุปกรณ์ต่างๆออกหมด) ช่างศูนย์เช็คแล้ว ชาร์ฟละลายครับ ดีนะเหลืออีก3วันหมดประกัน เลยรอดตัวไป แต่เรื่องยังไม่มีข้อสรุปว่าเกิดจากการติดแก๊สนะครับ เคยได้รับข่าวสารมาว่าเคยมีผู้บริหารใหญ่ของเว็บหนึ่งได้รับรถไปทดสอบหลายเดือน แต่ก็ไม่มีผลรายงานให้สมาชิกรับทราบว่าได้ผลเป็นเช่นไร (เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน  :sd42:)
จากข้อมูล http://www.nonggerd.ac.th/gas/__7.html
คุณสมบัติของแก๊ส
คุณสมบัติสำคัญของแก๊สที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานและเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อ ความปลอดภัย มีดังนี้
1.ไม่มีสี จะมองไม่เห็นเมื่อแก๊สรั่วแต่ในบางครั้งถ้าแก๊สรั่วออกมามากหรือน้ำแก๊สรั่วจะเห็นเป็นละอองขาว
 
ความจริงแล้วละอองขาวนั้นคือไอน้ำซึ่งกลั่นตัวเนื่องจากได้รับความเย็นจัดจากการระเหยของแก๊ส
 
2. ไม่มีกลิ่น แต่จำเป็นต้องใส่สาร “เอธิลเมอร์แคบเทน” ลงไปเพื่อให้เกิดกลิ่นฉุน คล้ายก๊าซไข่เน่า และเพื่อเป็นการเตือนเมื่อเกิดแก๊สรั่วซึม
 
3. ไม่มีพิษ แต่ถ้าหายใจหรือสูดดมเข้าไปมาก ๆอาจจะเกิดอาการวิงเวียนเป็นลมได้ ทั้งนี้เพราะร่ายกายได้รับก๊าซ ออกซิเจนไม่เพียงพอ
 
4. มีจุดเดือดที่ต่ำมากประมาณ 0 องศาเซลเชียสอุณหภูมิของอากาศโดยเฉลี่ยของ ประเทศเกินกว่า 20 องศาเซลเซียลดังนั้น
 เมื่อแก๊สถูกปล่อยออกจากภาชนะที่บรรจุพ้นสภาพ การถูกกดดันก็จะเดือดและเปลี่ยนสภาพเป็นไอทันทีการที่แก็สจะระเหยหรือเดือด จำเป็นต้อง ดึงดูดความร้อนจากบริเวณใกล้เคียง ในการปฏิบัติการเกี่ยวกับแก๊สถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดของ ร่างกายสัมผัสกับน้ำแก๊ส อาจจะทำให้ร่ายกายส่วนนั้นเย็นจัดถึงไหม้ได้ ยิ่งถ้าแก๊สไปถูกส่วนสำคัญของร่างกาย เช่น ตา อาจจะพิการได้ การปฎิบัติการเกี่ยวกับแก๊สจึงควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจจะต้องมีเครื่องป้องกัน เช่น ถุงมือ ชุดป้องกัน เป็นต้น
 
5. แก๊สเบากว่าน้ำ เมื่อมีสภาพเป็นน้ำแก๊ส แก๊สจะมีน้ำหนักประมาณ ครึ่งหนึ่ง ของน้ำจึงลอยอยู่เหนือน้ำ ไม่จมน้ำ

ถ้าแก๊สรั่วลงในคูน้ำ ท่อน้ำ หรือ แม่น้ำลำคลองอาจจะไหลตามน้ำไปติดไฟ ณ จุดที่ห่างออกไปได้
 
6. แก๊สหนักกว่าอากาศเมื่อมีสภาพเป็นไอแก๊ส แก๊สจะหนักประมาณ 2 เท่าของอากาศ เมื่อแก๊สรั่วทำให้ไหลไปรวมในที่ต่ำ

ดังนั้น ที่ตั้งถังแก๊สและบริเวณใกล้ถังแก๊สจึงไม่ควรเป็นที่ต่ำกว่าระดับพื้นทั่ว ๆ ไป เช่น ไม่ควรตั้งถังแก๊สไว้ในห้องใต้ดิน ใกล้หลุมบ่อ หรือ รางระบายน้ำ เป็นต้น
 
7. แก็สมีอัตราการขยายตัวสูง การเติมแก๊สในภาชนะจึงไม่ควรเติมเต็ม ต้องมี ช่องว่างไว้สำหรับการขยายตัวเมื่อแก๊ส
 
ได้รับความร้อน

8. แก๊สมีความดันสูง ภาชนะที่บรรจุ อุปกรณ์ที่ใช้ต้องออกแบบให้แข็งแรง ทนต่อแรงทนต่อความดันนั้นได้

การใช้ภาชนะและอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและเป็นอันตรายได้
 
9. แก๊สมีความเข้มข้นใสต่ำ จึงรั่วง่ายอุปกรณ์ที่ใช้กับแก๊สต้องแน่นหนากว่าอุปกรณ์ที่ใช้อุปกรณ์ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น
 
