ผู้เขียน หัวข้อ: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง  (อ่าน 41508 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 00:56:14 »
ขอบคุณพี่นะกับพี่หยกนะคะที่แนะนำกิจกรรมมิตติ้งวันที่ 28 ถ้ามีโอกาสที่สะดวกก็คงจะได้ไปนะคะ แต่ดูจากสถานการณ์ของตัวเองแล้วคงต้องขอพลาดโอกาสนี้ไปก่อนค่ะ

ส่วนเรื่องศูนย์บริการปกติปุ้ยใช้บริการที่ศูนย์ตรงบางละมุงบ่อยที่สุดค่ะ ที่ชลบุรี 2 ครั้ง ศรีราชาครั้งนี้ครั้งแรก (เคยจะเข้าไปอยู่ครั้งนึงไม่ประทับใจมากเลยขับออกมาเลยค่ะ) แต่ตอนที่รถเสียอยู่ใกล้กับศูนย์ที่ศรีราชามากที่สุดเลยต้องใช้บริการที่นั่นค่ะ ศูนย์ตรงนาจอมเทียนก็มีคนแนะนำให้ไปแล้วเปิดใหม่ด้วยแต่ไกลไปค่ะ ขอบคุณพี่ทูตกับพี่ติงลี่ที่แนะนำนะคะ

ส่วนรถของปุ้ยตอนนี้ ได้โทรไปให้ช่างถ่ายรูปมาให้ตามคำแนะนำของพี่แล้ว แต่เค้าบอกว่าพอดีอะไหล่มาครบแล้ว ได้ทำการเปลี่ยน และเพิ่งประกอบเสร็จ กำลังจะเอารถออกไปลอง เป็นไงจะอัพเดทอีกทีนะคะ

ว่าจะเข้ามาตอบตั้งแต่บ่าย แต่ติดงานมากมายจนล่วงเลยมาป่านนี้ซะละ

รายละเอียดส่วนใหญ่พี่นะวิเคราะห์ไว้ให้แล้วนะครับ จากอาการที่มีไฟ engine show และมีไฟตัว D กระพริบ และโดยรวมแล้วรถเร่งไม่ขึ้น ... จากอาการคงมี 2 อย่างที่มีปัญหาอย่างที่ช่างได้วิเคราะห์ไว้แหละครับไม่ผิด สำหรับไฟ engine นั้นผมคาดว่าช่างคงเอาเครื่อง MUTIII ตรวจสอบ code แล้ว จึงสรุปว่ามอเตอร์ EGR มีปัญหา (ดูจาก code) เวลาในการเปลี่ยนมอร์เตอร์ EGR ไม่นาน เพราะอยู่ด้านบนของเครื่อง รื้อไม่เยอะ แต่ค่าตัวแพงครับ รถพี่จิรศิษฐ์เพิ่งเปลี่ยนไปก็ตกตัวนึงประมาณ 4-5 พัน ประมาณนั้น

ส่วนที่มีอาการไฟตัว D กระพริบนั้น ช่างก็สรุปตามอาการครับ การเจอตัว D กระพริบจะบ่งบอกถึงอาการโซลีนอยเกียร์เสีย หรือขัดข้อง หรือเปิดช้ากว่าปกติ ชิ้นส่วนที่ช่างถ่ายรูปมาให้ดูว่าถอดออกมาแล้วก็คือชิ้นนี้ครับ



มันคือตัวเกียร์ของน้องปาเรานี่แหละครับ อยู่ภายในอ่างเกียร์ใต้รถเรา จากรูปจะเห็นสายไฟ เจ้าสายไฟเหล่านี้แหละครับที่ต่อไปยังตัวโซลีนอยที่อยู่ภายใน ทำให้ที่ปิดและเปิดตามคำสั่งการเปลี่ยนเกียร์ของแต่ละเกียร์ เจ้าโซลีนอยพวกนี้ทำงานด้วยระบบ Magnetic คือให้แม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการจ่ายไฟฟ้าเข้าไปหามัน มีโอกาสนะครับที่จะเสื่อมสภาพหรือเสียได้ เท่าที่อ่านดูช่างศูนย์นี้ก็วิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วหละครับ เพียงแต่วิธีทดสอบดูเหมือนจะไม่ได้บอกมาทั้งหมด เพราะเจ้าโซลีนอยพวกนี้มันมีวิธีที่สามารถทดสอบได้อยู่ครับ โดยไม่ต้องรื้อออกมาทั้งแผงแบบที่ช่างถ่ายมาให้ดู

เนื่องจากเจ้าโซลีนอยพวกนี้มันทำงานด้วยระบบ Magnetic ดังนั้นการทดสอบสามารถทำได้โดยการต่อไฟเข้าตรงๆไปยังขั้วที่จ่ายไฟ (ขั้วเของเจ้าพวกสายไฟที่เห็นในรูปแหละครับ) เมื่อจ่ายไฟแล้วโซลีนอยจะทำงาน ซึ่งเท่าที่เคยสอบถามช่าง ช่างแจ้งว่าสามารถฟังจากเสียงการทำงานก็จะคาดได้ว่าโซลีนอยตัวไหนเสีย

ส่วนการเปลี่ยนนั้นผมเองไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยโดนเหมือนกัน แต่เท่าที่ดูเข้าใจว่าไม่ต้องรื้อออกมาทั้งแผงเหมือนกัน เพราะข้างๆตัวปลั๊กจะมีน็อตอยู่ คิดว่าถ้าถอดน็อตออกน่าจะถอดตัวโซลีนอยออกมาได้นะครับ จากรูปข้างล่างจะเห็นมีน็อตอยู่ข้างๆขั้วที่สายไฟเข้าไป (ประเด็นนี้ไม่ชัวร์นะครับ เป็นแค่ความเชื่อของผม แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์)

 

ดังนั้นเท่าที่ช่างศูนย์แจ้งอาการมานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว แต่การแกะเกียร์ออกมาหมดทั้งแผงดูจะเยอะไปหน่อยในความรู้สึกผม เพราะการแกะเกียร์ออกมาทั้งแผงแบบนั้นทำให้ต้องเปลี่ยนอะไหล่พวกประเก็นไปด้วย ถ้ามีวิธีที่ไม่ต้องยกแผงออกมาน่าจะทำให้ประหยัดเงินไปได้นิดนึง ส่วนเรื่องอะไหล่ที่ต้องสั่งและรอนั้นคิดว่าคงเป็นจริงๆตามนั้นครับ เพราะผมเคยสอบถามฝ่ายอะไหล่ของศูนย์มา อะไหล่พวกนี้ศูนย์จะไม่มีเก็บใน stock ครับ เพราะเป็นอาการที่พบเจอไม่บ่อย ดังนั้นหากมีลูกค้าเข้ามาค่อยสั่ง ทำให้ต้องรออะไหล่มาส่ง เสียเวลาไปพอสมควร

