คลิกอ่านขั้นตอนการสมัครสมาชิกบ้านปามาเนีย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ประเทศอะไรคับพี่ ไปเที่ยวหรือคับ.
พรุ่งนี้วันหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้ง เผื่อพี่ๆท่านใดมีแพลนออกทริปต่างจังหวัด เลยแว่ะเอา Tip เล็กๆมาฝาก หากว่าพี่ๆไปเจอเส้นทางที่มีทรายเย่อะๆ อาจเป็นบริเวณทรายแห้งๆริมชายหาด... อันดับแรกก่อนลงทรายต้องปรับลมยางให้อ่อนเข้าใว้ จากประสบการณ์ที่เคยลองมาที่ทะเลทรายกับ Lexus lx470 และ Land cruiser (ผู้โดยสาร 5 คน+1คนขับ ไม่มีสัมภาระ) ปรับเหลือ 20 Psi เท่ากันทั้งคู่ ลองถามเพื่อนที่เป็นคนอาหรับบอกว่ารถรุ่นอื่นก็ปรับลมยางเท่ากัน เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการตะกุยทราย.หากเจอเนินทราย ถ้ารู้หรือเช็คแล้วว่าหลังเนินทรายเป็นอะไร ให้เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วอีกนิดทิ่มพลวดข้ามไปเลย ไม่ต้องชลอความเร็วรถ เพราะมีโอกาศที่ท้องจะไปเกยอยู่ตรงสันทรายได้ครับ.ปล. ไม่แน่ใจว่าพี่ๆเคยพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องนี้กันบ้างแล้วหรือยัง หากซ้ำหรือผิดถูกอย่างไรช่วยแน่ะนำด้วยนะครับ
ต่อเลยครับกำลังเพลิน ว่าแต่ทรายแต่ละประเภทในประเทศเขามีผลอะไรบ้างครับช่วยถามเพิ่มเติมให้หน่อย ผมนึกว่าทรายธรรมดาทั่วไปรอฟังและติดตามอยู่นะครับ
ส่วนตัวเชื่อว่าทรายบ้านเราน่าจะไม่เหมือนกับทรายที่ UAE นะครับ เพราะที่โน่นทรายจะแห้งแต่ที่บ้านเราทรายน่าจะชื้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าแบบไหนขับง่าย/ยากกว่ากันเพราะไม่เคยมีประสบการณ์อ้อ..อีกอย่างที่สงสัยคือรถที่วิ่งในทะเลทราบแบบนี้เขาดูแลไส้กรองอากาศกันอย่างไรครับพี่รุฒน์ คิดว่าน่าจะต้องทำความสะอาดบ่อยๆหรือเปลี่ยนที่ระยะต่ำกว่าบ้านเราหรือเปล่า หรือมีวิธีการดูแลพิเศษแตกต่างจากเราอย่างไรไหมครับ
พี่เอ ขาลุยอยู่แล้วคับ.
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ครับพี่รุฒน์ ผมเคยมีประสบการณ์อันน่าเขินอายบนทราย ที่เกาะสมุย ตอนนั้นขับJEEP หลงไปบนชายหาด ด้วยความตกใจ ใส่เกียร์LOW ปั่นเท่าไรก็จมเท่านั้น พี่ๆชาวเล วิ่งมาช่วยดูบอกว่า ให้เข้าเกียร์ปกติ แล้วเลี้ยงคันเร่ง หักล้อเลี้ยวสุด พอขึ้นได้ ให้วิ่งลงทะเล พอวิ่งลงทะเลให้วิ่งตามชายหาด(เพิ่งรู้ว่าทรายชายหาดแน่นมาก) แล้ววิ่งไปกลับรถ แล้วเหินขึ้นเนินกลับออกจากชายหาด ฝรั่งทั้งหาดมองผมเป็นตาเดียวว่า ไอ้บ้านี่เอารถมาวิ่งในทะเลทำไม(ตรูหลงมาว๊อยยยย!!!) ฮ่าาาาา ว่าจะลองเอาเจ้าต๊วมเตี้ยมไปลงทรายดูเหมือนกัน เคยลงแต่ในน้ำ ฮ่า
ทรายที่นี้ในแต่ละรัฐ/เมือง ก็ต่างกันนะครับ มี แดงน้ำตาลเนื้อหย่บหน่อย แล้วก็น้ำตาลอ่อนอย่างในรูป สุดท้ายก็เป็นทรายผสมกรวด เชื่อว่า 20 Psi เป็นค่ากลาง ปรับเพิ่มลดต่างกันนิดหน่อยตามความแน่นของทราย คือถ้าแน่นก็ปรับขึ้น ส่วนอีกปัจจัยที่มีผลคือประเภทยางที่ใช้ครับ สังเกตุจากรูปที่เอามาฝาก ใช้ยางแบบวิ่งบนถนนปรกติ แค่ลดลมยางลงเหลือ20 ก็วิ่งตะกุยทรายได้สบายๆแล้วครับผม
ถูกต้องครับพี่หยก ทรายบ้านเรากับที่ของ UAE จะต่างกันครับ ของเราจะหยาบกว่า ส่วนของ UAE จะละเอียดมาก (เอามาผสมปูนฉาบได้เลย ไม่ต้องร่อน ^_^) ส่วนเรื่องความชื้นส่วนตัวคิดว่าแบบชื้นขับง่ายกว่าครับ อย่างล่าสุดที่ไปลองสังเกตุที่พื้นทรายก็ชื้น+แน่น เพราะฝนพึ่งตก แต่ถ้าเอาแบบมันส์ชชอบแบบแห้งมากกว่าครับ เพราะจะมีอาการ Slide ทรายด้วย แม้จะเบรคล้อแล้วก็ตาม.ส่วนเรื่องการดูแลจากที่ได้รับคำและนำและที่ผมทำกับรถที่ใช้เอง จะบ่อยกว่าบ้านเรานิดหน่อยครับ อาจเพราะทรายละเอียดกว่ามาก (มวลเบากว่า) ทำให้ปริมาณทรายที่ปนอยู่ในอากาศและปะปนเข้าไปในระบบกรองอากาศมีมากกว่า แต่อาจดีหน่อยตรงที่ปรกติที่นี้ความชื้นความชื้นสัมพัทธ์จะสูงมากครับ อีกปัจจัยคือพายุทรายครับ มาบ่อยมาก ขับฝ่าพายุทรายกันเป็นว่าเล่นในเส้นทางนอกเมือง แต่ไม่สนุกหรอกครับ ค่อนข้างเครียดเพราะวิศัยทัศน์และถนนลื่นทราย.
มาติดตามครับพี่รุฒน์ เพราะผมมั่นใจว่า ในชีวิตนี้ คงหาประสพการณ์ชีวิตแบบนี้ไม่ได้
ไม่แน่น้า พี่ปรี ทริปPA MANIA ของเราอาจจะมี pamania uae trip ลงชื่อไว้ก่อนละกัน