10. ส่วนผสมของแก๊สกับอากาศที่ทำให้ติดไฟ อัตราส่วนของแก๊สในอากาศที่ทำให้ติดไฟ คือ 1.5 – 9 ส่วนใน 100 ส่วนของส่วนผสม คุณสมบัติข้อนี้ชี้ให้เห็นว่า ถ้ามีแก๊สในอากาศน้อยหรือมากกว่าสัดส่วนดังกล่าว แก๊สจะไม่ติดไฟ
 
11. อัตราการขยายตัวจากสภาพแก๊สเหลวเป็นไอแก๊ส แก๊สเหลว 1 หน่วยปริมาตรจะเปลี่ยนเป็นสภาพไอแก๊สได้ถึง 250 หน่วยปริมาตร เมื่อแก๊สรั่วจึงมีอันตรายมากกว่าไอแก๊สรั่ว
 
12. เป็นเชื้อเพลิงที่ดี มีอุณหภูมิเปลวไฟสูงโปรเพนมีอุณหภูมิของเปลวไฟในอากาศ 1,930 องศาเซลเชียสและบิวเทน1,900 องศาเซลเชียส
 
13. เมื่ออยู่ในถังเก็บจะเป็นของเหลว โดยเพิ่มความดันหรือลดอุณหภูมิหรือ ทั้งสองอย่างเพื่อสะดวกในการขนส่ง
 
14. เมื่ออยู่นอกถังเก็บจะเปลี่ยนสภาพเป็นก๊าซทั้งนี้เพราะ แอลพีจี มีจุดเดือดต่ำมาก คือ จุดเดือดของโปรเพน=- 42 องศาเซลเชียสจุดเดือดของบิวเทน = - 0.5 องศาเซลเชียส

15. ไวไฟ ติดไฟง่าย และมีความปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกต้อง

16. ในกรณีที่อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลง ปริมาณของเหลวในถังเก็บจะมีความดันคงที่เสมอไม่ว่าบริเวณแก๊ส
 
ในถังจะมีมากน้อยเพียงใด แต่เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ความดันก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ป.ล. น้ำมันดีเซล ติดไฟค่อนข้างยาก ราคาอาจะแพงกว่าแก๊ส แต่ก็ยังถูกกว่า ตระกูลเบนซิล
เหตุผลทั้งหมดอาจจะแค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 9 มกราคม 2013, 08:37:50 โดย ต๋อง Fuddy »

ออฟไลน์ kobv5 (กอบ)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,449
  • Like: 22
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 3 มกราคม 2013, 15:01:43 »
ความรู้ทั้งนั้น  :L2900:

ออฟไลน์ สุภัทร (Pat)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,222
  • Like: 70
  • เพศ: ชาย
  • สวัสดี สมาชิก ปามาเนียทุกท่าน
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 9 มกราคม 2013, 08:17:39 »
ข้อมูลพี่ต๋อง เป็น LPG หรือ NGV หรือเป็นทั้งสองอย่างครับ
ตอนใช้ escape ก็ใช้ LPG มานาน มีปัญหาจุกจิก ประเภท ซ่อมไปใช้ไปละครับ
อ่านข้อมูลพี่แล้ว หูตาสว่างขึ้นเยอะ :sd23: :sd23: :sd23:
การกระทำใดๆ เพื่อส่งมอบสิ่งดีๆ ให้มวลหมู่สมาชิก