ส่วนอีกประเด็นที่ว่าจะมาโพสบอก แต่คงไม่ทันซะละ คือ ไหนๆรื้ออ่างเกียร์ออกมาแล้วจริงๆน่าจะเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ไปเลย เพราะรถก็วิ่งมาพอสมควรแล้ว หากเปลี่ยนได้เป็นดีที่สุดครับ ตัวกรองน้ำมันเกียร์ก็คือเจ้ากล่องพลาสติกสีดำๆ ที่อยู่ข้างใต้สายไฟในรูปแรกครับ

วันนี้พอดีผมเข้าไปเปลี่ยนเจ้ากรองน้ำมันเกียร์นี่มาเหมือนกัน เลยมีโอกาสถ่ายรูปมาให้ดู นี่คือของที่เบิกมาใหม่ พร้อม part no ครับ



ทีนี้มาดูว่าควรจะเปลี่ยนหรือเปล่า .... ให้ประวัติซักนิดคือ รถผมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 2 หมื่นกม. บ่อยกว่าที่กำหนดไว้ในคู่มือเท่านึง เพราะปกติจะเปลี่ยนทุก 4 หมื่นกม. ดังนั้นผมค่อนข้างมั่นใจว่าระบบเกียร์รถผมค่อนข้างสะอาด รูปแรกเอารูปน้ำมันเกียร์ที่่ถ่ายออกมาให้ดู ใสแจ๋ว นี่คือสภาพน้ำมันเกียร์ที่ใช้มาเกือบ 2 หมื่นกม.



จริงๆผมก็ไม่คิดว่ากรองน้ำมันเกียร์ผมจะสกปรกนะครับ แต่พอรื้อมาแล้วก็มาเห็นแบบนี้



ลองเทียบกับรูปข้างล่างดูนะครับ รูปล่างนี่คือของใหม่



จริงๆเห็นรถพี่ปุ้ยรื้ออ่างออกมาแล้ว ว่าจะโพสบอกว่าให้เปลี่ยนเจ้ากรองนี่ไปเลย เพราะก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าของเดิมดูแลการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อย่างไรบ้างเหมือนกันนะครับ แต่คงไม่ทันแระ .... เลยมาเล่าให้ฟังเล่นๆละกันนะครับ

 :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 01:23:32 »
พี่ตาม ปกติกรองเกียร์ต้องเปลี่ยนที่กี่กิโลครับ
พอดีอาทิตย์หน้าจะเอารถไปเปลี่ยนประเก็นเกียร์ที่ต่อกับหลังเครื่องมันมีน้ำมันซึม
จะได้เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยเลย ตอนนี้รถผมวิ่งมาประมาณ85,000โลแล้วครับ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ พีชิน ปาดำ บุรีรัมย์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,258
  • Like: 48
  • เพศ: ชาย
  • ก็แค่ชีวิตที่ขาดหวานไม่ได้
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 07:12:09 »
ขอบคุณพี่ตามครับ ได้ความรู้เพิ่มแต่เช้าเลย  :sd23:
มีภูมิลำเนา   อยู่  นครราชสีมา
มีภรรยา       อยู่  บุรีรัมย์
มีงานประจำ  อยู่  อุบลราชธานี
มีที่พักผ่อน   อยู่  ปา'มาเนีย

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 07:28:02 »
พี่ตาม ปกติกรองเกียร์ต้องเปลี่ยนที่กี่กิโลครับ
พอดีอาทิตย์หน้าจะเอารถไปเปลี่ยนประเก็นเกียร์ที่ต่อกับหลังเครื่องมันมีน้ำมันซึม
จะได้เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยเลย ตอนนี้รถผมวิ่งมาประมาณ85,000โลแล้วครับ
ขอบคุณครับ

จริงๆไม่มีกำหนดว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่นะครับพี่หนึ่ง ตามหลักการคือให้เปลี่ยนเมื่อต้องทำความสะอาดเกียร์ ส่วนเมื่อไหร่ควรทำความสะอาดเกียร์นั้น หลักการให้สังเกตุจากสภาพของน้ำมันเกียร์เมื่อครบอายุเปลี่ยนถ่าย คือถ้าตอนครบรอบต้องเปลี่ยนถ่ายแล้วน้ำมันเกียร์ออกเป็นสีดำก็ควรถอดอ่างเกียร์ออกมาล้างได้แล้ว แต่ถ้ายังใสๆอยู่ก็ไม่จำเป็นครับ

ส่วนเคสพี่หนึ่งซีลท้ายเครื่องรั่ว ตอนเปลี่ยนซีลต้องยกเกียร์ลง จะให้ช่างถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมาทำความสะอาด+เปลี่ยนกรองไปเลยก็ดีครับ ไหนๆก็รื้อออกมาแล้วครับ

 :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ หนู [นินจา]

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 593
  • Like: 11
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 07:37:32 »
 :sd23: ขอบคุณครับพี่ตาม  :sd23: ได้ความรู้มากมายเลย  :L2753:
"เราทุกคน สามารถมอบความสุข...ให้กับตนเองและผู้อื่นได้...
ขอแค่เรา...เลือกที่จะเป็นผู้ให้ โดยไร้เงื่อนไข แม้แต่คำว่า ขอบคุณ ".......

ออฟไลน์ ปุ้ย Pui WB

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 15
  • Like: 1
  • เพศ: หญิง
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 08:58:30 »
ขอบคุณพี่ตูมตามมากๆเลยนะคะ สำหรับความรู้นี้ ขอบพระคุณมากๆ อ่านแล้วทำให้ปุ้ยสบายใจมาก ว่าช่างเค้ามาถูกทางแล้ว พี่ตูมตามพูดมาตรงกับช่างเค้าบอกเป๊ะๆเลยค่ะ ทั้งเรื่องมอเตอร์ EGR ราคาอะไหล่ แต่ถ้าช่างเค้าเช็คและเปลี่ยนโซลินอยด์เหมือนที่พี่ตูมตามบอกน่าจะดี เพราะไม่ต้องรื้อกันออกมาทั้งแผงซึ่งคงไม่ต้องเสียเวลากันมากขนาดนี้

ส่วนเรื่องกรองน้ำมันเกียร์ พออ่านจบปุ๊บก็รีบโทรไปที่ศูนย์เลยค่ะ พนักงานบอกว่า ช่างเค้าบอกต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่ติดที่ว่าตอนนี้ของขาดสต๊อกทั้งที่มิตซูมอเตอร์ที่กรุงเทพด้วย กว่าจะได้ของก็คงประมาณวันศุกร์หรือวันเสาร์ นี่หนูเร่งให้พี่โดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ย เหมือนแบบว่าเป็นพระคุณมาก 55 และที่บอกเอารถไปลองเมื่อวานเดี๋ยวขอถามช่างก่อนว่าเป็นไงแล้วจะโทรมาบอก ปุ้ยเลยถามว่างั้นพอจะกำหนดวันรับรถให้ได้มั้ย บอกว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้าหรือก็ช้ากว่านั้น กำหนดไม่ได้ เซ็ง!!!! ดูแล้วเหมือนเสียเวลากับการรออะไหล่ เหมือนแบบว่าค่อยสั่งของไปทีละอย่างรึเปล่าค่ะอย่างงี้ แล้วทีแรกก็ไม่ได้แจ้งปุ้ยด้วยนะคะว่าจะเปลี่ยนกรองให้ด้วย ถ้าไม่โทรไปถามก็ไม่รู้ ใจจริงอยากคุยกับช่างเลยเหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ต้องฝากบอกกันไปกันมา ปุ้ยบอกให้เค้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับเฟืองท้ายให้ด้วยเลยค่ะไหนๆ ก็ทำแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนคราวหน้าอีก

