ภาค 4อะไหล่พร้อม นัดโรงกลึงมาส่ง พร้อม ล้างชิ้นส่วนรอห่อ พลาสติกกันฝุ่นอย่างดี
โทรศัพท์ดังขึ้นมา เจ้าของรถโทรเข้ามา พี่ผมอยากได้รถวันอังคารครับ มีงาน (Auto Salon) ผมต้องใช้รถครับ (บูท?เจ้าของรถอยู่ตรงกลางๆ ชื่อภาษาอังกฤษ 3 ตัว ใครทีไปมา
)
ผมจะพยามยามครับ นัดโรงกลึงมาส่งเครื่องวันเสา เย็นเริ่ม เช็คงาน ข้อเหวี่ยง ราว ชาร์ฟ ต่างๆ ที่โรงกลึงทำมาโชว์หรือไม่ (งานนี้ต้องไม่มียกรอบ 2 แน่นอน)
ชมภาพปลากรอบ เปลี่ยนเทียบ ตอนผ่าตัดออกมา หลัง รับงานมาจากโรงกลึง
อันนี้ ข้อเหวี่ยงครับ
ดูจากสถานะการแล้ว ถูกเงื่อนไขเวลามา กดดันแล้ว
เป่านกหวี๊ด เรียกกำลังเสริมดีกว่า วันอาทิตย์เปิด โอเลี้ยง ต้องสตาท์เครื่องวันจันทร์ Run In 8 ชม. จะเหลือเวลาให้ทดสอบป่าวเนี๊ยะ
อาทิตย์เช้า กำลังเสริมพร้อม ลุย
ผ่านไป 6 ชม.ประกอบเสร็จ ยกลงเลย ตอน 5 โมงเย็น
เป้าหมายคือวันจันทร์สตาร์ท Run IN งานเร็วกว่ากำหนด (เพราะมีตัวช่วย ขวดน้ำตาล โลโก้เจ้าป่าข้างขวด)
กำลังเสริมหมดแรง เพราะขวดหมด กลับบ้านตอน 1 ทุ่ม ผมทำต่อ สตาร์ทได้ตอน 2 ทุ่ม
พบน้ำมันหยดที่ ออยเครื่อง ตัวนี้ เซ็งแล้ว งานนี้
บทวิเคราะห์ ปะเก็นชุดใหญ่ไม่มี โอริงมาให้ แต่ดันหวังดีถอดล้างซะสะอาดเชียว ใส่ของเดิมกลับคงไม่เข้ารูป น้ำมันออก
คีสั่งอะไหล่ตอน 2 ทุ่มเลยละกัน มันก็จะได้เป็นกระบวนการด่วนเช้าจันทร์พอดี - บ่ายวันจันทร์น่าจะได้ของ
เมื่อสั่งรับโอริงแล้วรีบประกอบทันทีเพื่อจะได้ Run In ทดสอบความร้อน
เป็นไปตามเป้าหมาย สตาร์ท Run In เย็นวันจันทร์ สตาร์ท 18.00 - 01.00 น. ให้ลูกน้องที่นอนเฝ้าอู่ เตื่อนมาดับเครื่อง พร้อมตรวจคราบน้ำมันหยด
ดูน้ำในกระป๋อง
เช้าวันอังคาร ทดสอบวิ่งจริง
บทสรุปออกมาตามภาพปรากรอบ
เริ่มนิ่มๆก่อน แหวนยังใหม่อยู่ เย็นไว้ โยม เย็นไว้โยม ม้าอย่างเพิ่ง ดีด
ความร้อน ผ่าน
ขอจับกราฟหน่อยดีกว่า ดูซิ จะขึ้น หรือลง ความเร็ว 60-100 กม. เส้นวงแหวนกาญจนา ออก บางนาตราดไปกลับ 60 กม.