ออฟไลน์ ต๋อง Fuddy

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,332
  • Like: 170
  • เพศ: ชาย
  • *Love You Always*
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 9 มกราคม 2013, 08:50:31 »
ข้อมูลพี่ต๋อง เป็น LPG หรือ NGV หรือเป็นทั้งสองอย่างครับ
ตอนใช้ escape ก็ใช้ LPG มานาน มีปัญหาจุกจิก ประเภท ซ่อมไปใช้ไปละครับ
อ่านข้อมูลพี่แล้ว หูตาสว่างขึ้นเยอะ :sd23: :sd23: :sd23:
อันนี้เลยครับพี่สุ
ความแตกต่างระหว่างก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Vehicles: NGV) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas: LPG)
• ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน (Methane) เป็น ส่วนใหญ่ จึงเป็นก๊าซที่มีน้ำหนักเบากว่าอากาศ การขนส่งไปยังผู้ใช้จะขนส่งผ่านทางท่อในรูปก๊าซภายใต้ ความดันสูง จึงไม่เหมาะสำหรับการขนส่งไกลๆ หรืออาจบรรจุใส่ถังในรูปก๊าซธรรมชาติอัดโดยใช้ความดันสูง หรือที่เรียกว่า CNG แต่ปัจจุบันมีการส่งก๊าซธรรมชาติในรูปของเหลวโดยทำก๊าซให้เย็นลงถึง –160 องศา เซลเซียส จะได้ของเหลวที่เรียกว่า Liquefied Natural Gas หรือ LNG ซึ่งสามารถขนส่งทางเรือไปที่ไกลๆ ได้ และเมื่อถึงปลายทางก่อนนำมาใช้ก็จะทำให้ของเหลวเปลี่ยนสถานะกลับเป็นก๊าซอย่างเดิม ก๊าซธรรมชาติมีค่า ออกเทนสูงถึง 120 RON จึงสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานยนต์ได้
• ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซโพรเพน (Propane) เป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศ โดยตัว LPG เองไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเช่นเดียวกับก๊าซธรรมชาติ แต่เนื่องจากเป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศจึงมีการสะสมและลุกไหม้ได้ง่าย ดังนั้น จึงมีข้อกำหนดให้เติมสารมีกลิ่น เพื่อเป็นการเตือนภัยหากเกิดการรั่วไหล LPG ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือนและกิจการอุตสาหกรรม โดยบรรจุเป็นของเหลวใส่ถังที่ทนความดันเพื่อให้ขนถ่ายง่าย นอกจากนี้ ยังนิยมใช้แทนน้ำมันเบนซินในรถยนต์ เนื่องจากราคาถูกกว่า และมีค่าออกเทนสูงถึง 105 RON
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของ NG กับ LPG
หมายเหตุ
1. ค่าออกเทน (Octane number) หมายถึง หน่วยการวัดความสามารถ ในการต้านทานการน็อคของเครื่องยนต์ 2. RON (Research Octane Number) เป็นค่าออกเทนที่มีประสิทธิภาพต่อต้านการน็อคในเครื่องยนต์หลายสูบ ที่ทำงานอยู่ในรอบของช่วงหมุนต่ำ โดยใช้เครื่องยนต์ทดสอบมาตรฐานภายใต้สภาวะมาตรฐาน 600 รอบ ต่อนาที 3. MON (Motor Octane Number) เป็นค่าออกเทนที่มีประสิทธิภาพต่อต้านการน็อคในเครื่องยนต์หลายสูบ ในขณะทำงานที่รอบสูง โดยใช้เครื่องยนต์ทดสอบมาตรฐานภายใต้สภาวะมาตรฐาน 900 รอบต่อนาที
หมายเหตุ : ค่าแรงดันก๊าซ
LPG ขณะอยู่ในถังมีสถานะเป็นของเหลว มีค่าแรงดัน 100-130 PSI ( ปอล์นต่อตารางนิ้ว) หรือ 4-6 BAR
NGV ขณะอยู่ในถังมีสถานะเป็นก๊าซ มีค่าแรงดัดประมาณ 2200-2800 PSI หากเติมเต็มๆจะถึง 3000 PSI หรือ 200 BAR

คุณสมบัติของก๊าซแอลพีจี

         1. ก๊าซแอลพีจี อยู่ในรูปของเหลว และมีความดันต่ำ ถังก๊าซแอลพีจีมีความหนาผนังมากกว่าถังน้ำมันเบนซินมาก ทำให้โอกาสที่จะเกิดการระเบิด จากถังเนื่องจากการชนเป็นไปได้น้อย

         2. ก๊าซแอลพีจี ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างใด ทำให้การจุดระเบิดสะอาดหมดจด และยืดอายุการใช้งานได้

         3. ก๊าซแอลพีจี มีออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซิน จึงส่งผลให้การสตาร์ทและการทำงานของเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์มากขึ้น

         4. ราคาค่าก๊าซถูกกว่าน้ำมันเบนซินหรือดีเซล ทั้งปัจจุบันและอนาคต

         5. ช่วยป้องกันปัญหาที่เรียกว่ารถกินน้ำมันเครื่อง เพราะการสึกหรอของชิ้นส่วน เมื่อใช้ก๊าซมีน้อยกว่า

         6. ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์

         7. เครื่องยนต์เดินได้ราบเรียบกว่าในรอบที่ต่ำกว่า ถ้าหากได้รับการติดตั้งอย่างถูกวิธี

 ข้อควรระวังสำหรับการใช้ LPG ในรถยนต์

         1. ต้องรู้ว่าก๊าซหุงต้มคือ ก๊าซ ที่หนักกว่าอากาศ เมื่อมีการรั่วซึมจะเกาะกลุ่มกันอยู่บนพื้นในระดับต่ำ

         2. ควรจะต้องตรวจเช็คการรั่วซึมตามจุดต่างๆ อย่างน้อยปีละสองครั้ง

         3. ก่อนที่จะมีการถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ในระบบก๊าซจะต้องปิดวาวล์ที่ถังก๊าซให้สนิท

         4. จะต้องไม่เติมก๊าซมากกว่าร้อยละแปดสิบของความจุของถัง

         5. ในการเติมก๊าซทุกครั้งอาจจะมีการรั่วซึมออกมานิดหน่อยตรงหัวเติมก๊าซ ให้ระวังประกายไฟในขณะนั้น

         6. การจอดรถหลังเลิกใช้งานเมื่อจอดรถในที่จอด เช่น โรงรถ ควรจะปิดวาวล์ที่ถังแกส

         7. โรงจอดรถถ้าเป็นไปได้ควรจะเป็นที่ๆ มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยเฉพาะในระดับพื้นดินต้องโปร่งโล่ง

         8. ถ้าจะนำรถที่ใช้ก๊าซเข้าตรวจเช็คสภาพรถยนต์ตามปกติ ควรจะให้มีก๊าซในถังเหลือน้อยที่สุด

         9. ในรถรุ่นที่ต้องปรับตั้งลิ้นไอดีไอเสียแบบกลไก ก็จะต้องมีการปรับตั้งระยะห่างของลิ้นตามปกติอย่างเข้มงวด
 