รอฟังข่าวอยู่ค่ะว่าที่เอารถไปลองเมื่อวานเป็นไงมั่ง



ออฟไลน์ เล็ก sriracha

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 38
  • Like: 0
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 09:05:01 »
รอเป็นกำลังใจครับ  ผมอยู่ศรีราชา วิ่งมา 50000 โล ใช้บริการศูนย์นี้มาตลอด ศูนย์เล็กไปหน่อย แต่ก็โอเค นะ แต่ก็แค่เปลี่ยนถ่ายตามระยะ แต่ผมจะไปยืนดูช่างทำงานด้วยห่างๆ มีระแวงเหมือนกัน  ;D

ออฟไลน์ บอย 6999

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 410
  • Like: 14
  • เพศ: ชาย
  • นนทบุรี
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 09:29:49 »
จริงๆไม่มีกำหนดว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่นะครับพี่หนึ่ง ตามหลักการคือให้เปลี่ยนเมื่อต้องทำความสะอาดเกียร์ ส่วนเมื่อไหร่ควรทำความสะอาดเกียร์นั้น หลักการให้สังเกตุจากสภาพของน้ำมันเกียร์เมื่อครบอายุเปลี่ยนถ่าย คือถ้าตอนครบรอบต้องเปลี่ยนถ่ายแล้วน้ำมันเกียร์ออกเป็นสีดำก็ควรถอดอ่างเกียร์ออกมาล้างได้แล้ว แต่ถ้ายังใสๆอยู่ก็ไม่จำเป็นครับ

ส่วนเคสพี่หนึ่งซีลท้ายเครื่องรั่ว ตอนเปลี่ยนซีลต้องยกเกียร์ลง จะให้ช่างถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมาทำความสะอาด+เปลี่ยนกรองไปเลยก็ดีครับ ไหนๆก็รื้อออกมาแล้วครับ

 :L4399:

ได้ความรู้เพิ่มจากพี่ตามอีกแล้ว ขอเก็บไปไว้เป็นข้อมูลครับ  :L2900:
สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง

ออฟไลน์ พี่จิรศิษฏ์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 178
  • Like: 36
  • เพศ: ชาย
  • มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสรรเสริญมีนินทา
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 09:49:28 »
ว่าจะเข้ามาตอบตั้งแต่บ่าย แต่ติดงานมากมายจนล่วงเลยมาป่านนี้ซะละ

รายละเอียดส่วนใหญ่พี่นะวิเคราะห์ไว้ให้แล้วนะครับ จากอาการที่มีไฟ engine show และมีไฟตัว D กระพริบ และโดยรวมแล้วรถเร่งไม่ขึ้น ... จากอาการคงมี 2 อย่างที่มีปัญหาอย่างที่ช่างได้วิเคราะห์ไว้แหละครับไม่ผิด สำหรับไฟ engine นั้นผมคาดว่าช่างคงเอาเครื่อง MUTIII ตรวจสอบ code แล้ว จึงสรุปว่ามอเตอร์ EGR มีปัญหา (ดูจาก code) เวลาในการเปลี่ยนมอร์เตอร์ EGR ไม่นาน เพราะอยู่ด้านบนของเครื่อง รื้อไม่เยอะ แต่ค่าตัวแพงครับ รถพี่จิรศิษฐ์เพิ่งเปลี่ยนไปก็ตกตัวนึงประมาณ 4-5 พัน ประมาณนั้น

 :L4399: :L4399:

ขอบคุณพี่ตามที่ให้เครดิตผม ว่าจะแชร์ประสบการณ์แต่ด้วยไม่ถนัดในการเรียบเรียงความ ของผมเปลี่ยนเนื่องจากรถได้ล้างท่อร่วมและช่างได้ถอดมอเตอร์ EGR ออกมาพบว่ามันเสีย จึงแนะนำให้เปลี่ยน แต่ว่าไม่มีอาการบ่งบอกหรือแสดงสัญลักษณ์บนหน้าปัดไฟ Engine  สำหรับมอเตอร์ EGR ที่ถอดเปลี่ยนออกมานั้น เห็นว่าพี่ป๊อปขอและส่งไปให้พี่ทศศึกษาวิเคราะห์ ถ้าอย่างไรก็ขอให้พี่ทศช่วยถ่ายรูปมาดูประกอบด้วยก็ดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 กันยายน 2014, 09:53:00 โดย พี่จิรศิษฏ์ »

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 10:10:19 »
ขอบคุณพี่ตูมตามมากๆเลยนะคะ สำหรับความรู้นี้ ขอบพระคุณมากๆ อ่านแล้วทำให้ปุ้ยสบายใจมาก ว่าช่างเค้ามาถูกทางแล้ว พี่ตูมตามพูดมาตรงกับช่างเค้าบอกเป๊ะๆเลยค่ะ ทั้งเรื่องมอเตอร์ EGR ราคาอะไหล่ แต่ถ้าช่างเค้าเช็คและเปลี่ยนโซลินอยด์เหมือนที่พี่ตูมตามบอกน่าจะดี เพราะไม่ต้องรื้อกันออกมาทั้งแผงซึ่งคงไม่ต้องเสียเวลากันมากขนาดนี้

ส่วนเรื่องกรองน้ำมันเกียร์ พออ่านจบปุ๊บก็รีบโทรไปที่ศูนย์เลยค่ะ พนักงานบอกว่า ช่างเค้าบอกต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่ติดที่ว่าตอนนี้ของขาดสต๊อกทั้งที่มิตซูมอเตอร์ที่กรุงเทพด้วย กว่าจะได้ของก็คงประมาณวันศุกร์หรือวันเสาร์ นี่หนูเร่งให้พี่โดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ย เหมือนแบบว่าเป็นพระคุณมาก 55 และที่บอกเอารถไปลองเมื่อวานเดี๋ยวขอถามช่างก่อนว่าเป็นไงแล้วจะโทรมาบอก ปุ้ยเลยถามว่างั้นพอจะกำหนดวันรับรถให้ได้มั้ย บอกว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้าหรือก็ช้ากว่านั้น กำหนดไม่ได้ เซ็ง!!!! ดูแล้วเหมือนเสียเวลากับการรออะไหล่ เหมือนแบบว่าค่อยสั่งของไปทีละอย่างรึเปล่าค่ะอย่างงี้ แล้วทีแรกก็ไม่ได้แจ้งปุ้ยด้วยนะคะว่าจะเปลี่ยนกรองให้ด้วย ถ้าไม่โทรไปถามก็ไม่รู้ ใจจริงอยากคุยกับช่างเลยเหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ต้องฝากบอกกันไปกันมา ปุ้ยบอกให้เค้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับเฟืองท้ายให้ด้วยเลยค่ะไหนๆ ก็ทำแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนคราวหน้าอีก