กราฟสวยมาก ไม่ขึ้น ภูเขา
กลับอู่มารอเครื่องเย็น แล้วพาลูกรักเจ้ารถของไปอาบน้ำก่อน สกปรกมา 1 อาทิตย์แล้ว
อาบน้ำเสร็จ กลับอู่มารอพ่อมารับละกัน ก่อนเจอพ่อ ก็สตาร์รอเลยดีกว่า 1 ชม.ผ่านไปรอบเดินเบา
จับกราฟด้วย
นิ่งครับไม่ขึ้นไม่ตก
หลังผ่านไป1 วัน ลูกค้าวิ่งใช้งาน ผมขออย่าให้เกิน 120 นะครับ เดี๋ยวมานั่งยิ้มกันอีกที่อู่
ผลการคุยโต้ตอบทาง Line คือ
จบกระบวนการ เหลือวิ่ง 1000 กม. เข้ามาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เทพอีกครั้ง เอาน้ำมัน Run In ทิ้ง ตรวจสอบชิ้นส่วนความบกพร่องของเครื่องยนต์อีกครั้ง
บทวิเคราะห์ของนิยายเรื่องนี้ (ส่วนตัวครับ+จับด้วยมือ+เห็นด้วยตาของจริง)
1.เจ้าของมือแรก ดาวน์รถป้ายแดง(แถวภาพตะวันออกเฉียงเหนือ) มาวิ่งใช้งานจนครบระยะ 10,000 กม. เข้าศูนย์เช็คระยะ เจอราคาค่าบริการไป เลยไม่เข้าอีกเลย
วิ่งจนรถมีปัญหา(ความร้อนหรือน้ำมันเครื่องแห้งไม่แน่ใจ)เข้าอู่ อู่เสนอราคาซ่อมไม่ไหวราคาสูง ให้ให้ประกอบแบบสตาร์ทติด(เพราะกาว+เศษผ้าในเครื่อง)พอแค่นั้น ค่าใช้จ่ายถูก
แล้วปล่อยให้รถถูกยึด มีผู้ไปประมูลออกมา ใส่ชลอม ล้างน้ำตั้งขายอีกรอบ
2.รถมีปัญหาถูกยึดมาแบบวิ่งไม่ได้ ออกประมูลตามสภาพเต็นท์รถรู้งาน ต้มยำเรียบร้อยในราคาเบาๆ สตาร์ทได้
ราคาตั้งขาย เบาๆ ไม่มีประกัน วัดใจน้ำบ่อหน้าเอา
นี่คือข้อคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นครับ เพื่อเป็นความรู้เฉพาะทางเท่านั้นครับ
การเขียนรีวิว ครั้งนี้มีเจตนา คือ1.โปรดสอบรถ + เครื่องอย่างละเอียด ก่อนตัวสินใจซื้อ หรือไม่แน่ใจ สามารถเช็คประวัติ จากการทำประกันภัยได้
2. ในกรณีที่สามารถนัดเจอเพื่อโอนหรือมัดจำ ถ้าเป้นไปได้นัดไปที่ๆ มี Lift ยกรถดูใต้ท้อง เพื่อตรวจเช็คใต้ท้อง ตัวถัง คัททรี
3. ขอให้ตั้งสมมุตติฐาน ไว้ก่อนกรณี ในเงื่อนไข ราคา เลขไมล์ สภาพรถ ไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่
4. เพื่อเป็นความรู้ สำหรับ เสือหมอบที่กำลังมองหา Pajero Sport มือสองมาครอบครอง
เพราะตอนนี้ รถสภาพดีๆ ราคาถูกเยอะ ถ้าเทียบกับคุณภาพรถคู่แข่ง
5. การดูเลข ตัวถังรถมือ 2 มีคร่าวๆ ดังนี้ครับ
5.1 KG4W เครื่อง 2500 2WD
5.2 KH4W เครื่อง 2500 4WD
5.3 kH8W เครื่อง 3200 4WD
6. สัญญาซื้อขาย (เน้น)นิดนึง ในสิ่งที่ผู้จะซื้อสงสัยในตัวรถ ครับ