         10. LPG จะถูกเผาไหม้ช้ากว่าน้ำมันเบนซิน การปรับตั้งไฟจุดระเบิดจึงต้องปรับตั้งล่วงหน้าเพื่อจะเผาไหม้ได้หมดจด 

         11. LPG ต้องใช้ประกายไฟจากหัวเทียนเข้มข้นกว่าที่ใช้ในน้ำมันเบนซิน จึงต้องเลือกใช้หัวเทียนให้ถูกต้องกับค่าความร้อน

         12. LPG มีค่าอ็อกเทนประมาณ 91ถึง125 รถที่จะติดตั้งก๊าซหุงต้ม ควรจะมีอัตราส่วนกำลังอัดตั้งแต่ 10:1ขึ้นไป จึงจะใช้ประสิทธิภาพของก๊าซได้อย่างคุ้มค่า

คุณสมบัติของก๊าซเอ็นจีวี

         1. อุณหภูมิติดไฟของก๊าซเอ็นจีวีนั้นสูงกว่าเชื้อเพลิงอื่นๆ ติดไปยาก ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้เมื่อก๊าซรั่วหรืออุบัติเหตุ

         2. ก๊าซเอ็นจีวี ถูกจัดเก็บอยู่ในรูปไอ ซึ่งมีแรงดันสูง จึงทำให้ไม่มีอากาศเข้าไปผสม จึงไม่ก่อให้เกิดการผสมกันระหว่างก๊าซ จึงลดโอกาสในการติดไฟและระเบิดได้

         3. ก๊าซเอ็นจีวี ก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สะอาดหมดจด และไม่ก่อให้เกิดการสกปรกของน้ำมันเครื่อง จึงสามารถยืดอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องได้

         4. ก๊าซเอ็นจีวี ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างใด ทำให้การจุดระเบิดสะอาดหมดจด และยืดอายุการใช้งานได้

         5. ก๊าซเอ็นจีวี ไม่ส่งผลเสียต่อลูกสูบและกระบอกสูบ ทำให้เกิดการหล่อลื่นที่มีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น

         6. ก๊าซเอ็นจีวี มีออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซิน จึงส่งผลให้การสตาร์ทและการทำงานของเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์มากขึ้น

         7. ก๊าซเอ็นจีวี ก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สะอาดหมดจด ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น จึงช่วยลดมวลไอเสีย และส่งผลต่อการลดมลพิษในอากาศโดยตรง

         8. มีสัดส่วนของคาร์บอนน้อยกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นและมีคุณสมบัติเป็นก๊าซ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น และปริมาณไอเสียที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ มีปริมาณต่ำกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น

         9. เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดไม่ก่อให้เกิดควันดำหรือสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน จึงสามารถลดปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

         10. เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถผลิตได้ในประเทศ จึงมีราคาถูกกว่าน้ำมัน และสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการลดการนำเข้าน้ำมันดิบ 

         11. เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด เพราะมีคุณสมบัติเบากว่าอากาศ ดังนั้นเมื่อเกิดรั่วไหล ก๊าซเอ็นจีวีจะไม่สะสมอยู่บนพื้นดินจนเกิดการลุกไหม้เหมือนเชื้อเพลิงอื่นๆ และอุณหภูมิที่จะทำให้ก๊าซเอ็นจีวีสามารถลุกติดไฟในอากาศเองได้ก็ต้องสูงถึง 650 องศาเซลเซียส 

ที่มา:การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
คัดลอกเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อการศึกษาและให้ความรู้ผู้สนใจ
ขอขอบคุณ การปิโตรเลี่ยมแห่งประเทศไทย

***** โดยความคิดเห็นส่วนตัวครับพี่สุ ถ้าอยากใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ ก่อนตัดสินใจเลือกรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงนี้เลย เช่น ไทรตันCNG เนื่องจากมาตราฐานการติดตั้งน่าจะดีกว่านำไปติดตั้งเอง จากการติดตามข่าวสารทางสื่อ รถส่วนใหญ่ติดตั้งจากอู่นอก ประสบอุบัติเหตุที่ไร ย่างสด อะ  :sd21:

 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 9 มกราคม 2013, 09:12:26 โดย ต๋อง Fuddy »

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 9 มกราคม 2013, 10:06:39 »
เคยมีน้องปาดีเซลเข้าไปทำมาคันนึงนะครับ ตอนช่วงนั้นมีหลายๆคนสนใจเพราะราคาเชื้อเพลิงที่ถูกกว่า และทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นด้วย......คันนั้นที่เข้าไปทำเสร็จ ออกมาก็มารีวิวเห็นชม....ดีเซลติดแก๊ซ ไม่สามารถใช้แก๊ซได้ทั้ง 100% แต่เป็นการจูนผสมระหว่างดีเซลและแก๊ซ.....และอัตราการจูนก็ไม่สามารถทำได้มากนัก เพราะจะเกิดปัญหาเรื่องความร้อน....ตอนนั้นน้องปาที่เข้าไปทำเลยจูนไว้แบบไม่มากนัก.....หลังจากรีวิวประเด็นการจูนผสมนี้แล้ว กระแสความสนใจก็ลดน้อยลง เนื่องจากไม่สามารถใช้แก๊ซได้ทั้งหมด ยังคงต้องผสมกับดีเซลอยู่ดี จึงทำให้ค่าเชื้อเพลิงที่ประหยัดไปได้ไม่มากนัก ความคุ้มค่าต่อการลงทุนเมื่อบวกกับค่าความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับรถแล้วดูจะไม่ดึงดูดใจมากนัก ประเด็นเรื่องการนำน้องปาดีเซลไปติดแก๊ซ สำหรับในกลุ่มผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเชื้อเพลิงจึงค่อยๆหมดความน่าสนใจไป