รอฟังข่าวอยู่ค่ะว่าที่เอารถไปลองเมื่อวานเป็นไงมั่ง

ไม่อยากจะบอกว่าที่มันขาดสต็อกก็เพราะบ้านปามาเนียเรานี่แหละครับ  :sd42: :sd42: :sd42: เหมือนตอนวาล์วน้ำขาดตลาดยังงัยยังงั้น  :sd42: :sd42: :sd42: จริงๆมันไม่ได้ขาดตลาดหรอกครับ มันมีสต็อกอยู่ แต่ไม่มีศูนย์ไหนสั่งไปเก็บไว้ ขนาดร้านอะไหล่ใหญ่ๆแถววรจักรยังมีเก็บไว้แค่ไม่กี่อัน ดังนั้นงานนี้ต้องผ่านให้ฝ่ายอะไหล่สั่งตรงจาก MMTH ซึ่งต้องใช้เวลาในการ process order พอสมควรครับ ยิ่งเป็นศูนย์เล็กบางทีต้องสั่งผ่านศูนย์ใหญ่จะยิ่งนานเข้าไปอีก เช่นศูนย์ที่ผมเข้าประจำเป็นศูนย์เล็ก ต้องสั่งผ่านศูนย์ที่ใหญ่กว่าในเครือเดียวกัน เจออะไหล่แบบนี้ก็น่าจะต้องรอประมาณ 2-3 วันครับกว่าของจะมา แต่ถ้าเป็นศูนย์ใหญ่สั่งวันนี้รุ่งขึ้นก็มา

ราคาค่าอะไหล่ตัวนี้หลายบาทอยู่นะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะราวพันกลางๆ นะ ถ้าศูนย์ไม่มีส่วนลดราคาอาจไปถึงราวๆเกือบ 2 พัน แนะนำว่าให้พี่ปุ้ยกำชับศูนย์ให้เก็บศากของเดิม + packaging ของใหม่ที่มี Part number ติดอยู่ ไว้ให้ดูต่างหน้าด้วยนะครับ ป้องกันไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวกรองใหม่ระเหยหายไป  :sd42: :sd42: :sd42: กรณี motor EGR ก็เช่นกันนะครับ เหมือนกัน ขอซากของเดิม + Packaging ของใหม่ที่มี Part Number ติดอยู่มาด้วยครับ

อีกอย่างที่อยากแนะนำเวลาที่น้องปาต้องไปจอดนอนเข้า ICU อยู่โรงพยาบาลแบบนี้ หากพี่ปุ้ยมีเวลาอยู่บ้าง แวะไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกันนิดนึง  :sd42: :sd42: :sd42: จริงๆคือเข้าไปดูมันซะหน่อยครับ เป็นโอกาสที่เราจะได้เข้าไปถามโน่นถามนี่ มีอะไรที่สงสัยจะได้ถามช่าง ถ้าไม่แน่ใจก็จะได้ถ่ายรูปมาปรึกษากันในนี้ได้ครับ ถ้าไปตอนรับรถ ทุกอย่างประกอบจบแล้ว ทีนี้ข้างในเป็นยังงัยไม่มีใครเห็นละครับ

 :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ หยก วาฬน้ำเงิน

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,467
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 11:10:48 »
ขอบคุณพี่ตูมตามมากๆเลยนะคะ สำหรับความรู้นี้ ขอบพระคุณมากๆ อ่านแล้วทำให้ปุ้ยสบายใจมาก ว่าช่างเค้ามาถูกทางแล้ว พี่ตูมตามพูดมาตรงกับช่างเค้าบอกเป๊ะๆเลยค่ะ ทั้งเรื่องมอเตอร์ EGR ราคาอะไหล่ แต่ถ้าช่างเค้าเช็คและเปลี่ยนโซลินอยด์เหมือนที่พี่ตูมตามบอกน่าจะดี เพราะไม่ต้องรื้อกันออกมาทั้งแผงซึ่งคงไม่ต้องเสียเวลากันมากขนาดนี้

ส่วนเรื่องกรองน้ำมันเกียร์ พออ่านจบปุ๊บก็รีบโทรไปที่ศูนย์เลยค่ะ พนักงานบอกว่า ช่างเค้าบอกต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่ติดที่ว่าตอนนี้ของขาดสต๊อกทั้งที่มิตซูมอเตอร์ที่กรุงเทพด้วย กว่าจะได้ของก็คงประมาณวันศุกร์หรือวันเสาร์ นี่หนูเร่งให้พี่โดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ย เหมือนแบบว่าเป็นพระคุณมาก 55 และที่บอกเอารถไปลองเมื่อวานเดี๋ยวขอถามช่างก่อนว่าเป็นไงแล้วจะโทรมาบอก ปุ้ยเลยถามว่างั้นพอจะกำหนดวันรับรถให้ได้มั้ย บอกว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้าหรือก็ช้ากว่านั้น กำหนดไม่ได้ เซ็ง!!!! ดูแล้วเหมือนเสียเวลากับการรออะไหล่ เหมือนแบบว่าค่อยสั่งของไปทีละอย่างรึเปล่าค่ะอย่างงี้ แล้วทีแรกก็ไม่ได้แจ้งปุ้ยด้วยนะคะว่าจะเปลี่ยนกรองให้ด้วย ถ้าไม่โทรไปถามก็ไม่รู้ ใจจริงอยากคุยกับช่างเลยเหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ต้องฝากบอกกันไปกันมา ปุ้ยบอกให้เค้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับเฟืองท้ายให้ด้วยเลยค่ะไหนๆ ก็ทำแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนคราวหน้าอีก

รอฟังข่าวอยู่ค่ะว่าที่เอารถไปลองเมื่อวานเป็นไงมั่ง

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ผมพบเวลาเอารถเข้าศูนย์คือการสื่อสารระหว่างเราเจ้าของรถกับคนรับรถซึ่งเป็นฝ่ายธุรการแล้วส่งต่อข้อมูลไปยังช่างซึ่งเป็นฝ่ายเทคนิค ยังไงๆผมก็ไม่เชื่อว่าคนธุรการจะสื่อสารได้ครบถ้วนตรงตามที่เราพูด 100% เป๊ะๆหรอกครับ ดังนั้นทุกครั้งเวลาเข้าศูนย์แรกๆผมมักจะเขียนหรือพิมพ์อาการที่ตรวจพบพร้อมสิ่งที่อยากจะให้ช่างตรวจเช็คและแก้ไขลงในกระดาษเตรียมเอาไว้ก่อน เวลาเข้าศูนย์เจ้าหน้าที่ธุรการมาถามว่าวันนี้มาทำอะไรค๊ะ ผมก็จะเอากระดาษที่เตรียมมายื่นให้เขาไปเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการจะสื่อให้กับช่างจะถูกบรรจุอยู่ในนั้นอย่างครบถ้วนตรงตามที่เราอยากจะสื่อ เพราะหลายๆครั้งพบว่าเรายอมเสียเวลาเล่าอาการไปประมาณ 5 นาที ธุรการรับรถเขียนลงไปในใบรับรถแค่คำเดียว เจออย่างนี้เข้าไปงงเลยครับ

