มาขอแชร์ประสบการณ์เรื่องเบรคหอนด้วยคนนะครับ คือ เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว เบรคเริ่มมีเสียงหอนเอีีอดอ๊าด ด้วยความกลัวว่า จานทองจะถูกกินเพราะผ้าเบรคหมด ก็เลยไปสั่งผ้าเบรคมาเปลี่ยน เป็นผ้าเบรค Brembo low-metallic สนนราคา 1,590 บ. แล้วก็หิ้วไปให้ศูนย์เปลี่ยนให้ พร้อมกับบอกทางศูนย์ให้ช่วยเช็คสภาพของจานเบรคและผ้าเบรคเก่าด้วย ซึ่งเมื่อเปลี่ยนเสร็จแล้วช่างก็มาบอกว่า ผ้าเบรคยังเหลืออีกเยอะเลย จานก็สภาพปกติดี ผมก็ค่อยคลายกังวลเรื่องจานทองสึก จากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางก็ลองๆเบรคไปด้วยให้ผ้าเบรคมันเข้าที่ ก็หนึบดี แต่พอรถไหลช้าๆตอนติดไฟแดง เวลาเบรคดันมีเสียงหอนขึ้นมาอีก หลุดจากไฟแดงก็ลองเบรคไปหลายๆระดับความเร็วเพื่อทดสอบ จนถึงบ้านก็สรุปได้ว่า เสียงหอนจะเกิดขึ้นเฉพาะที่เวลาเบรคที่ความเร็วต่ำๆเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นก็เลยขับรถไปที่ศูนย์ถามช่างว่า เบรคมันหอนน่ะ ทำไงดี ช่างที่ศูนย์บอกว่า ผิวจานเบรคมันลื่นไม่สาก ตอนแรกตั้งใจจะเจียรให้ แต่เนื่องด้วยเป็นจานแต่งมีรู เตรื่องที่ศูนย์เจียรไม่ได้ ผมก็เลยกลับบ้านมาค้นหาข้อมูลจากปามาเนี่ยดู ก็มาเจอกับกระทู้นี้ หลังจากที่อ่านๆไป ก็เตรียมใจที่จะไปเจียรผ้าเบรค (มีร้านอยู่แถวๆบ้าน) เพราะใจไม่อยากเจียรจาน กลัวประสิทธิภาพของจานมันจะลดลง
แต่เนื่องจาก ผมไม่ได้ขับรถทุกวัน ช่วงไปทำงาน 14 วันก็ขับมาจอดอย่างเดียว พอกลับบ้านวันไหนมีอะไรทำที่บ้านเยอะก็จอดไว้อีกเหมือนกัน แต่วันไหนที่ขับออกมาก็จะทดลองเบรคและฟังเสียงอยู่ตลอด ว่าเสียงมันเบาลงไหม เสียงมันหายไปหรือยัง ก็ใช้เวลานานเหมือนกันร่วม 2 เดือน (ถ้าเป็นคนที่ใช้รถทุกวันอาจจะใช้เวลาน้อยกว่านี้ก็ได้) ก็รู้สึกว่า เสียงมันดังน้อยลง ๆ ไปเรื่อยๆ จนวันนี้ เสียงมันหายไปแล้ว

ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังว่า ถ้าพี่ๆสามารถทนฟังเสียงหอนในช่วงการใช้งานระยะแรกๆได้สักพัก (ก็เข้าใจนะว่าเสียงมันบาดใจพิกล

) และถ้าไม่สนใจรถข้างเคียงว่าเคีาจะคิดอะไร

ผมว่า อาการมันอาจจะเป็นอย่างรถผมก็ได้ คือ ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน ใช้มันไปสักพักเมื่อมันเข้าที่เข้าทางมันก็จะเงียบไปเอง แต่ก็ต้องเช็คดูสภาพของจานด้วยว่ามันมีสภาพเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือเปล่าด้วยนะครับ
(แต่ถ้ารถคันอื่นที่ใช้จานและผ้าเบรครุ่นเดียวเหมือนกันกับเรา แต่ของเคีาไม่หอน อันนี้ก็ต้องพิจารณาเป็นอีกประเด็นนึงครับ)มีแถม.... เอามาประกอบให้อ่านกันเล่นๆ ไม่ได้มาโฆษณา ใครสนใจก็ไปหาซื้อกันเองนะครับ
ผ้าเบรค Brembo Semi-Metallic ทนความร้อนได้สูงถึง650องศาเซลเซียส มีความฝืดสูงถึงระดับ FF ราคาชุดละ 1,150บาท (มีแผ่นshimสีแดงที่ด้านหลังผ้าเบรค)
ผ้าเบรค Brembo low-metallic ทนความร้อนได้สูงถึง550องศาเซลเซียส มีความฝืดสูงถึงระดับ FE (ไม่มีแผ่นชิม)
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า แต่ไม่เหมาะสำหรับนำไปติดตั้งเพื่อใช้ในการแข่งขัน (feeling ในการเบรก คล้ายกับ ของ Bendix MetalKing คือยิ่งร้อนยิ่งจับ-ยิ่งหนึบ แต่จะต่างกันตรงที่ฝุ่นน้อยกว่าและเบรกได้ดี ที่อุณหภูมิต่ำกว่า ไม่ต้องรอให้ร้อนเหมือน MetalKing จุดด้อยก็มี คือต้องทำBending-inผ้าเบรค นานกว่ายี่ห้ออื่นหน่อย)
ข้อแนะนำ ในการทำBending-In (RUN-IN ผ้าเบรก) สำหรับกรณีเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่
(ตรงนี้ถ้ามีอะไรไม่ถูกต้องก็แย้งกันมาได้นะครับ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมครับ)1.ขับรถยนต์ด้วยความเร็วประมาณ 60 km/h.
2.เหยียบเบรกอย่างนุ่มนวล เพื่อที่ชลอความเร็วลงมาที่ 20 km/h. โดยไม่ต้องหยุดรถ
3.ทำตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 ซ้ำกันอย่างน้อยประมาณ 10-15ครั้ง (ทิ้งระยะเวลาในการเบรค1-2นาทีต่อครั้ง)
เพื่อให้หน้าสัมผัสของผ้าเบรกและจานเบรกค่อยๆแนบกันอย่างสนิทโดยไม่ให้ผ้าเบรคร้อนเร็วจนเกินไป
4.ข้อสำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้เบรคอย่างรุนแรงในระยะ 400-500กม.แรก หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่
...หากผู้ใช้รถยนต์ไม่ได้ทำการ Bedding-In อย่างถูกต้อง หรือ มีการเบรกอย่างรุนแรงในช่วงเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ จะทำให้เกิดผลเสียต่อประสิทธิภาพเบรค เนื่องจากจะทำให้เกิดความร้อนสูงบริเวณผิวหน้าผ้าเบรก สารเรซินที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งในเนื้อผ้าเบรกเกิดการไหม้ ซึ่งจะผลทำให้เกิดอาการเบรก ลื่น มีเสียงดัง จานเบรกเป็นรอย มีฝุ่น และ ทำให้เกิดการอาการเบรค Fade ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพในการเบรคที่ดีที่สุดและความปลอดภัยในการใช้รถยนต์แล้วนั้น ผู้ใช้รถยนต์ควรให้ความสำคัญในการทำ Bedding-In ผ้าเบรคอย่าถูกต้อง ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่....