คงเหลือแต่ในประเด็นที่ทำให้เครื่องแรงขึ้น....อย่างที่ข้อมูลพี่ต๋องได้แจ้งไปแล้ว....แก๊ซมีความบริสุทธิ์มากกว่าน้ำมันดีเซล การเผ้าไหม้สมบูรณ์กว่า สะอาดหมดจดกว่า....ก็เป็นผลทำให้เครื่องแรงขึ้นกว่าการใช้ดีเซล.....ประเด็นนี้ยังมีกลุ่มที่ชอบความแรงให้ความสนใจ และน้องปาที่ไปทำมาก็รีวิวไว้อย่างละเอียดว่าแรงขึ้น ออกตัวดีขึ้น....เรียกได้ว่าไปติดแก๊ซนี่ พวกกล่องดันราง กล่องคันเร่ง ชิดเข้าเลนซ้ายไปเลย......เป็นที่สนใจในหมู่ผู้นิยมความแรงกันมากในตอนนั้น

ข่าวสุดท้ายที่ได้ยินเกี่ยวกับน้องปาดีเซลที่ไปติดแก๊ซคันนี้คือ.....หลังจากติดไปได้ซักประมาณ 6 เดือนได้มั้งครับ....ก็ "ดับ"......ด้วยสาเหตุอะไรผมไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ติดตามข่าวต่อหลังจากนั้น......ซ่อมบำรุงอย่างไร หายหรือไม่ก็ไม่แน่ใจนะครับ....ทราบแต่ว่าดับคาเท้าเช่นกัน.....ในช่วงนั้นมีหลายๆข้อสังเกตุเกิดขึ้นเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยกลุ่มผู้ขายและให้บริการติดตั้งแก๊ซก็ยืนยันว่า การติดตั้งแก๊ซในรถดีเซลนั้นมีความปลอดภัยกับเครื่องยนต์ 100% หากใช้งานตามคำแนะนำ และบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง จนมีการตั้งข้อสังเกตุว่าเจ้าของน้องปาจูนแก๊ซมากไปหรือเปล่า เป็นข้อให้ถกเถียงกันมาอยู่พักนึงครับในเรื่องสาเหตุของการดับครั้งนี้

ข้อสังเกตุนึงที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ผมอ่านแล้วรู้สึกเห็นด้วยคือ.....ปัญหาการดับ อาจไม่ได้มาจากจูนแก๊ซมากเกิดไป หรือความสมบูรณ์ของระบบแก๊ซ หรือการติดตั้ง.....แต่ปัญหาอาจเกิดจาก "ความแรง" ที่ได้รับจากการติดแก๊ซ......เพราะเมื่อรถมันแรงขึ้น ก็ขับมันมากขึ้น ยิ่งเหยียบยิ่งมัน ยิ่งเวลาออกตัวแรงๆ มันสะใจก็ยิ่งกด........ปัญหามันมาจาก Hardware ของน้องปาดีเซล ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รับการจุดระเบิดที่รุนแรงของแก๊ซ และไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกับความแรงและการกระทืบหลังจากติดแก๊ซไปแล้ว......ดังนั้นนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ Hardware ตัวอื่นๆ ทนทานรับไม่ไหว....ในที่สุดก็พังครับ

ข้อสรุปโดยส่วนตัวของผมเองหลังจากได้ติดตามข่าวน้องปาคันนี้มาพอสมควร....สรุปว่า.....น้องปาดีเซล ติดตั้งแก๊ซนั้นทำได้ครับ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วอย่างที่พี่ต๋องบอก มีค่ายติดแก๊ซค่ายนึงทำออกมาให้ลองเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้งานได้ปกติ เท่าที่เห็นก็ไม่พังนะครับ แต่เสียดายคือผู้ที่นำไปทดลองใช้ไม่ได้นำข้อมูลมาลงแชร์ให้ทราบ..........เอาเป็นว่าน่าจะติดตั้งได้ และใช้งานได้ครับ.......แต่เมื่อติดตั้งแล้ว ต้องมีการบำรุงรักษาที่ดี ดีมากๆ ดีกว่าการใช้รถปกติ ทั้งในเรื่องของระบบแก๊ซเอง และ Hardware ตัวอื่นๆ ที่ต้องรองรับการจุดระเบิดที่รุนแรง.......และที่สำคัญคือผู้ใช้งานครับ ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า น้องปาดีเซลที่ไปติดแก๊ซมานั้น Hardware หลายส่วนไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับกับการทำงานแบบนั้น ดังนั้นการใช้งานจึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง ใช้งานอย่างถนอมเครื่อง และต้องรู้จักที่จะ monitor อาการต่างๆของรถอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทราบปัญหาของตัว Hardware ต่างๆ ก่อนที่จะส่งผลทำให้ "ดับคาเท้า" ครับ

ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ผมได้ติดตามมาเมื่อระยะหนึ่งแล้วนะครับ บวกรวมกับความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยนะครับ  :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ สุภัทร (Pat)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,222
  • Like: 70
  • เพศ: ชาย
  • สวัสดี สมาชิก ปามาเนียทุกท่าน
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 14 มกราคม 2013, 12:06:14 »
ขอบคุณครับ พี่ต๋อง
การกระทำใดๆ เพื่อส่งมอบสิ่งดีๆ ให้มวลหมู่สมาชิก

ออฟไลน์ พี่โต (1007)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,280
  • Like: 28
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 14 มกราคม 2013, 19:03:05 »
ขอบคุณพี่ต๋องครับ  สำหรับข้อมูลดี ๆ
:L4398: โอม  งึมงำ งึมงำ รักกู  หลงกู  รักปา  หลงปา... :L2901:

ออฟไลน์ พี่อ็อด Pentium4

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,156
  • Like: 127
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 16 มกราคม 2013, 12:26:59 »
ผมมาเสริมเพิ่มเติมให้ครับ เรื่องมันยาวเอาคร่าวๆและกัน

ครั้งนึงเมื่อกลางปีที่แล้ว ผมเองได้มีโอกาสไปเข้าไปเยี่ยมชมร้านติดตั้งแก๊สที่น่าเชื่อถือได้แห่งหนึ่งครับ หงส์ทอง
ไม่ใช่เค้าชวนผมหรอกครับ แต่ขอไปเป็นเพื่อนกับพี่ท่านนึงที่ทางร้านเค้าเชิญให้ไปชม ไปลอง
ด้วยความที่ผมไม่ชอบรถติดแก๊สเพราะกลัวขึ้นสมอง แต่ใจมันอยากรู้ อยากลอง ก็เลยขอไปด้วย  ;D

และด้วยกระแสตอนนั้นคือ ดีเซล อยากติดแก๊ส คุ้มไหม เลือกแบบไหนดี ติดอย่างไรดี
มันเลยทำให้ผมอยากรู้เหมือนกันว่า เจ้าดีเซลพอมาติดแก๊สแล้วจะเป็นยังไง
เผื่อถ้าดี เราจะได้ประหยัดค่าน้ำมันไปได้บ้าง แล้วจะได้เอาประโยชน์ตรงนี้มาข่มความกลัว

สิ่งแรกที่ได้เห็นครับ ว้าว ใหญ่จัง รถเพียบเลย มีปาด้วย แต่เป็นปาเบนซินนะ


เดินดูด้วยความตื่นเต้น จนลืมกลัว 555


เข้าไผรับฟังข้อมูลซักเล็กน้อย เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ ว่ามันมีหลายยี่ห้อ หลากหลายคุณภาพ
ยกตัวอย่างแค่หัวฉีด ก็หลายแบบแล้ว


นี่ก็อีกแบบ ดีขึ้น แพงขึ้น ทนขึ้น ละเอียดขึ้น แม่นยำขึ้น


และสุดท้ายก็ได้ลอง ปาดีเซลติดแก๊ส LPG


ครั้งแรกที่ได้ลองขับระยะทางประมาณ 30 กิโล
ขอบอกเลยตามภาษาคนไม่เคยใช้และไม่เคยสนใจแก๊สว่า เอ้ย!! แค่กดปุ่มก็ใช้แก๊สแล้วหรอ
พอไม่ใช้ ก็แค่กดปุ่มเท่านั้น มีไฟบอกสถานะแก๊สคงเหลือในถัง โอ้ว ง่ายจริงๆ สมัยนี้เป็นอย่างนี้หรือนี่ น่าใช้ๆ 555 ลืมกลัวไปเลย
ขับได้ไม่นาน พอเริ่มกดปิดแก๊ส เปิดแก๊ส จึงเริ่มเห็นความแตกต่างว่า รถมันแรงขึ้นเวลาเปิดใช้แก๊ส
แรงบิดมามากขึ้นตั้งแต่รอบต้น ทำให้การออกตัวดีกว่าเดิม เร่งแซงดีขึ้นปรู้ดปร้าดกว่าเดิม ขับสนุกกว่าเดิมมาก
เปรียบเหมือนกับได้ติดกล่องดันรางยังไงยังงั้น

แล้วทำไมแต่ก่อนได้ยินมาว่า ติดแก๊สแล้วรถกำลังตก ไม่มีแรง เออ งง
สุดท้ายเลยได้ข้อมูล แล้วฟังคำอธิบายจากผู้รู้ รวมทั้งหาอ่านเอง แบบเดียวกับที่พี่ๆได้ให้ข้อมูลไว้ด้านบน

อย่างนี้ก็ดี ซิ รถมีกำลังขึ้น แล้วความประหยัดล่ะ?