แต่หลังๆมาก็เกิดไม่มั่นใจว่าธุรการเขาจะเอากระดาษของเราแนบไปกับใบสั่งงานหรือเปล่าเพราะไม่ได้เห็นตอนเขาส่งมอบงานต่อกัน อีกอย่างผมไม่อยากเสียเวลามานั่งเขียนอธิบายอาการแล้วช่างอาจจะไม่ได้อ่านหรือไม่อยากจะอ่านสิ่งที่ผมเขียน ผมเลยเปลี่ยนเป็นขอคุยกับหัวหน้าช่างเลย อธิบายในสิ่งที่เราพบและรับรู้มาให้ช่างฟังเลย อย่างน้อยก็มีช่าง 1 คนในศูนย์ที่ได้รับรู้ความต้องการของเราแบบ 100% ไม่ต้องผ่านธุรการอีกต่อไป แต่ก็อย่างที่พี่ตูมตามได้แจ้งข้อมูลไว้แล้วนั่นแหล่ะครับว่าอย่าไปไว้ใจศูนย์มากเพราะเคยมีคนผิดหวังมามากแล้ว เป็นไปได้ก็เข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเองและขอหลักฐานทุกอย่างกลับมาด้วยจะดีที่สุดครับ เพื่อเป็นข้อมูลครับ

 :L2736:

Let's rest in Pa-Mania's style......!!!

ออฟไลน์ เดียว ณัฐพงษ์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 670
  • Like: 22
  • เพศ: ชาย
  • ล้มได้ก็ลุกได้
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 11:26:19 »
เข้ามาเอาใจช่วยพี่ปุ้ยให้หายไวๆนะครับ  :sd27:

แล้วมาอ่านได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะเชียว  :L4399: :L4399:
นอนน้อย แต่ 100%

ออฟไลน์ สจ๊วต (stewart)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 290
  • Like: 17
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 11:31:53 »
ได้ข้อคิดอย่างนึง จากเคสพีปุ้ยอ่ะ

จะคว้ารถมือสองมาครอบครองนี้ ต้องหาผู้รู้จริงๆ ไปช่วยกันดู

ผมเดาว่า ปัญหา น่าจะมีมาก่อน แล้ว ก่อนพี่ปุ้ย ครอบครองรถคันนี้  มาจ๊ะเอ๋ ที่เดียว 2  เรื่อง ทั้ง egr ทั้ง solinoid อะไรจะเฮง ขนาดนั้น

เอาใจช่วยครับ อย่าพึ่งเซ็งมาก ค่อยเรียนรู้กันไปกับรถคันนี้ไป เดี๋ยวจะรักมันมากขึ้น

พี่ๆ บ้านนนี้ เจอกันมาหลายๆ เคส เก่งกว่า ช่างศูนย์ เสียอีก

เอาปัญหามาเล่าแล้ว ได้คำตอบกับไปชัดเจน แน่นอน

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 11:50:37 »
จริงๆไม่มีกำหนดว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่นะครับพี่หนึ่ง ตามหลักการคือให้เปลี่ยนเมื่อต้องทำความสะอาดเกียร์ ส่วนเมื่อไหร่ควรทำความสะอาดเกียร์นั้น หลักการให้สังเกตุจากสภาพของน้ำมันเกียร์เมื่อครบอายุเปลี่ยนถ่าย คือถ้าตอนครบรอบต้องเปลี่ยนถ่ายแล้วน้ำมันเกียร์ออกเป็นสีดำก็ควรถอดอ่างเกียร์ออกมาล้างได้แล้ว แต่ถ้ายังใสๆอยู่ก็ไม่จำเป็นครับ

ส่วนเคสพี่หนึ่งซีลท้ายเครื่องรั่ว ตอนเปลี่ยนซีลต้องยกเกียร์ลง จะให้ช่างถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมาทำความสะอาด+เปลี่ยนกรองไปเลยก็ดีครับ ไหนๆก็รื้อออกมาแล้วครับ

 :L4399:

ขอบคุณครับพี่ตาม เร็วๆนี้คงต้องแวะวรจักรหน่อย

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 13:08:19 »
ขอบคุณพี่ตูมตามมากๆเลยนะคะ สำหรับความรู้นี้ ขอบพระคุณมากๆ อ่านแล้วทำให้ปุ้ยสบายใจมาก ว่าช่างเค้ามาถูกทางแล้ว พี่ตูมตามพูดมาตรงกับช่างเค้าบอกเป๊ะๆเลยค่ะ ทั้งเรื่องมอเตอร์ EGR ราคาอะไหล่ แต่ถ้าช่างเค้าเช็คและเปลี่ยนโซลินอยด์เหมือนที่พี่ตูมตามบอกน่าจะดี เพราะไม่ต้องรื้อกันออกมาทั้งแผงซึ่งคงไม่ต้องเสียเวลากันมากขนาดนี้

ส่วนเรื่องกรองน้ำมันเกียร์ พออ่านจบปุ๊บก็รีบโทรไปที่ศูนย์เลยค่ะ พนักงานบอกว่า ช่างเค้าบอกต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่ติดที่ว่าตอนนี้ของขาดสต๊อกทั้งที่มิตซูมอเตอร์ที่กรุงเทพด้วย กว่าจะได้ของก็คงประมาณวันศุกร์หรือวันเสาร์ นี่หนูเร่งให้พี่โดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ย เหมือนแบบว่าเป็นพระคุณมาก 55 และที่บอกเอารถไปลองเมื่อวานเดี๋ยวขอถามช่างก่อนว่าเป็นไงแล้วจะโทรมาบอก ปุ้ยเลยถามว่างั้นพอจะกำหนดวันรับรถให้ได้มั้ย บอกว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้าหรือก็ช้ากว่านั้น กำหนดไม่ได้ เซ็ง!!!! ดูแล้วเหมือนเสียเวลากับการรออะไหล่ เหมือนแบบว่าค่อยสั่งของไปทีละอย่างรึเปล่าค่ะอย่างงี้ แล้วทีแรกก็ไม่ได้แจ้งปุ้ยด้วยนะคะว่าจะเปลี่ยนกรองให้ด้วย ถ้าไม่โทรไปถามก็ไม่รู้ ใจจริงอยากคุยกับช่างเลยเหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ต้องฝากบอกกันไปกันมา ปุ้ยบอกให้เค้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับเฟืองท้ายให้ด้วยเลยค่ะไหนๆ ก็ทำแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนคราวหน้าอีก