ผมเองมีโอกาสได้ลองรถช่วงสั้นๆ แต่พี่ที่ไปด้วยกับผม ได้รถไปลองใช้เลยกว่า 1 เดือน
อัตตราสิ้นเปลืองที่ได้ ไม่ต่างจากที่ผมได้ข้อมูลมา นั่นคือ แทบจะไม่ได้ช่วยให้ประหยัดได้มากมายเลย
ยิ่งรถติดในเมืองไม่ต้องพูดถึง เพราะการจูนแก๊สแบบนี้ ต้องจูนส่งแก๊สเข้าไปตอนที่รอบมาที่ช่วง 2000 รอบแล้ว
ฉะนั้น รถติดในเมือง หรือมีการชลอ ออกตัวบ่อย แทบไม่ได้ใช้แก๊สเลย
จะได้ใช้ต่อเมื่อวิ่งทางไกลๆ ความเร็วคงที รอบสูงไปแก๊สก็ตัดเช่นกัน



สุดท้ายผมช่วยกันหาข้อมูลกับพี่นะ และพร้อมที่จะมาโพสเพื่อบอกข้อมูลและประสปการณ์ที่ได้ลองขับเพียงไม่ถึงชั่วโมง
บวกกับที่คาดไว้ว่า พี่ท่านนั้นที่ได้รถไปใช้กว่าเดือนจะมาเปิดกระทู้ เล่าการใช้งาน ขึ้นเขาลงเขา ขับทางไกลและในเมือง
ซึ่งรวมแล้วน่าจะมีประโยนช์สำหรับสมาชิกที่กำลังสนใจอย่างมาก
รวมทั้งผมและพี่นะมีการคิดถึงจุดคุ้มทุน ประเมินการเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ และความเหมาะสมกับคนที่ใช้แก๊สจริงว่า
เหมาะกับคนกลุ่มไหน



แต่สุดท้ายพี่คนนั้นไม่โพสแชร์ขอมูล เพราะคงเกรงว่าจะมีเรื่องเข้าตัว ขัดแย้งกับพ่อค้า ก็เลยไม่มีกระทู้แชร์ข้อมูลมาให้ได้อ่าน

แต่ผมมาสรุปให้สั้นๆครับว่า ดีเซล กับแก๊ส นะตอนนี้ ความประหยัดตังในกระเป๋า ไม่ต้องถามหาครับ ยากกว่าจะคืนทุนค่าติดตั้ง
ไหนจะต้องมารับสภาพกับเครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
หากเป็นเชิงพานิชย์ เราก็คำนวณมันลงไปในต้นทุน ใช้รถไปเท่านั้นปีก็ขายทิ้งเลย เชิงพานิชย์ โอเค
หากใช้งานครอบครัว เราเน้นใช้รถเพื่อให้อยู่กะเรานานหลายๆปี ไม่คุ้ม

หากเรื่องความแรง อันนี้ยอมรับ ขับมันกว่าเดิม รถมีแรงบิดมากขึ้น

ก็ลองดูครับว่า ติดแล้ว อยากได้อะไร
นี่คือความเห็นส่วนตัวนะครับผม  :L4399:

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 16 มกราคม 2013, 17:25:51 »
เพื่มต่อจากพี่อ๊อดอีกหน่อย   จากความคิดส่วนตัวนะครับ

เครื่องเบนซิน จุดระเบิดไว  เป็นเครื่องรอบจัด  สร้างแรงม้าแรงบิดได้ตามรอบเครื่องยนต์  และเน้นความเร็วรอบ

เครื่องดีเซล  สันดาปช้ากว่าการจุดระเบิด  แต่ด้วยเช้อเพลิงประเภทนี้ระเบิดรุนแรงและมีกำลัง   จึงให้แรงบิดแรงดึงฉุดลากที่รอบต่ำๆ   และเน้นด้านพละกำลัง

เครื่องดีเซลสมัยใหม่  เน้นกำลัง  พัฒนาการสู่ความเร็วรอบ  มักมีระบบไฟฟ้าเข้ามาร่วมด้วย  แต่เป้าหมายก็ยังเน้นแรงบิดที่รอบต่ำ

**ด้วยเหตุพวกนี้หรือป่าวที่ทำให้ต้นทุนการผลิตเครื่องดีเซลถึงมีราคาค่าวัสดุและเทคโนโลยีที่สูงกว่า  และทนทานต่อแรงอัด   ทำให้มีราคาค่าตัวเครื่องสูงกว่าเบนซินปกติ

เครื่องยนต์พลังงานร่วมและพลังงานทดแทน  คือการลดความสิ้นเปลืองพลังงาน  ลดต้นทุนเชื้อเพลิง   แต่ยังคงให้เครื่องยนต์ทำงานได้เสมือนการทำงานจากเชื้อเพลิง 100% จึงเริ่มพัฒนาต่อยอดกันมา  โดยมีทั้งข้อดีและข้อเสียในการดัดแปลง

เครื่องยนต์ใช้พลังงานแก็สหรือก๊าซธรรมชาติ  คือเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเฉพาะใช้งานตามวัตถุประสงค์ส่วนใหญ่จะออกไปในเชิงพานิช  คิดค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุนและค่าเสื่อมตามระยะใช้งานและจุดคุ้มทุน   จึงออกแบบมาในรุ่นธรรมดาเสียส่วนมาก  หรืออีกแบบก็ออกแบบมาในแบบพลังงานร่วม 2 ระบบในรุ่นที่ extra ขึ้นอีกหน่อย