รอฟังข่าวอยู่ค่ะว่าที่เอารถไปลองเมื่อวานเป็นไงมั่ง

รออะหลั่ย มีสองความหมาย
- เปลี่ยนบ่อย จนของหมด มาไม่ทัน แสดงว่า ไม่เคยเช็ค Stock
- ไม่มีใครเปลี่ยนเลย จึงไม่ stock
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 14:19:24 »
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ผมพบเวลาเอารถเข้าศูนย์คือการสื่อสารระหว่างเราเจ้าของรถกับคนรับรถซึ่งเป็นฝ่ายธุรการแล้วส่งต่อข้อมูลไปยังช่างซึ่งเป็นฝ่ายเทคนิค ยังไงๆผมก็ไม่เชื่อว่าคนธุรการจะสื่อสารได้ครบถ้วนตรงตามที่เราพูด 100% เป๊ะๆหรอกครับ ดังนั้นทุกครั้งเวลาเข้าศูนย์แรกๆผมมักจะเขียนหรือพิมพ์อาการที่ตรวจพบพร้อมสิ่งที่อยากจะให้ช่างตรวจเช็คและแก้ไขลงในกระดาษเตรียมเอาไว้ก่อน เวลาเข้าศูนย์เจ้าหน้าที่ธุรการมาถามว่าวันนี้มาทำอะไรค๊ะ ผมก็จะเอากระดาษที่เตรียมมายื่นให้เขาไปเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการจะสื่อให้กับช่างจะถูกบรรจุอยู่ในนั้นอย่างครบถ้วนตรงตามที่เราอยากจะสื่อ เพราะหลายๆครั้งพบว่าเรายอมเสียเวลาเล่าอาการไปประมาณ 5 นาที ธุรการรับรถเขียนลงไปในใบรับรถแค่คำเดียว เจออย่างนี้เข้าไปงงเลยครับ

แต่หลังๆมาก็เกิดไม่มั่นใจว่าธุรการเขาจะเอากระดาษของเราแนบไปกับใบสั่งงานหรือเปล่าเพราะไม่ได้เห็นตอนเขาส่งมอบงานต่อกัน อีกอย่างผมไม่อยากเสียเวลามานั่งเขียนอธิบายอาการแล้วช่างอาจจะไม่ได้อ่านหรือไม่อยากจะอ่านสิ่งที่ผมเขียน ผมเลยเปลี่ยนเป็นขอคุยกับหัวหน้าช่างเลย อธิบายในสิ่งที่เราพบและรับรู้มาให้ช่างฟังเลย อย่างน้อยก็มีช่าง 1 คนในศูนย์ที่ได้รับรู้ความต้องการของเราแบบ 100% ไม่ต้องผ่านธุรการอีกต่อไป แต่ก็อย่างที่พี่ตูมตามได้แจ้งข้อมูลไว้แล้วนั่นแหล่ะครับว่าอย่าไปไว้ใจศูนย์มากเพราะเคยมีคนผิดหวังมามากแล้ว เป็นไปได้ก็เข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเองและขอหลักฐานทุกอย่างกลับมาด้วยจะดีที่สุดครับ เพื่อเป็นข้อมูลครับ

 :L2736:

ปัญหาลักษณะนี้แบบที่พี่หยกนำมาเป็นเคสตัวอย่าง  เกิดขึ้นได้ง่ายมากและเกิดโดยการกระทำที่ไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการให้บริการต่อลูกค้า  แต่ความผิดผลาดและการรับรู้เรื่องราวของภาษาที่ส่งถ่ายทอดกันมา   มันมีความหมายต่าง  ปัญหาแบบนี้เป็นเคสปกติในงานบริการที่มีขั้นตอนหลากหลายหากบริหารจัดการไม่ดี  ผู้มารับบริการได้เจอแน่ๆ

ยกตัวอย่าง :
ลูกค้า (issue inform) :  คือรถผมมันมีอาการ ......ขับแล้ววูบ.........  แล้ววันหนึ่ง .....x...... พอมาวันนี้ ......x..... เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง...x.....ผมเคยเอารถไปเช็คที่...x....ฯลฯ

พนักงานรับรถ ( รับงานและ action ) : จดรายละเอียดแบบสรุปส่งเคสให้พนักงานรับเรื่อง  " รถลูกค้าขับแล้วมีอาการวูบ  เป็นๆ หายๆ "

พนักงานรับเรื่อง ( เปิดงานและ action ) : หา Problem discription list เพื่อเปิดอาการ " เครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์  สะดุด"

ช่างรับงาน ( take action ) : test engine diagnostic , test run , check ทั่วไป , คาริเบชั่น >>>> close job

พนักงานรับรถ ( ส่งมอบรถ และ action ) : ขอบคุณลูกค้าตามสคริป  แนะนำให้ลูกค้ากดโหวตให้การบริการ  แนะนำศูนย์บริการ  แนะนำการตลาดตัวใหม่

ลูกค้า  :  รับรถออกจากศูนย์  สบายใจ


**ปัญหานี้ถ้าหายก็ ok  ถ้าไม่หายก็มาใหม่    ความเสี่ยงในอาการที่ไม่หายขาดมีพอสมควร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองเอาวิธีผมไปใช้ :  เมื่อเข้าศูนย์บริการแล้วมีเพิ่มเติมในอาการอื่นๆที่นอกเหนือการใช้งานปกติ

เมื่อพบพนักงานรับรถ  :  ผมพบปัญหาบางอย่างในรถ  แต่ก่อนเล่าอาการและทางคุณจะจดอาการผมขอให้เชิญเจ้าหน้าที่วันนี้ท้งหมดที่จะเกี่ยวข้องกับรถผม  เช่นคนขับรถเข้าไป   ช่างคนที่ซ่อม  หัวหน้าทีมชุดที่ซ่อม  พนักงานรับและส่งรถ  คนออกเอกสารรับงาน  ผมจะแจ้งรายละเอียดครั้งเดียวเพื่อช่วยลดการสื่อสารต่อในสิ่งที่ผมจะบอกให้ฟังนี้   ผมขอรบกวนก่อนเข้ารับการบริการด้วยครับ 


หากไปเจอศูนย์ที่ดีหน่อย  ถ้าไม่ทำแบบนี้   สิ่งที่อาจจะพบเจอ

1. เล่ายาวละเอียดยิบให้พนักงานรับรถ  แต่เขาไม่รู้เรื่องเทคนิคที่ดี
2. มีหวังได้เล่าอีกรอบกับคนออกเอกสาร  และตรวจทานเอกสาร
3. อาจจะมีแถมเล่ารอบที่ 3 กับช่างที่จะทำรถ
4. ก่อนเล่ารอบที่ 4 จะเริ่มมีอารมณ์นิดๆ และอาจจะเล่าไม่ครบเนื้อหาแบบตอนแรกกับหัวหน้าชุดซ่อม  ซึ่งคนนี้แหละที่จะแก้ปัญหาได้แต่อารมณ์เรามันขึ้นแล้ว    อาจจะใส่อารมณ์กับไอ้คนสุดท้ายนี้แหละ  ถามว่าเขาผิดอะไรเขาต้องมาซวยรับอารมณ์เราทั้งที่เขานี้แหละคือคนที่จะมาแก้ปัญหาตัวจริง

**นี่แหละครับ   คน  อารมณ์  ความรู้สึก  และอาการ
 


ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 15:25:28 »
ปัญหาลักษณะนี้แบบที่พี่หยกนำมาเป็นเคสตัวอย่าง  เกิดขึ้นได้ง่ายมากและเกิดโดยการกระทำที่ไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการให้บริการต่อลูกค้า  แต่ความผิดผลาดและการรับรู้เรื่องราวของภาษาที่ส่งถ่ายทอดกันมา   มันมีความหมายต่าง  ปัญหาแบบนี้เป็นเคสปกติในงานบริการที่มีขั้นตอนหลากหลายหากบริหารจัดการไม่ดี  ผู้มารับบริการได้เจอแน่ๆ