**ฉะนั้นการจะตัดสินใจเลือกใช้งานอะไรก็ตาม  หากเราเลือกตั้งแต่แรกตามคุณลักษณะใช้งานและตกประเภทเลย  น่าจะตอบโจทย์ได้ถูกต้องกว่า    แต่หากตัดสินใจเลือกบางอย่างมาแล้วและกำลังจะดัดแปลงไปเป็นอีกอย่างก็ต้องหาข้อมูลประกอบเยอะๆและวางแผนดีๆว่าต้องการความประหยัดหรือต้องการความคุ้มค่าหรือต้องการ  รถและเทคโนโลยีที่เลือกซื้อมันมา   

Note : ที่ผมสงสัยและรอผู้รู้มาตอบให้กระจ่างในความคิดส่วนตัว  เช่น
1. ถ้าพลังงานร่วมใช้งานได้ไม่มีส่วนเสียทำไมไม่ใช้ทดแทนเลย  ทำไมต้องร่วม
2. ถ้าพลังงานทดแทนสามารถใช้งานได้โดยไม่มีข้อเสีย  ทำไมต้องทำงานที่รอบเครื่องลอยตัวไปแล้วทำไม่ไม่ใช้ในรอบต่ำเลย
3. ถ้าพลังงานทดแทนสามารถใช้งานได้โดยไม่มีข้อเสีย  ทำไม่ต้อง start ล่อด้วยเชื้อเพลิงปกติบ้าง สลับกัน
4.ทำไมเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สหรือก๊าซ  ที่ออกแบบมาเลย ถึงมีระยะรับประกันน้อยกว่าเครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงปกติ
5. ทำไมการนำรถที่เครื่องยนต์โทรมหรือใช้งานมานาน มาติดตั้งพลังงานพวกนี้ถึงไม่ได้ผลดังที่ต้องการ
6. ทำไมหลายร้านมักแนะนำให้ทำตั้งแต่รถใหม่ๆเครื่องยนต์แน่นๆ  และให้การรับประกัน 1-2 ปี
7. ทำไมเมื่อใช้งานมามากจนถึงจุดคุ้มทุนแล้ว  แนะนำให้ซื้อเครื่องมือสองตามเซียงกงหรือหาเครื่องเบนซิลมาเปลี่ยนเลยแทนการโอเวอร์ฮอล์เครื่องเดิมที่มีราคาสูง
8. สมมุติเครื่องดีเซลมีมูลค่า  80,000-100,000 บาท   พอใช้ไป 5 ปีด้วยพลังงานทดแทน แนะนำเปลี่ยนเครื่องใหม่เป็นเบนซิลมือสองสัก 40,000 บาท  และขายเครื่องยนต์เดิมออกตลาดอาจได้กลับคืนอีก  20000-30000 บาท   เท่ากับเปลี่ยนเครื่องในราคา  10,000 บาท   เมื่อนำมารวมกับค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากพลังงานทดแทนระยะเวลา 5 ปี
คิดออกมาแล้วลดลงจำนวนมาก   ยิ่งวิ่งด้วยระยะทางมากยิ่งกำไร   หักลบกันไปอาจถูกกว่าใช้เชื้อเพลิง   การคิดแบบนี้ในเชิงพานิชถือว่า OK มากๆ
9. ทำไมไม่แนะนำสำหรับรถใช้งานที่วิ่งระยะทางต่อวันน้อยกว่า  150-200 โล


*ข้อสงสัยผมอาจจะเยอะไปสักนิด  เพราะผมคิดแบบนี้จริงๆครับและเคยคุยกับเพื่อนๆก็ตอบกันไม่ได้ ได้แต่คิดว่าอาจจะเพราะนั้น อาจจะเพราะนี่  เลยไม่ได้คำตอบเสียที

หากมีใครทราบช่วยอธืบายให้หายสงสัยด้วยครับ  จะได้ช่วยกันแนะนำกันต่อไปเพื่อประโยชน์ของพวกเราที่ยังไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจนแบบนี้   ถือว่าแชร์กันนะครับ
 :L2734: :L2758:
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่ศักดิ์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 731
  • Like: 24
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 28 มกราคม 2014, 17:02:17 »
น้องปาดีเซลมีติดแก๊สบ้างไหมครับพี่ ๆ ชาวปามาเนีย ถ้ามีช่วยเอาลงมาเป็นวิทยาทานหน่อยครับ  :sd23:
พี่ศักดิ์ใช้อยู่ครับพี่โต http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,2421.0.html

ออฟไลน์ หนึ่ง ปาคาราเมล

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 18
  • Like: 0
  • เพศ: ชาย
Re: มีน้องปาดีเซลติดแก๊สบ้างป่าวครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 09:42:55 »
ตามมาหาความรู้ไว้ก่อนครับ...

ตอนนี้เบิกค่าน้ำมันได้อยู่ ไว้เบิกไม่ได้ค่อยว่ากันใหม่