ยกตัวอย่าง :
ลูกค้า (issue inform) :  คือรถผมมันมีอาการ ......ขับแล้ววูบ.........  แล้ววันหนึ่ง .....x...... พอมาวันนี้ ......x..... เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง...x.....ผมเคยเอารถไปเช็คที่...x....ฯลฯ

พนักงานรับรถ ( รับงานและ action ) : จดรายละเอียดแบบสรุปส่งเคสให้พนักงานรับเรื่อง  " รถลูกค้าขับแล้วมีอาการวูบ  เป็นๆ หายๆ "

พนักงานรับเรื่อง ( เปิดงานและ action ) : หา Problem discription list เพื่อเปิดอาการ " เครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์  สะดุด"

ช่างรับงาน ( take action ) : test engine diagnostic , test run , check ทั่วไป , คาริเบชั่น >>>> close job

พนักงานรับรถ ( ส่งมอบรถ และ action ) : ขอบคุณลูกค้าตามสคริป  แนะนำให้ลูกค้ากดโหวตให้การบริการ  แนะนำศูนย์บริการ  แนะนำการตลาดตัวใหม่

ลูกค้า  :  รับรถออกจากศูนย์  สบายใจ


**ปัญหานี้ถ้าหายก็ ok  ถ้าไม่หายก็มาใหม่    ความเสี่ยงในอาการที่ไม่หายขาดมีพอสมควร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองเอาวิธีผมไปใช้ :  เมื่อเข้าศูนย์บริการแล้วมีเพิ่มเติมในอาการอื่นๆที่นอกเหนือการใช้งานปกติ

เมื่อพบพนักงานรับรถ  :  ผมพบปัญหาบางอย่างในรถ  แต่ก่อนเล่าอาการและทางคุณจะจดอาการผมขอให้เชิญเจ้าหน้าที่วันนี้ท้งหมดที่จะเกี่ยวข้องกับรถผม  เช่นคนขับรถเข้าไป   ช่างคนที่ซ่อม  หัวหน้าทีมชุดที่ซ่อม  พนักงานรับและส่งรถ  คนออกเอกสารรับงาน  ผมจะแจ้งรายละเอียดครั้งเดียวเพื่อช่วยลดการสื่อสารต่อในสิ่งที่ผมจะบอกให้ฟังนี้   ผมขอรบกวนก่อนเข้ารับการบริการด้วยครับ 


หากไปเจอศูนย์ที่ดีหน่อย  ถ้าไม่ทำแบบนี้   สิ่งที่อาจจะพบเจอ

1. เล่ายาวละเอียดยิบให้พนักงานรับรถ  แต่เขาไม่รู้เรื่องเทคนิคที่ดี
2. มีหวังได้เล่าอีกรอบกับคนออกเอกสาร  และตรวจทานเอกสาร
3. อาจจะมีแถมเล่ารอบที่ 3 กับช่างที่จะทำรถ
4. ก่อนเล่ารอบที่ 4 จะเริ่มมีอารมณ์นิดๆ และอาจจะเล่าไม่ครบเนื้อหาแบบตอนแรกกับหัวหน้าชุดซ่อม  ซึ่งคนนี้แหละที่จะแก้ปัญหาได้แต่อารมณ์เรามันขึ้นแล้ว    อาจจะใส่อารมณ์กับไอ้คนสุดท้ายนี้แหละ  ถามว่าเขาผิดอะไรเขาต้องมาซวยรับอารมณ์เราทั้งที่เขานี้แหละคือคนที่จะมาแก้ปัญหาตัวจริง

**นี่แหละครับ   คน  อารมณ์  ความรู้สึก  และอาการ

แหม .... ก็แมวป่าเข้าไปศูนย์ที แทบจะต้องมาตั้งแถวรอรับกันทั้งศูนย์นิ กลัวบริการไม่ถึงใจแมวป่า  :sd42: :sd42:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่โต (1007)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,280
  • Like: 28
  • เพศ: ชาย
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 15:32:05 »
ปัญหาลักษณะนี้แบบที่พี่หยกนำมาเป็นเคสตัวอย่าง  เกิดขึ้นได้ง่ายมากและเกิดโดยการกระทำที่ไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการให้บริการต่อลูกค้า  แต่ความผิดผลาดและการรับรู้เรื่องราวของภาษาที่ส่งถ่ายทอดกันมา   มันมีความหมายต่าง  ปัญหาแบบนี้เป็นเคสปกติในงานบริการที่มีขั้นตอนหลากหลายหากบริหารจัดการไม่ดี  ผู้มารับบริการได้เจอแน่ๆ

ยกตัวอย่าง :
ลูกค้า (issue inform) :  คือรถผมมันมีอาการ ......ขับแล้ววูบ.........  แล้ววันหนึ่ง .....x...... พอมาวันนี้ ......x..... เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง...x.....ผมเคยเอารถไปเช็คที่...x....ฯลฯ

พนักงานรับรถ ( รับงานและ action ) : จดรายละเอียดแบบสรุปส่งเคสให้พนักงานรับเรื่อง  " รถลูกค้าขับแล้วมีอาการวูบ  เป็นๆ หายๆ "

พนักงานรับเรื่อง ( เปิดงานและ action ) : หา Problem discription list เพื่อเปิดอาการ " เครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์  สะดุด"

ช่างรับงาน ( take action ) : test engine diagnostic , test run , check ทั่วไป , คาริเบชั่น >>>> close job

พนักงานรับรถ ( ส่งมอบรถ และ action ) : ขอบคุณลูกค้าตามสคริป  แนะนำให้ลูกค้ากดโหวตให้การบริการ  แนะนำศูนย์บริการ  แนะนำการตลาดตัวใหม่

ลูกค้า  :  รับรถออกจากศูนย์  สบายใจ


**ปัญหานี้ถ้าหายก็ ok  ถ้าไม่หายก็มาใหม่    ความเสี่ยงในอาการที่ไม่หายขาดมีพอสมควร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองเอาวิธีผมไปใช้ :  เมื่อเข้าศูนย์บริการแล้วมีเพิ่มเติมในอาการอื่นๆที่นอกเหนือการใช้งานปกติ

เมื่อพบพนักงานรับรถ  :  ผมพบปัญหาบางอย่างในรถ  แต่ก่อนเล่าอาการและทางคุณจะจดอาการผมขอให้เชิญเจ้าหน้าที่วันนี้ท้งหมดที่จะเกี่ยวข้องกับรถผม  เช่นคนขับรถเข้าไป   ช่างคนที่ซ่อม  หัวหน้าทีมชุดที่ซ่อม  พนักงานรับและส่งรถ  คนออกเอกสารรับงาน  ผมจะแจ้งรายละเอียดครั้งเดียวเพื่อช่วยลดการสื่อสารต่อในสิ่งที่ผมจะบอกให้ฟังนี้   ผมขอรบกวนก่อนเข้ารับการบริการด้วยครับ 


หากไปเจอศูนย์ที่ดีหน่อย  ถ้าไม่ทำแบบนี้   สิ่งที่อาจจะพบเจอ

1. เล่ายาวละเอียดยิบให้พนักงานรับรถ  แต่เขาไม่รู้เรื่องเทคนิคที่ดี
2. มีหวังได้เล่าอีกรอบกับคนออกเอกสาร  และตรวจทานเอกสาร
3. อาจจะมีแถมเล่ารอบที่ 3 กับช่างที่จะทำรถ
4. ก่อนเล่ารอบที่ 4 จะเริ่มมีอารมณ์นิดๆ และอาจจะเล่าไม่ครบเนื้อหาแบบตอนแรกกับหัวหน้าชุดซ่อม  ซึ่งคนนี้แหละที่จะแก้ปัญหาได้แต่อารมณ์เรามันขึ้นแล้ว    อาจจะใส่อารมณ์กับไอ้คนสุดท้ายนี้แหละ  ถามว่าเขาผิดอะไรเขาต้องมาซวยรับอารมณ์เราทั้งที่เขานี้แหละคือคนที่จะมาแก้ปัญหาตัวจริง

**นี่แหละครับ   คน  อารมณ์  ความรู้สึก  และอาการ
มันเป็นวิธีการกดดัน  และให้รับรูว่าเราก็เฮียบเหมือนกันใช่ไหมครับพี่นะ ไม่ใช่จะมาเช็คตามระยะเสร็จแล้วก็ขับรถออกไป
:L4398: โอม  งึมงำ งึมงำ รักกู  หลงกู  รักปา  หลงปา... :L2901:

ออฟไลน์ เดียว ณัฐพงษ์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 670
  • Like: 22
  • เพศ: ชาย
  • ล้มได้ก็ลุกได้
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 15:38:08 »
ปัญหาลักษณะนี้แบบที่พี่หยกนำมาเป็นเคสตัวอย่าง  เกิดขึ้นได้ง่ายมากและเกิดโดยการกระทำที่ไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการให้บริการต่อลูกค้า  แต่ความผิดผลาดและการรับรู้เรื่องราวของภาษาที่ส่งถ่ายทอดกันมา   มันมีความหมายต่าง  ปัญหาแบบนี้เป็นเคสปกติในงานบริการที่มีขั้นตอนหลากหลายหากบริหารจัดการไม่ดี  ผู้มารับบริการได้เจอแน่ๆ

ยกตัวอย่าง :
ลูกค้า (issue inform) :  คือรถผมมันมีอาการ ......ขับแล้ววูบ.........  แล้ววันหนึ่ง .....x...... พอมาวันนี้ ......x..... เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง...x.....ผมเคยเอารถไปเช็คที่...x....ฯลฯ

พนักงานรับรถ ( รับงานและ action ) : จดรายละเอียดแบบสรุปส่งเคสให้พนักงานรับเรื่อง  " รถลูกค้าขับแล้วมีอาการวูบ  เป็นๆ หายๆ "

พนักงานรับเรื่อง ( เปิดงานและ action ) : หา Problem discription list เพื่อเปิดอาการ " เครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์  สะดุด"

ช่างรับงาน ( take action ) : test engine diagnostic , test run , check ทั่วไป , คาริเบชั่น >>>> close job

พนักงานรับรถ ( ส่งมอบรถ และ action ) : ขอบคุณลูกค้าตามสคริป  แนะนำให้ลูกค้ากดโหวตให้การบริการ  แนะนำศูนย์บริการ  แนะนำการตลาดตัวใหม่

ลูกค้า  :  รับรถออกจากศูนย์  สบายใจ


**ปัญหานี้ถ้าหายก็ ok  ถ้าไม่หายก็มาใหม่    ความเสี่ยงในอาการที่ไม่หายขาดมีพอสมควร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองเอาวิธีผมไปใช้ :  เมื่อเข้าศูนย์บริการแล้วมีเพิ่มเติมในอาการอื่นๆที่นอกเหนือการใช้งานปกติ

เมื่อพบพนักงานรับรถ  :  ผมพบปัญหาบางอย่างในรถ  แต่ก่อนเล่าอาการและทางคุณจะจดอาการผมขอให้เชิญเจ้าหน้าที่วันนี้ท้งหมดที่จะเกี่ยวข้องกับรถผม  เช่นคนขับรถเข้าไป   ช่างคนที่ซ่อม  หัวหน้าทีมชุดที่ซ่อม  พนักงานรับและส่งรถ  คนออกเอกสารรับงาน  ผมจะแจ้งรายละเอียดครั้งเดียวเพื่อช่วยลดการสื่อสารต่อในสิ่งที่ผมจะบอกให้ฟังนี้   ผมขอรบกวนก่อนเข้ารับการบริการด้วยครับ 


หากไปเจอศูนย์ที่ดีหน่อย  ถ้าไม่ทำแบบนี้   สิ่งที่อาจจะพบเจอ

1. เล่ายาวละเอียดยิบให้พนักงานรับรถ  แต่เขาไม่รู้เรื่องเทคนิคที่ดี
2. มีหวังได้เล่าอีกรอบกับคนออกเอกสาร  และตรวจทานเอกสาร
3. อาจจะมีแถมเล่ารอบที่ 3 กับช่างที่จะทำรถ
4. ก่อนเล่ารอบที่ 4 จะเริ่มมีอารมณ์นิดๆ และอาจจะเล่าไม่ครบเนื้อหาแบบตอนแรกกับหัวหน้าชุดซ่อม  ซึ่งคนนี้แหละที่จะแก้ปัญหาได้แต่อารมณ์เรามันขึ้นแล้ว    อาจจะใส่อารมณ์กับไอ้คนสุดท้ายนี้แหละ  ถามว่าเขาผิดอะไรเขาต้องมาซวยรับอารมณ์เราทั้งที่เขานี้แหละคือคนที่จะมาแก้ปัญหาตัวจริง

**นี่แหละครับ   คน  อารมณ์  ความรู้สึก  และอาการ

อ่านของพี่นะแล้วเจอเข้ากับตัวเลย เข้าไปศูนย์บริการต้องเล่าอาการให้ฟังทั้งหมด 4 คน รู้งี้น่าเรียกมาพร้อมกันทีเดียวเลย   :sd21: :sd21:
นอนน้อย แต่ 100%

tod

  • บุคคลทั่วไป
Re: เค้าว่าน้องปาของหนู มอเตอร์ EGR กับ โซลินอยด์พัง
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: 25 กันยายน 2014, 16:42:23 »
เท่าที่อ่านดู ระดับศูนย์ไม่น่าวิเคราะแบบลองผิดลองถูกแบบนั้นเลย
ด้วยความพร้อมทางด้านประสพการและเครื่องมือที่มีพร้อม..........ผมว่าเปลี่ยน 2 อย่างนี้คงไม่จบครับ(ขออย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย)
 :L2739: :L2739: :L2739: