ผู้เขียน หัวข้อ: เปลี่ยนร่าง แปลงโฉม ปาออสซี่.....โครงการต่อไป Next Step!!!  (อ่าน 76063 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
กว่าจะได้น้องปา

จริงแล้วน้องปาเจโร่สปอร์ตนี่ไม่เคยอยู่ในความคิดผมที่จะซื้อหามาใช้เลยนะครับ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ผมชอบรถสไตล์ SUV หรือ PPV มาก เพราะชอบเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเที่ยวแบบลุยๆนิดๆ เข้าป่า เที่ยวน้ำตกอะไรแบบนี้ เดิมเคยใช้ CRV version 1 มาก่อน ด้วยความที่ถูกอกถูกใจใน Honda เป็นพิเศษ มีเพื่อนเป็นเจ้าของ showroom Honda หลังจากขาย CRV ไป ก็เลือกคบกับ Honda มาตลอด........Mitsubishi เหรอ.....55555....จะบอกให้ว่าไม่เคยเหลียวไปดูแม้ซักนิดเดียว..........ซื้อ Honda มันแทบทุกรุ่นครับ จาก CRV version 1 ก็มาซื้อ CRV version 2 แต่มันเปลืองน้ำมัน เลยไปหาซื้อ Civic ตาโต มือสองมาใช้อีกซักคัน.......ผบ. เคยขับ Audi อยู่ มันโทรมมาก.....ผมก็ยังไปซื้อ Civic Dimension มาให้เธอใช้.......หลังจากนั้นผมก็เปลี่ยนเจ้า CRV เป็น Accord 3.0 ..... ช่วงน้ำมันเริ่มแพง เครื่อง 3.0 นี่ไม่ไหวครับ เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็น Civic FD 2.0.......เรียกได้ว่า หลังจาก CRV แล้ว ผมก็ไม่เคยมาใช้รถประเภท SUV อีกเลย......แต่ด้วยความชอบ เลยไปยุ ผบ. ว่า Civic Dimension ของเธอเก่าไปละ.....จัดการไปเปลี่ยนเป็น CRV version 3 ....... ก็เลยได้กลับมาใช้ SUV ขับเที่ยว ขับออกต่างจังหวัด เรื่อยมากับเจ้า CRV นี่แหละครับ  :-*

แล้ว Mitsubishi แทรกเข้ามาในใจลูกค้าผู้จงรักภักดีต่อ Honda อย่างผมได้ไง.......มันเหมือนดวงจะสมพงษ์กันครับ.......ที่ office ลูกค้าประจำที่หนึ่ง รับ Assistant Marketing Director เข้ามาใหม่.....น้องคนนี้อายุน้อยกว่าผมนิดหน่อย.....ทำงานดี คุยกันรู้เรื่องมากๆ.....ทำงานด้วยกันมากขึ้นก็เริ่มสนิทกัน.....มีโอกาสได้ไปนั่ง Drink Drank Drunk ด้วยกัน......ถามประวัติไปๆมาๆ ก่อนมาอยู่ที่นี่ น้องเขาเคยทำงานในฝ่าย Marketing ที่ MMTH มาก่อน.......ก็เลยได้มาคุยกันเรื่องรถ Mitsubishi ก็ตอนนี้แหละ  :-*

น้องคนนี้ขับกระบะ....แต่ไม่ใช่ Triton......เป็น ISUZU.......เขามีกลุ่มที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน ในกลุ่มของน้องเขาจะมีรถประเภท กระบะ และ PPV เป็นส่วนใหญ่......ส่วนใหญ่ PPV ก็จะเป็นน้องฟอร์....มีหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นแรก จนถึง TRD Sportivo......เวลาไปเที่ยวผมเลยได้ลองขับน้องฟอร์มาแทบทุกรุ่น......พูดตามตรงนะครับ.......ผมไม่ชอบเลยซักรุ่น......แม้แต่ TRD Sportivo ที่บรรดาสาวกน้องโตบอกว่าดีนักดีหนา.....ผมลองขับดูแล้วก็ยังไม่ถูกใจ.......เจ้าน้องคนนี้เลยบอกว่า "พี่ฟอร์ไม่เวิร์คหรอก ไปลองน้องปาดิ ดีกว่า ถูกกว่าด้วย"..........น้องปาก็เลยเริ่มเข้ามาอยู่ในเรดาห์ของผมนับแต่นั้น  :-*

ระยะเวลาผ่านไปซักหลายเดือน......ผมเริ่มเห็นน้องปาวิ่งไปวิ่งมาตามถนนมากขึ้น......ประกอบกับเริ่มอยากได้ SUV หรือ PPV มาใช้บ้างแล้ว......เพราะ CRV ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ ทำให้เวลาเพื่อนๆไปเที่ยวหลายๆแห่ง ผมไปไม่ได้ หรือไปได้ก็ต้องยืมรถเพื่อนมาขับ.....อยากมี PPV ไว้ใช้เองซักคัน........ในตลาดตอนนั้น เอาที่ติดตลาดแล้ว ก็มีแค่น้องฟอร์ กับน้องปา......แทบไม่มีตัวเลือกให้เลยครับ.......ใจมุ่งไปที่น้องปาอย่างเดียว........แต่ก็ยังไม่ได้ไปลองขับ หรือหาข้อมูลอะไร เพราะ คิดว่า "ยังงัยของงบ ผบ. ไม่ผ่านแน่นอน" เพราะ น้อง FD ก็เพิ่มจะ 3 ปีเอง ยังใช้ได้อีกนาน..... :'(

แต่แล้วเหมือนดวงจะได้ขับน้องปา.......เรื่องของเรื่องมาจาก "น้องของผบ" ครับ.......คือเดิมน้องของผบ. ใช้ CRV gen2 อยู่....เริ่มเก่า เริ่มจุกจิกครับ ใช้มาหลายปี.....ก็อยากเปลี่ยน.......น้องผบ. ชอบ Mazda3 มาก อยากได้......แต่ทางคุณพ่อคุณแม่ อยากให้ขับรถประเภท SUV มากกว่า เพราะเวลาไปไหนจะได้ไปกันได้หลายคน (ให้น้องของ ผบ ขับไป).......ผบ. มาปรึกษาว่าถ้าเป็น SUV มีตัวเลือกอะไรบ้าง......ผมก็บอกไปว่า มีน้องฟอร์ น้องปา น้องแคป......ผมให้ไป 3 ตัวเลือก....บอกข้อดีข้อเสียได้แค่น้องฟอร์อย่างเดียว เพราะเคยขับอยู่รุ่นเดียว ปากับแคปยังไม่เคยขับ......ก็เลยบอกไปว่า "ไปลองขับดูเองละกัน ชอบคันไหนก็เอาคันนั้นแหละ"........ผบ. ก็เลยพาคุณแม่ และคุณน้อง ไปตระเวณลองรถทั้ง 3 รุ่น ตามที่ผมแนะนำไป

อยู่มาวันหนึ่ง.......จู่ๆ ผบ. ก็มาบอกว่า "น้องปานี่ขับดีนะ อยากให้น้องซื้อ แต่น้องไม่ชอบ เขาไปชอบแคปมากกว่า"........อืมมมมมมม เข้าท่าแฮะ ผบ.ชอบนี่อะไรอะไรน่าจะง่ายไปกว่าครึ่ง......ดังนั้น ปฏิบัติการขออนุมัติงบประมาณเพื่อจัดซื้อน้องปาก็เลยเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมา........ 8)

จนในเดือนเมษาฯปี 54.......ในที่สุด ผบ. ก็อนุมัติงบประมาณ.......ด้วยเหตุผลที่ผมบอกว่า "มีรถแบบน้องปาไว้ซักคันก็ดีนะ เผื่อมีน้ำท่วม จะได้ไว้ลุยน้ำ เผื่อบ้านพ่อแม่น้ำท่วม จะได้เอาไว้ไปรับไปส่งได้".....ผมพูดไว้เมื่อเดือน เมษาฯ 54 โดยไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่เดือนต่อมา ที่ผมพูดไว้จะเป็นจริง และผมต้องเอาน้องปาลุยน้ำเข้าไปที่บ้านพ่อแม่ ผบ. จริงๆ  :'(

และแล้วในเดือน กรกฎา ปี 54.........น้องปาของผมก็มาจอด นอนสงบนิ่งอยู่ที่โชว์รูม รอผมไปรับ.......

รูปนี้ตอนจอดรอยกขึ้นเพื่อตรวจสอบช่วงล่าง และ ที่สำคัญ "ตรวจการรั่วซึมบริเวณหัวเพลา" อาการยอดฮิตนะขณะนั้น


ตรวจสุขภาพเบื้องต้นเรียบร้อย.....ผ่าน.....มาจอดรอเสริมอุปกรณ์นิดหน่อยก่อนออกไปโฉบเฉี่ยวในโลกกว้าง
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ชัย (wansasi)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 940
  • Like: 15
  • เพศ: ชาย
  • Love me love my dog
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 02:12:34 »
มีต่อมั๊ยครับ  ;D
ตื่นมาโพสท์เพราะระยองฝนตกหนักครับ เป็นแบบนี้มาหลายคืนแล้วครับ
ปาที่บ้าน เซนซิทีปมาก กันขโมยร้องเวลาฟ้าลงทุกครั้งเลยครับ

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 02:21:45 »
แรงบันดาลใจให้ซื้อน้องปาเจโร่สปอร์ต

ตอนนี้ขอย้อนหลังกลับไปนิดนึง.....ระหว่างปฏิบัติการของบประมาณเพื่อจัดซื้อน้องปา......ยอมรับจริงๆว่าได้สัมผัสกับน้องปาตัวจริงน้อยมาก......ข้อมูลในช่วงแรกได้มาจากน้องที่เคยอยู่ MMTH เป็นส่วนใหญ่......เป็นน้องเขาเล่าให้ฟัง จริงเท็จอย่างไร ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้.......ที่ปักใจในน้องปา เป็นเพียงเพราะ "ผมไม่ชอบน้องฟอร์"

ตัวเป็นๆของน้องปา.....ผมแทบไม่ค่อยได้สัมผัส.....เห็นวิ่งอยู่ตามถนนบ้างเหมือนกัน......สารภาพตามตรง ผมเห็นมันวิ่งอยู่บนถนนนี่ ก็ไม่ได้รู้สึกชอบในรูปร่างหน้าตามันซักเท่าไหร่.......รู้สึกว่ามันดูเรียบๆไปนิดนึง ไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรมากในการออกแบบภายนอก.....ได้เห็นแค่แว๊บไปแว๊บมา.....ไม่เคยได้ยืนจ้องมันนานๆซักที

จนมาเจอกับน้องปาคันนี้


น้องปาคันนี้ผมเห็นบ่อยมาก......เริ่มตั้งแต่ผมพาลูกไปเรียนว่ายน้ำ กับเรียนแบดฯ ที่สนามแบด S29.....ผมไปที่นั่นอาทิตย์ละ 3 วันเป็นอย่างต่ำ..... นอกจากลูกจะเรียนว่ายน้ำและแบดที่นี่แล้ว.....ผมยังมีก๊วนตีแบดอยู่ที่นี่ด้วย......มาที่สนามแบดนี้ทีไร ต้องเห็นน้องปาคันนี้จอดอยู่ทุกที.......เห็นแต่รถแต่ไม่เคยเจอเจ้าของ ก็เลยไม่เคยมีโอกาสได้ถามข้อมูลเกี่ยวกับน้องปา........แต่ก็ได้มีโอกาส ด้อมๆ มองๆ เดินดูรอบๆ ส่องดูภายใน แทบทุกวันที่ไปเจอ.......ดูบ่อยๆเข้า ยิ่งดูยิ่งชินตา .....เออ มันก็สวยดีเหมือนกัน

รถคันนี้นอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผมดูน้องปาจนสวยแล้ว ยังทำให้ผมได้รู้จักกับบ้าน Society อีกด้วย......บ้าน Society ที่เต็มไปด้วยข้อมูล อุปกรณ์ตกแต่ง เพิ่มประสิทธิภาพ.....ผมอ่านทุกวัน จดข้อมูลเก็บไว้เพียบ......และที่สำคัญ บ้าน "Society" เป็นที่ที่ทำให้ผมได้รู้จักชื่อของ  "Pentium4" ของพี่อ๊อด และ "Na Ratchada" ของพี่นะ เป็นครั้งแรก ก็จากบ้านหลังนั้น



และจากข้อมูลที่ผมได้ศึกษาจากบ้าน Society ทำให้ผมชอบน้องปาขึ้นอีกเยอะ.......ได้เห็นรูปถ่ายมุมสวยๆ งามๆ หลายๆ มุม......ได้เห็น DIY อุปกรณ์ต่างๆของพี่อ๊อดตั้งแต่บ้านหลังนั้น......ได้อ่านบทวิเคราะห์วิจารณ์ต่างๆของพี่นะ.......ได้อ่านปัญหาต่างๆของรถจากสมาชิกหลายๆท่านของบ้านนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป๋านิค (Nixon)......ทำให้ผมได้ทั้งข้อมูลด้านดีและด้านไม่ดี.......ทั้งหมดนั้นรวมกันสร้างเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากได้น้องปาเจโร่สปอร์ตมาเป็นพาหนะคู่ชีพผมให้จงได้

ต้องขอขอบคุณเจ้าของ "ปาเงิน" คันนี้.......ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ.......จนผมได้มีน้องปาเจโร่สปอร์ตมาเป็นพาหนะคู่ชีพอยู่ในวันนี้
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 02:23:02 »
มีต่อมั๊ยครับ  ;D
ตื่นมาโพสท์เพราะระยองฝนตกหนักครับ เป็นแบบนี้มาหลายคืนแล้วครับ
ปาที่บ้าน เซนซิทีปมาก กันขโมยร้องเวลาฟ้าลงทุกครั้งเลยครับ

สวัสดีครับพี่ชัย.....มีต่อครับ.....แต่คงต้องขอมาแบบเป็นตอนๆ ไปเรื่อยๆอะครับ.......เขียนรวดเดียวไม่ไหว  :D :D.....ขอบคุณที่ติดตามครับผม  :) :)

ปล. ปาที่บ้านผม ไม่เห็นเหมือนของพี่ชัย หลับสนิทตลอด.....มันไม่เคยร้องเลย.....จนผมเริ่มสงสัยแล้วอะครับว่า ถ้าขโมยมันทุบน้องปาผม ตกลงเจ้ากันขโมยมันจะร้องบ้างไหมเนี่ย  ??? ???
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ชัย (wansasi)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 940
  • Like: 15
  • เพศ: ชาย
  • Love me love my dog
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 02:46:58 »
มีต่อมั๊ยครับ  ;D
ตื่นมาโพสท์เพราะระยองฝนตกหนักครับ เป็นแบบนี้มาหลายคืนแล้วครับ
ปาที่บ้าน เซนซิทีปมาก กันขโมยร้องเวลาฟ้าลงทุกครั้งเลยครับ

สวัสดีครับพี่ชัย.....มีต่อครับ.....แต่คงต้องขอมาแบบเป็นตอนๆ ไปเรื่อยๆอะครับ.......เขียนรวดเดียวไม่ไหว  :D :D.....ขอบคุณที่ติดตามครับผม  :) :)

ปล. ปาที่บ้านผม ไม่เห็นเหมือนของพี่ชัย หลับสนิทตลอด.....มันไม่เคยร้องเลย.....จนผมเริ่มสงสัยแล้วอะครับว่า ถ้าขโมยมันทุบน้องปาผม ตกลงเจ้ากันขโมยมันจะร้องบ้างไหมเนี่ย  ??? ???

ตั้งค่าความไวที่ตัวกันขโมยได้นะครับ แต่ก็ลืมตั้งอยู่เรื่อยเลยครับ
บางทีจอดข้างถนน สิบล้อวิ่งผ่านก็ร้องลั่นเลย สงสัยจะไวเกินครับ  :D

ไว้มาติดตามต่อ  ;D

ออฟไลน์ วี พระนคร

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 701
  • Like: 22
  • "เราต้องปรับตัวเข้าหารถ ไม่ใช่ให้รถปรับเข้าหาเรา"
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 07:39:01 »
พี่ตามเขียนเรื่อง ได้น่าติดตามมากเลย ;D ยาวดี เหมือนตอน วางระเบิดแสวงเครื่องเลย นิ ;) ;) ;)

ออฟไลน์ พี่นาย-nine

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 746
  • Like: 25
    • http://www.facebook.com/DisklessThailand#!/DisklessThailand
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 08:54:11 »
อ่านแล้วสนุกดีครับ พี่ตูมตามจัดต่อเลยครับ  ;D

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 10:00:50 »
พี่ตามเขียนเรื่อง ได้น่าติดตามมากเลย ;D ยาวดี เหมือนตอน วางระเบิดแสวงเครื่องเลย นิ ;) ;) ;)

แสวงเครื่องคงไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้แล้วอะครับพี่วี.......เลยเปลี่ยนอาชีพจากมือวางระเบิด มากเป็นตาเฒ่าเล่านิทานแทน  :sd40:

อ่านแล้วสนุกดีครับ พี่ตูมตามจัดต่อเลยครับ  ;D

ขอบคุณครับพี่นาย  :) :) :-* :-*
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 10:56:36 »
ปฏิบัติการขออนุมัติงบประมาณ

 ;D ;D บอกกันตามตรง......สำหรับผม การจะขออนุมัติงบประมาณสำหรับจัดซื้อน้องปาเจโร่สปอร์ตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ.......ทั้งหมดเนื่องจากเหตุผลเดียว "น้อง FD ที่ใช้อยู่ขณะนั้นยังใหม่อยู่เลย" ...... ตอนผมเริ่มอยากได้พวกรถ PPV มาใช้ น้อง FD ที่ใช้อยู่นั้นมีอายุแค่ 3 ปีเท่านั้น.......ดังนั้นการของบประมาณไม่ง่ายแน่ๆ.........ผมเริ่มอยากได้ PPV ตอนประมาณ ปลายปี 52.....ต้นปี 53 ก็เริ่มมองน้องปา.......กว่าจะได้จองก็ปาเข้าไป เมษา 54......ระยะเวลา "ปีกว่าๆ" ครับสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้.......เหตุผลประกอบการของบประมาณก็ไม่ได้มีมากมายอะไรครับ มีแค่ 2-3 ข้อ.......แต่ว่าแต่ละข้อกว่าจะทำให้ ผบ. เห็นชอบ มันต้องใช้เวลานานทีเดียว

จากงานอดิเรก จนกลายเป็นอาชีพเสริม
ด้วยความที่อาชีพหลักผม ไม่ได้เป็นงานประจำ.....มีงานให้ทำเป็นช่วงๆ.....ช่วงไหนงานเยอะ ก็เยอะโคตร.....ช่วงไหนไม่มีงานก็ว่างโคตรเช่นกัน......และช่วงเวลาว่างๆจากอาชีพหลักนี่แหละครับ.....ผมมีงานอดิเรกที่ชอบทำมากๆ คือ งานตบแต่งภายใน และงานจัดสวน.....มันก็เริ่มต้นจากที่บ้านผมเองนี่แหละ.....บ้านผมทั้งงานจัดสวน งานตกแต่งภายใน ผมออกแบบเองทั้งหมด (แต่จ้างคนอื่นมาเขียนแบบให้นะ).......ทำไปเรื่อยๆครับ มันเป็นงานอดิเรก.....ว่างก็ทำ ค่อยๆทำไป.......พอดีที่บ้านจะมีเพื่อนชอบแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนประจำ (ไม่รู้ว่ามันมาเยี่ยมผม หรือมาเยี่ยมน้อง Johny Walker ในตู้ผมก็ไม่ทราบ).......จากงานอดิเรกที่ทำในบ้านตัวเอง ก็เลยเริ่มได้ไปทำให้บ้านเพื่อน เพราะเพื่อนขอมา........จากกลุ่มเพื่อนตัวเอง ก็เริ่มลามออกไปเป็นเพื่อนของเพื่อน ขยายวงออกไป.......จากงานอดิเรกก็เลยกลายเป็นอาชีพเสริม ขึ้นมา

และเจ้าอาชีพเสริมนี่แหละที่เป็นเหตุผลหนึ่งในการขออนุมัติงบประมาณสำหรับน้องปา.......ด้วยงานตกแต่งภายใน และงานจัดสวน เป็นงานที่ต้องมีการซื้อของ บรรทุกของ เป็นประจำ โดยเฉพาะงานจัดสวน.....พวกต้นไม้ ดิน ขอนไม้ ก้อนหิน อุปกรณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่ผมจะตระเวณซื้อเอง ขนเอง เพราะได้ราคาถูกกว่าให้ supplier ซื้อเยอะ.......ทีนี้น้อง FD ที่ใช้อยู่ขณะนั้น มันดันไม่เหมาะกับงานบรรทุกประเภทนี้ซะด้วยซิ.........ก็เลยมีหลายครั้งที่ผมต้องยืมน้อง CRV ของผบ. ไปใช้........หลายครั้งๆเข้า ผบ. ก็เริ่มบ่น เพราะนอกจากเธอจะไม่ชอบขับน้อง FD แล้ว......ทุกครั้งที่ผมเอาน้อง CRV ไป กลับมามันจะเละกลับมาทุกที......ทุกครั้งที่โดนบ่นผมก็จะบอกว่า "เอาน่า ก็ Civic มันขนอะไรก็ไม่ได้นิ"  ;)

เที่ยว เที่ยว เที่ยว และก็เที่ยว
การไปเที่ยว เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก.....ผบ. ก็ชอบ......ลูกก็ชอบ......ครอบครัวเราเลยเป็นครอบครัวที่ออกเที่ยวต่างจังหวัดกันเป็นประจำ ทริบแบบค้าง 2-3 คืน ประมาณเดือนละครั้งหรือสองครั้ง......ส่วนทริบแบบเช้าเย็นกลับนี่ถ้าเป็นช่วงงานน้อยๆนี่ เกือบทุกอาทิตย์.....ด้วยข้อจำกัดที่มีแค่น้อง CRV ไว้ใช้......จุดหมายส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยพ้นหัวหิน ปราณบุรี และก็พัทยา.......ไปบ่อยครับ บ่อยมาก จนแทบจะเหมือนขับรถกลับบ้านเลยเวลาไปหัวหิน.........ไปบ่อยๆเข้าก็เริ่มเบื่อ......ผมก็เริ่มชวน ผบ. ไปเที่ยวพวกภูเขาน้ำตกบ้าง......แรกๆ ด้วย CRV ก็ไปได้แค่สถานที่ท่องเที่ยวทั่วๆไป......เขาใหญ่ เขาค้อ ประมาณนั้น......ขึ้นภูขึ้นดอยบ้างก็มีแต่ที่เที่ยวที่ดังๆติดอันดับต้นๆ เพราะถนนหนทางสะดวก.......แต่ไปเที่ยวพวกนี้แล้วน่าเบื่อเหมือนกันครับ คือคนมันเยอะมาก และที่เหล่านี้ส่วนใหญ่ธรรมชาติก็ถูกทำลายไปมากแล้ว.......แต่ตัวเลือกมันก็จำกัดอยู่เท่านี้ เพราะจะลุยมากก็ไม่ค่อยไหว ผบ. เป็นห่วงน้อง CRV ว่าจะรับบทหนักไม่ไหว

จนมีโอกาสครั้งหนึ่ง......ได้ไปเที่ยว "ถ้ำธารลอด" ที่เมืองกาญจน์........ทริบนี้เป็นทริบที่ ผบ. ประทับใจมากๆ......เป็นทริบที่พวกเราในครอบครัวยังเอามาคุยมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันอยู่จนทุกวันนี้.......รายละเอียดไว้จะมาเหลาให้ฟังทีหลัง.......เอาแบบสั้นๆ คือ ถ้าจะไปให้ถึง "ถ้ำ" และ "วัด".......มันต้องเดินขึ้นเขาไป......เป็นป่าที่ธรรมชาติยังคงอยู่ สวยงาม.......เดินป่า 3 กิโล ถึงจะถึงจุดหมาย "ถ้ำธารลอดใหญ่" และ "วัดถ้ำ".......ระยะทาง 3 กิโล ไม่ไกลหรอกครับ.......แต่ความชันนี่ซิ เข้าขั้นโหดสำหรับเด็กในเมืองอย่าง ผบ. เลยทีเดียว.......เอาเป็นว่า เดินเท้าไปกลับ 6 กิโล.....ป่าไม้บอกว่าใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง.......ผมพา ผบ. กับ ลูก เดินไป เกือบ 4 ชั่วโมง ยังไปไม่ถึงจุดหมายด้วยซ้ำ......ไม่ต้องนับขากลับอีก.......แต่ในที่สุดเราก็ไปถึงจุดหมายจนได้......ขากลับ เดินกลับกันไม่ไหว......เลยขอติดรถนักท่องเที่ยวที่ขับรถขึ้นไปกลับ........ผบ. ก็เลยเพิ่งรู้ว่ารถก็ขึ้นไปถึง.......ต่อว่าผมซะยกใหญ่ว่าให้เธอเดินมาแทบตาย ทำไมไม่เอารถขึ้นมา.........พอนั่งรถนักท่องเที่ยวลงมาจากเขาจริงๆ เธอถึงได้รู้ว่า "น้อง CRV ท่าทางจะไม่ไหว".....ทางไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับตอนนั้น 11 กิโล ที่ต้องวิ่งผ่านป่าไผ่ บนถนนดิน หลุมบ่อเพียบ แถมถ้าฝนตกนี่ถนนจะลื่นมาก.........สุดท้าย ทริบนี้เราประทับใจกับเรื่องราวหลายๆอย่าง และธรรมชาติที่สวยงามมากๆ.......ที่สำคัญ ผบ. ชอบเพราะนักท่องเที่ยวน้อย คนไม่มาก ไม่วุ่นวาย.......ผมก็เลยบอกว่า จริงๆ แหล่งท่องเที่ยวดีๆ อย่างนี้ ยังมีอีกเยอะ แต่เราเข้าไปไม่ได้ น้อง CRV จะทนไหวหรือเปล่าไม่รู้ น้อง CIVIC FD ไม่ต้องพูดถึง  ;)

เอาภาพประทับใจจากทริบนี้มาฝากกันเล็กน้อย






น้ำท่วม
อย่าเข้าใจผิดนะครับ น้ำท่วมในที่นี้ยังไม่ใช่น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ครับ..........คือจริงๆ แล้ว บ้านคุณพ่อคุณแม่ของ ผบ. นั้นอยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมบ่อยมาก.......ฝนตกหนักก็ท่วม.......น้ำขึ้นมากๆ ก็ท่วม......เรียกได้ว่าต้องมีน้ำท่วมให้ได้เห็นทุกปีจนชิน......แต่โดยทั่วๆไปก็ท่วมไม่หนักครับ ซัก 20-30 เซ็นฯ ประมาณนั้น.......แต่พอมาช่วงหลังๆ ปี 51-52 มันเริ่มท่วมเยอะขึ้น ปี52 พอดีประจวบเหมาะฝนตกหนักช่วงน้ำขึ้นสูงพอดี ท่วมเข้าไปเกือบ 50 เซ็นฯ........แทบต้องเอารถดำน้ำเข้าบ้าน ยังดีที่บ้านคุณพ่อคุณแม่อยู่ต้นซอย......ลุยไม่มาก รถธรรมดาจึงยังผ่านเข้าไปได้.......แต่น้อง CIVIC FD ผมหมดสิทธิ......ภาระก็เลยมาตกอยู่ที่น้อง CRV......ซึ่งก็สามารถผ่านไปได้ทุกครั้ง แต่บางครั้งก็มีให้เสียวบ้าง เมื่อความชื้นสูงมากๆ......เครื่องเบนซินก็จะออกอาการเหมือนจะดับเป็นบางครั้ง........หลังจากที่น้องของผบ. ได้น้องแคบมาก็สบายขึ้นเยอะ เพราะน้องแคปเป็นเครื่องดีเซล ทนความชื้นได้ดีกว่า.......ก็เลยเป็นเหตุผลหนึ่งที่ ผบ. เริ่มมองว่า มีรถเครื่องดีเซลไว้ในบ้านซักคันก็ดี เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่นน้ำท่วม จะได้ยังมี "รถไว้ช่วยชีวิตเรา" ไม่ใช่ "เราต้องไปช่วยชีวิตรถ"  8)

น้ำมันมันแพง
ช่วงปี 52-53 น้ำมันเบนซินแพงขึ้นมามาก......ถึงจะเปลี่ยนจากเบนซิน 91 มาใช้ แก๊ซโซฮอล ตั้งแต่ แก๊ซโซฮอล95 ไป E20.....สุดท้ายราคาก็ขึ้นมาจนเราก็ต้องจ่ายอยู่เท่าเดิม แต่ได้น้ำมันคุณภาพลดลง......ที่บ้านผบ. คุณพ่อคุณแม่ เริ่มเปลี่ยนรถเป็นเครื่องดีเซลกัน ด้วยเหตุผลเรื่องค่าน้ำมันล้วนๆ........น้ำมันดีเซลถูกกว่า แถมประหยัดกว่าด้วย.......คันแรกคือ B Class ดีเซล.....คันต่อมาก็ E Class CDI.......จนมาเป็นน้องแคปของน้องผบ. ...... เหตุผลหลักก็มาจากเรื่องการประหยัดน้ำมัน และค่าน้ำมันที่ถูกกว่าทั้งหมด.......ผบ. ก็เลยเริ่มกลายเป็นอยากได้เครื่องดีเซลขึ้นมาบ้าง........ก็เลยมาเข้าทางผม ที่กำลังอยากได้น้องปาพอดี  ;)

ด้วยเหตุทั้งหมด กับเวลาอีก ปีกว่าๆ.......ในที่สุด เมษาฯ 54 ผบ. ก็อนุมัติงบประมาณในการซื้อน้องปาเจโร่สปอร์ตให้มาเป็นพาหนะคู่ชีพผม และขวัญใจของครอบครัวผมในปัจจุบัน  ;D
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 12:17:43 »
อ่านเพลินและสนุกดีมากๆครับ ที่สำคัญ แฝงด้วยสาระความรู้อีกมากมาย
ปีกว่ากับการค่อยๆ "สร้าง"เหตุผลประกอบการของบประมาณ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ซูฮกครับ
 :sd44: :sd09: :sd27: :sd23: :sd18:

ออฟไลน์ สุภัทร (Pat)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,222
  • Like: 70
  • เพศ: ชาย
  • สวัสดี สมาชิก ปามาเนียทุกท่าน
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 16:09:50 »
ครบเครื่องทั้งสาระ ความรู้ อ่่านแล้วได้ประโยชน์มากครับ :sd23: :sd23: :sd23:
การกระทำใดๆ เพื่อส่งมอบสิ่งดีๆ ให้มวลหมู่สมาชิก

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 16:36:47 »
มาติดตามผลงานครับ  เล่าต่อเลยครับ  เพิ่งรู้ว่าพี่ตามชอบจัดสวนด้วยวันหลังต้องขอเรียนวิชา
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 23:27:17 »
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ติดตามรับชมกันอย่างต่อเนื่องครับ  :sd23: :sd23:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ kobv5 (กอบ)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,449
  • Like: 22
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 00:11:21 »
มีมาเล่าต่ออีกมั๊ยพี กำลังเพลิน  :sd10:

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 00:19:03 »
จะ 2 หรือ 4.....จะ ดำ หรือ ขาว

เอาหละครับ เมื่องบประมาณได้รับการอนุมัติแล้ว หลังจากพยายามมาปีกว่าๆ........ก็เริ่มกระบวนการ หาข้อมูล เพื่อตัดสินใจ ทั้งในเรื่องของศูนย์ที่จะจอง และน้องปาเจโร่สปอร์ตที่จะซื้อ.......ในเรื่องของศูนย์ เดี๋ยวค่อยมาเหลาให้ฟังทีหลัง.....เอาเรื่องน้องปาก่อนละกัน.....ในเอารถรุ่นไหนนี่มันก็ต้องมีการขออนุมัติ TOR กันก่อนตามระเบียบที่ ผบ. วางไว้  :-X

จะซื้อแบบ "ขับ2" หรือ "ขับ4"
ประเด็นนี้จริงๆ ในทางเทคนิคนั้น ผบ. ไม่ยุ่งอยู่แล้ว....แต่ที่มาเป็นประเด็นเพราะมันดันไปมีผลกับราคานี่ซิ......ขับ 4 แพงกว่า ขับ 2 อยู่บ้าง (เท่าไหร่ผมจำไม่ได้).....ผมขออนุมัติสเปคแบบ "ขับ 4" ไป ซึ่งแพงกว่า.....ก็เลยโดย ผบ. อภิปรายไม่ไว้วางใจ  :D ..... ต้องมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงเลือก "ขับ 4" อยู่นานเหมือนกัน กว่า TOR จะผ่าน.....ประเด็นที่ผมนำมาตอบการอภิปรายมี 2-3 เรื่องครับ  8)

"ขับ4" เที่ยวทั่วไทย ที่ไหนก็ไปได้.....จากที่เล่าให้ฟังมาแล้วว่าครอบครัวผมชอบเที่ยว....เที่ยวจนอยากไปที่ๆมันแปลกๆ.....แบบ Unseen บ้าง......ที่เที่ยวพวกนี้ ถนนหนทางมีดีบ้างไม่ดีบ้าง.....การไปด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงน่าอุ่นใจกว่า.....คือจริงๆ แล้วก็ไม่ได้กะจะไปเที่ยวแบบลุยป่าลุยโคลนแบบสุดๆหรอกครับ.....ผบ. ไม่ได้ชอบขนาดนั้น......ที่ๆไปเที่ยวก็คงมีถนนหนทางแย่บ้าง ลุยบ้างนิดหน่อย......จริงๆขับ2 ก็ผ่านได้.......แต่ผมก็บอกผบ.ไปว่า "ขับ4 มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เวลามีไม่ได้ใช้ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะต้องใช้แล้วไม่มีนี่ซิยุ่งเลย"........ขับไปเที่ยว เกิดฝนตก ติดหล่ม ติดโคลน ก็ได้มีการนอนในรถกันบ้านหละ.......ผบ. บอกว่าประเด็นนี้พอรับได้  ;D

"ขับ4" ปลอดภัย ถ้าใช้ให้เป็น......อีกประเด็นหนึ่งที่ผมนำมาอภิปรายให้ ผบ. ฟัง คือความปลอดภัยในการขับขี่.....คือโดยธรรมชาติของรถ PPV ซึ่งเป็นรถที่สูง ก็จะมีจุด CG ที่สูงตามไปด้วย.......การเข้าโค้ง ถ้าไม่ระมัดระวัง.....อาจเกิดอาการแหกโค้ง หรือกลิ้งเป็นลูกขนุนได้ง่าย......โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถนนลื่น......ยิ่งไปกว่านั้นน้องปาถ้าอยู่ในโหมดขับ 2 จะเป็นขับเคลื่อนล้อหลัง.......ในช่วงที่เข้าโค้งแล้วถนนลื่น......ถ้าไม่ระวังในการเติมคันเร่งกลางโค้ง.....เหมือนที่ชอบทำกันในรถขับเคลื่อนล้อหน้า (ประมาณว่าพอหัวจิกเข้าโค้งได้ ก็กดต่อไปเลย).....รถอาจเกิดอาการ Oversteering ได้ง่าย......มิดข้างทางมาก็เยอะ....กลิ้งเป็นลูกขนุนมาแล้วก็หลายคัน......ผมลงทุนเอารูปน้องปาที่เกิดอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ประมาณนี้ไปให้ผบ. ดู.....ส่วนหนึ่งรูปก็ได้มาจากบ้าน Society ที่มีสมาชิกมา post กันไว้นั่นแหละครับ.......และ "ขับ4" ก็เป็นการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งในกรณีนี้........ในขณะที่ถนนลื่น การใช้เกียร์ 4H ในการขับขี่จะลดอาการ Oversteering ไปได้อย่างมาก......ถ้าเป็นปกติอธิบายเรื่องนี้ให้ผู้หญิงฟัง คงต้องใช้ความพยายามน่าดู......โชคดีครับที่ผบ. ใช้ CRV อยู่ ซึ่งเป็นตัวที่เป็น "ขับ2" และผบ. ก็ได้ขับ CRV ของน้องที่เป็นตัว "ขับ4" อยู่บ่อยครั้ง.........คุณเธอก็เลยพอจะรู้สึกได้ว่า การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น มันปลอดภัยกว่าอย่างไร  ;D

เมื่อเอาเรื่องเที่ยว + ความปลอดภัยในการขับขี่ มารวมกัน เทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้น และอัตราการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสำหรับตัว "ขับ4" แล้ว.........ผบ. บอกว่า "คุ้มค่า"........อนุมัติ TOR ตามที่เสนอ  :sd01:

จะ ดำ หรือจะ ขาว
ประเด็นนี้ก็คือประเด็นเรื่องสีของน้องปาครับ......ประเด็นนี้ค่อนข้างยากกว่าประเด็นแรก เนื่องจากเป็นเรื่องของมุมมองด้านความสวยงาม.......เรื่องของเรื่องก็คือ ผมอยากได้ "ปาดำ"

ที่มาของการอยากได้ "ปาดำ" นี่คงต้องเล่าย้อนอดีตไปหน่อย.......คือในอดีต รถที่บ้านผมส่วนใหญ่จะเป็นรถสีดำ หรือสีเข้ม......คุณพ่อผมชอบมากกับพวกรถสีน้ำเงินเข้ม (ของเบนส์ ในรุ่นสมัยนั้น สีนี้จะสวยมาก).....ส่วนพี่ชายนี่มีกี่คัน พี่เขาดำตลอด.....ด้วยความที่มีรถสีเข้มอยู่เต็มบ้าน.....จึงได้รับรู้จุดอ่อนของมัน......คือ "การดูแลรักษา" ....... รถสีเข้มนี่ดูแลรักษายากครับ.......และเห็นได้ชัดมากหากขาดการดูแลรักษาที่ดี......สังเกตุดูได้จาก "รอยขนแมว".......รถสีดำนี่ รอยขนแมวมันมาง่ายมากๆ......ใช้ผ้าไม่สะอาดเช็ดไม่กี่ที พี่ขนแมวก็มาเยี่ยมละ........เห็นที่บ้านเป็นอย่างนี้ทุกคัน.......รถสีดำ + รอยขนแมว นี่มันไม่สวยจริงๆครับ........ด้วยเหตุนี้เวลาผมซื้อรถจึงมักเลือก "สีเงิน หรือ สีเทา" ...... ที่ซื้อสีนี้ไม่ใช่เพราะชอบนะครับ แต่มันดูแลรักษาง่ายครับ รอยขนแมวคงมี แต่มันมองไม่ค่อยเห็น........แต่ในใจแล้วชอบครับ ชอบสีขาว......คงเป็นเพราะเห็นรถสีดำที่ไม่สวยบ่อยมาก......ใจมันก็เลยชอบสีขาว.....คิดว่าสีขาวนี่ "ขนแมว" ก็มองไม่เห็นเหมือนสีเงิน สีเทานั่นแหละ........ถึงจะชอบสีขาว แต่ก็ไม่เคยได้ซื้อมาใช้นะครับ เพราะรถที่จะเหมาะกับสีขาวนั้นหายาก.......คือถ้าจะให้เป็นสีขาวแล้วสวยนี่มีไม่เยอะครับ......ผมก็เลยวนเวียนอยู่กับสีเงินและสีเทามาตลอด...........จนมาถึงเจ้า CIVIC FD.......อยากจะบอกว่า รถอะไรออกแบบมาเหมาะกับสีขาวม๊าาาาาาาากมาก.......เหมือนมันเกิดมาเพื่อเป็นรถสีขาวโดยเฉพาะ.......ผมไม่ลังเลเลยครับตอนซื้อ......ชอบสีขาวอยู่แล้ว แถมรถยังเข้ากับสีขาวได้ดีด้วย.....เลยจัดไปครับ สีขาวเท่านั้น......เพิ่มเงินเท่าไหร่บอกมา.......หลังจากการใช้เจ้า CIVIC ขาวแล้ว ทำให้ผมรู้ว่า......โอ้ววววววว พระเจ้า สีขาวนี่มันดูแลไม่ง่ายเลย

ผมเพิ่งมารู้ซึ้งว่ารถสีขาวดูแลยากก็ตอนใช้เจ้า FD นี่แหละครับ.........สีขาว.......ฝุ่นโคลนที่เปื้อนรถ เห็นชัดมาก ชัดพอๆกับรถสีดำเลย (เคยคิดว่ามันน่าจะมองเห็นฝุ่นโคลนที่ติดรถยากกว่า).......เหลืองง่าย....รถสีขาว ถ้าดูแลไม่ดี แดดเลียไปซักพักก็เหลือง......ยิ่งถ้าไปจอดคู่กับรถสีขาวที่ออกใหม่ๆ.....ขอบอกเลยครับ มันเหลืองจนน่าเกลียดมาก........ทำสีกี่ทำก็เพี้ยน.....เวลามีอุบัติเหตุและต้องไปทำสี......ทำใจไว้เลยครับว่าส่วนใหญ่ทำออกมาแล้วสีไม่เหมือนสีเดิมแน่ๆ ...... สำหรับรถสีขาวนี่เวลามองไปนี่รู้เลยครับว่าไปทำสีตรงไหนมาบ้าง.......ในเมื่อสีขาวก็ดูแลยาก และดูเหมือนมันจะยากกว่าสีดำเสียด้วยซ้ำ.....เลยค่อนข้างถอดใจกับรถสีขาวเลยครับ.......พอจะมาซื้อน้องปา......สีที่ผมอยากได้ก็เลยเป็นสีดำ.....ปาดำ ดูดุ โหดมาก ถ้าเอามาแต่งแบบ off road นี่คงแหล่มน่าดู.....ผมก็เลยเสนอ TOR ไปเป็น "น้องปาดำ" ให้ผบ. พิจารณา  :-*

แต่มีปัญหาครับ......ผบ. ดันไม่ชอบสีดำ  :'( ..... เธอบอกว่า "สีดำมันดูทมึนเกินไป" ...... ยังไงก็ไม่ยอมอนุมัติสีดำให้ครับ ..... ผมตื้ออยู่นานก็ยังไม่ยอม......สุดท้ายผบ. ยื่นคำขาดมาว่า "ให้ซื้อได้เข้มที่สุดคือสีเทาดำ" ....... สำหรับผมไม่ไหวครับ คือไม่ใช่ไม่สวยนะครับ แต่ในความรู้สึกผม มันสวยไม่เท่าสีดำ.....แถมการดูแลรักษาก็ยุ่งยากพอกับสีดำนั่นแหละ......ผมก็เลยเสนอ ผบ. ไปว่า "มี 2 สีให้เลือก ถ้าไม่ให้ซื้อสีดำ....ก็ซื้อสีขาวไปเลย"........ผบ.ก็เลยตอบว่า "งั้นชั้นเอาสีขาว"......นี่แหละครับเลยเป็นที่มาของ "ปาขาว ออสซี่" แทนที่จะเป็น "ปาดำ ออสซี่" ครับ  8)

We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ชัย (wansasi)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 940
  • Like: 15
  • เพศ: ชาย
  • Love me love my dog
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 06:26:20 »
การซื้อรถของพี่ตามกลับกันกับของผมเกือบทุกอย่างเลย
 
  1.ผมเลือกสีขาว ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าไม่ถูกฉโลกกับวันเกิดผมครับ
  2.ผมเลือก ขับสอง รุ่นท๊อป ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าถ้าจะซื้อต้องรุ่นท๊อป 3.2 ขับสี่ เท่านั้น เหตุผลคือไม่ต้องมาบ่นว่า รู้เงี้ยออกรุ่นท๊อปดีกว่า ขาดนู่นขาดนี่ แล้วก็เรื่องเกียร์ขับสี่อีกว่า มีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ
  3.ถ้าไม่รับข้อเสนอแนะ ก็ไม่ต้องออก ผบฺ. จะไปออก Fortuner Sportivo แทนครับก็เลยตามใจท่าน ผบ. ครับ
  4.ผบ. บอกนี่ขนาดออกรุ่นท๊อป ผมยังแอบใส่โน่นใส่นี่แบบที่ ผบ. มารู้ที่หลังอีกหลายอย่างเลยโดนเหน็บว่า ถ้าออกรุ่นต่ำกว่ามิต้องแต่งมากกว่านี้อีกเหรอครับ

ก็เลยใช้เจ้าปาได้อย่างสบายใจ แถมเป็นรุ่น limited อีกครับ ปล.อยากเป็น ปาดำออสซี่ ด้วยครับ
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ วี พระนคร

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 701
  • Like: 22
  • "เราต้องปรับตัวเข้าหารถ ไม่ใช่ให้รถปรับเข้าหาเรา"
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 07:28:57 »
การซื้อรถของพี่ตามกลับกันกับของผมเกือบทุกอย่างเลย
 
  1.ผมเลือกสีขาว ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าไม่ถูกฉโลกกับวันเกิดผมครับ
  2.ผมเลือก ขับสอง รุ่นท๊อป ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าถ้าจะซื้อต้องรุ่นท๊อป 3.2 ขับสี่ เท่านั้น เหตุผลคือไม่ต้องมาบ่นว่า รู้เงี้ยออกรุ่นท๊อปดีกว่า ขาดนู่นขาดนี่ แล้วก็เรื่องเกียร์ขับสี่อีกว่า มีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ
  3.ถ้าไม่รับข้อเสนอแนะ ก็ไม่ต้องออก ผบฺ. จะไปออก Fortuner Sportivo แทนครับก็เลยตามใจท่าน ผบ. ครับ
  4.ผบ. บอกนี่ขนาดออกรุ่นท๊อป ผมยังแอบใส่โน่นใส่นี่แบบที่ ผบ. มารู้ที่หลังอีกหลายอย่างเลยโดนเหน็บว่า ถ้าออกรุ่นต่ำกว่ามิต้องแต่งมากกว่านี้อีกเหรอครับ

ก็เลยใช้เจ้าปาได้อย่างสบายใจ แถมเป็นรุ่น limited อีกครับ ปล.อยากเป็น ปาดำออสซี่ ด้วยครับ
 ;D ;D ;D

พี่ชัย ผมว่า ผบ. พี่ชัยเข้าใจจิตใจ คนเล่นรถนะครับพี่

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 11:58:59 »
การซื้อรถของพี่ตามกลับกันกับของผมเกือบทุกอย่างเลย
 
  1.ผมเลือกสีขาว ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าไม่ถูกฉโลกกับวันเกิดผมครับ
  2.ผมเลือก ขับสอง รุ่นท๊อป ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าถ้าจะซื้อต้องรุ่นท๊อป 3.2 ขับสี่ เท่านั้น เหตุผลคือไม่ต้องมาบ่นว่า รู้เงี้ยออกรุ่นท๊อปดีกว่า ขาดนู่นขาดนี่ แล้วก็เรื่องเกียร์ขับสี่อีกว่า มีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ
  3.ถ้าไม่รับข้อเสนอแนะ ก็ไม่ต้องออก ผบฺ. จะไปออก Fortuner Sportivo แทนครับก็เลยตามใจท่าน ผบ. ครับ
  4.ผบ. บอกนี่ขนาดออกรุ่นท๊อป ผมยังแอบใส่โน่นใส่นี่แบบที่ ผบ. มารู้ที่หลังอีกหลายอย่างเลยโดนเหน็บว่า ถ้าออกรุ่นต่ำกว่ามิต้องแต่งมากกว่านี้อีกเหรอครับ

ก็เลยใช้เจ้าปาได้อย่างสบายใจ แถมเป็นรุ่น limited อีกครับ ปล.อยากเป็น ปาดำออสซี่ ด้วยครับ
 ;D ;D ;D

ไม่ได้ละ......ต้องรีบหาเรื่องไประยองไปเจอพี่ชัยด่วนเลย......ต้องพา ผบ. ผมไปให้ ผบ. พี่ชัยอบรมซะหน่อยแล้ว  ;D ;D ;D
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 12:15:40 »
การซื้อรถของพี่ตามกลับกันกับของผมเกือบทุกอย่างเลย
 
  1.ผมเลือกสีขาว ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าไม่ถูกฉโลกกับวันเกิดผมครับ
  2.ผมเลือก ขับสอง รุ่นท๊อป ผบ.ไม่อนุมัติ แล้วก็อธิบายว่าถ้าจะซื้อต้องรุ่นท๊อป 3.2 ขับสี่ เท่านั้น เหตุผลคือไม่ต้องมาบ่นว่า รู้เงี้ยออกรุ่นท๊อปดีกว่า ขาดนู่นขาดนี่ แล้วก็เรื่องเกียร์ขับสี่อีกว่า มีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ
  3.ถ้าไม่รับข้อเสนอแนะ ก็ไม่ต้องออก ผบฺ. จะไปออก Fortuner Sportivo แทนครับก็เลยตามใจท่าน ผบ. ครับ
  4.ผบ. บอกนี่ขนาดออกรุ่นท๊อป ผมยังแอบใส่โน่นใส่นี่แบบที่ ผบ. มารู้ที่หลังอีกหลายอย่างเลยโดนเหน็บว่า ถ้าออกรุ่นต่ำกว่ามิต้องแต่งมากกว่านี้อีกเหรอครับ

ก็เลยใช้เจ้าปาได้อย่างสบายใจ แถมเป็นรุ่น limited อีกครับ ปล.อยากเป็น ปาดำออสซี่ ด้วยครับ
 ;D ;D ;D

พี่ตามมีของแต่งออสซี่เหลือมั๊ย ลูกค้ามาเคาะประตูถึงหน้าบ้านแล้ว  :sd42: :sd42: :sd42:

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
Re: กว่าจะมาเป็น ปาออสซี่
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 12:17:05 »
จะ 2 หรือ 4.....จะ ดำ หรือ ขาว

เอาหละครับ เมื่องบประมาณได้รับการอนุมัติแล้ว หลังจากพยายามมาปีกว่าๆ........ก็เริ่มกระบวนการ หาข้อมูล เพื่อตัดสินใจ ทั้งในเรื่องของศูนย์ที่จะจอง และน้องปาเจโร่สปอร์ตที่จะซื้อ.......ในเรื่องของศูนย์ เดี๋ยวค่อยมาเหลาให้ฟังทีหลัง.....เอาเรื่องน้องปาก่อนละกัน.....ในเอารถรุ่นไหนนี่มันก็ต้องมีการขออนุมัติ TOR กันก่อนตามระเบียบที่ ผบ. วางไว้  :-X

จะซื้อแบบ "ขับ2" หรือ "ขับ4"
ประเด็นนี้จริงๆ ในทางเทคนิคนั้น ผบ. ไม่ยุ่งอยู่แล้ว....แต่ที่มาเป็นประเด็นเพราะมันดันไปมีผลกับราคานี่ซิ......ขับ 4 แพงกว่า ขับ 2 อยู่บ้าง (เท่าไหร่ผมจำไม่ได้).....ผมขออนุมัติสเปคแบบ "ขับ 4" ไป ซึ่งแพงกว่า.....ก็เลยโดย ผบ. อภิปรายไม่ไว้วางใจ  :D ..... ต้องมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงเลือก "ขับ 4" อยู่นานเหมือนกัน กว่า TOR จะผ่าน.....ประเด็นที่ผมนำมาตอบการอภิปรายมี 2-3 เรื่องครับ  8)

"ขับ4" เที่ยวทั่วไทย ที่ไหนก็ไปได้.....จากที่เล่าให้ฟังมาแล้วว่าครอบครัวผมชอบเที่ยว....เที่ยวจนอยากไปที่ๆมันแปลกๆ.....แบบ Unseen บ้าง......ที่เที่ยวพวกนี้ ถนนหนทางมีดีบ้างไม่ดีบ้าง.....การไปด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงน่าอุ่นใจกว่า.....คือจริงๆ แล้วก็ไม่ได้กะจะไปเที่ยวแบบลุยป่าลุยโคลนแบบสุดๆหรอกครับ.....ผบ. ไม่ได้ชอบขนาดนั้น......ที่ๆไปเที่ยวก็คงมีถนนหนทางแย่บ้าง ลุยบ้างนิดหน่อย......จริงๆขับ2 ก็ผ่านได้.......แต่ผมก็บอกผบ.ไปว่า "ขับ4 มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เวลามีไม่ได้ใช้ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะต้องใช้แล้วไม่มีนี่ซิยุ่งเลย"........ขับไปเที่ยว เกิดฝนตก ติดหล่ม ติดโคลน ก็ได้มีการนอนในรถกันบ้านหละ.......ผบ. บอกว่าประเด็นนี้พอรับได้  ;D

"ขับ4" ปลอดภัย ถ้าใช้ให้เป็น......อีกประเด็นหนึ่งที่ผมนำมาอภิปรายให้ ผบ. ฟัง คือความปลอดภัยในการขับขี่.....คือโดยธรรมชาติของรถ PPV ซึ่งเป็นรถที่สูง ก็จะมีจุด CG ที่สูงตามไปด้วย.......การเข้าโค้ง ถ้าไม่ระมัดระวัง.....อาจเกิดอาการแหกโค้ง หรือกลิ้งเป็นลูกขนุนได้ง่าย......โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถนนลื่น......ยิ่งไปกว่านั้นน้องปาถ้าอยู่ในโหมดขับ 2 จะเป็นขับเคลื่อนล้อหลัง.......ในช่วงที่เข้าโค้งแล้วถนนลื่น......ถ้าไม่ระวังในการเติมคันเร่งกลางโค้ง.....เหมือนที่ชอบทำกันในรถขับเคลื่อนล้อหน้า (ประมาณว่าพอหัวจิกเข้าโค้งได้ ก็กดต่อไปเลย).....รถอาจเกิดอาการ Oversteering ได้ง่าย......มิดข้างทางมาก็เยอะ....กลิ้งเป็นลูกขนุนมาแล้วก็หลายคัน......ผมลงทุนเอารูปน้องปาที่เกิดอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ประมาณนี้ไปให้ผบ. ดู.....ส่วนหนึ่งรูปก็ได้มาจากบ้าน Society ที่มีสมาชิกมา post กันไว้นั่นแหละครับ.......และ "ขับ4" ก็เป็นการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งในกรณีนี้........ในขณะที่ถนนลื่น การใช้เกียร์ 4H ในการขับขี่จะลดอาการ Oversteering ไปได้อย่างมาก......ถ้าเป็นปกติอธิบายเรื่องนี้ให้ผู้หญิงฟัง คงต้องใช้ความพยายามน่าดู......โชคดีครับที่ผบ. ใช้ CRV อยู่ ซึ่งเป็นตัวที่เป็น "ขับ2" และผบ. ก็ได้ขับ CRV ของน้องที่เป็นตัว "ขับ4" อยู่บ่อยครั้ง.........คุณเธอก็เลยพอจะรู้สึกได้ว่า การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น มันปลอดภัยกว่าอย่างไร  ;D

เมื่อเอาเรื่องเที่ยว + ความปลอดภัยในการขับขี่ มารวมกัน เทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้น และอัตราการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสำหรับตัว "ขับ4" แล้ว.........ผบ. บอกว่า "คุ้มค่า"........อนุมัติ TOR ตามที่เสนอ  :sd01:

จะ ดำ หรือจะ ขาว
ประเด็นนี้ก็คือประเด็นเรื่องสีของน้องปาครับ......ประเด็นนี้ค่อนข้างยากกว่าประเด็นแรก เนื่องจากเป็นเรื่องของมุมมองด้านความสวยงาม.......เรื่องของเรื่องก็คือ ผมอยากได้ "ปาดำ"

ที่มาของการอยากได้ "ปาดำ" นี่คงต้องเล่าย้อนอดีตไปหน่อย.......คือในอดีต รถที่บ้านผมส่วนใหญ่จะเป็นรถสีดำ หรือสีเข้ม......คุณพ่อผมชอบมากกับพวกรถสีน้ำเงินเข้ม (ของเบนส์ ในรุ่นสมัยนั้น สีนี้จะสวยมาก).....ส่วนพี่ชายนี่มีกี่คัน พี่เขาดำตลอด.....ด้วยความที่มีรถสีเข้มอยู่เต็มบ้าน.....จึงได้รับรู้จุดอ่อนของมัน......คือ "การดูแลรักษา" ....... รถสีเข้มนี่ดูแลรักษายากครับ.......และเห็นได้ชัดมากหากขาดการดูแลรักษาที่ดี......สังเกตุดูได้จาก "รอยขนแมว".......รถสีดำนี่ รอยขนแมวมันมาง่ายมากๆ......ใช้ผ้าไม่สะอาดเช็ดไม่กี่ที พี่ขนแมวก็มาเยี่ยมละ........เห็นที่บ้านเป็นอย่างนี้ทุกคัน.......รถสีดำ + รอยขนแมว นี่มันไม่สวยจริงๆครับ........ด้วยเหตุนี้เวลาผมซื้อรถจึงมักเลือก "สีเงิน หรือ สีเทา" ...... ที่ซื้อสีนี้ไม่ใช่เพราะชอบนะครับ แต่มันดูแลรักษาง่ายครับ รอยขนแมวคงมี แต่มันมองไม่ค่อยเห็น........แต่ในใจแล้วชอบครับ ชอบสีขาว......คงเป็นเพราะเห็นรถสีดำที่ไม่สวยบ่อยมาก......ใจมันก็เลยชอบสีขาว.....คิดว่าสีขาวนี่ "ขนแมว" ก็มองไม่เห็นเหมือนสีเงิน สีเทานั่นแหละ........ถึงจะชอบสีขาว แต่ก็ไม่เคยได้ซื้อมาใช้นะครับ เพราะรถที่จะเหมาะกับสีขาวนั้นหายาก.......คือถ้าจะให้เป็นสีขาวแล้วสวยนี่มีไม่เยอะครับ......ผมก็เลยวนเวียนอยู่กับสีเงินและสีเทามาตลอด...........จนมาถึงเจ้า CIVIC FD.......อยากจะบอกว่า รถอะไรออกแบบมาเหมาะกับสีขาวม๊าาาาาาาากมาก.......เหมือนมันเกิดมาเพื่อเป็นรถสีขาวโดยเฉพาะ.......ผมไม่ลังเลเลยครับตอนซื้อ......ชอบสีขาวอยู่แล้ว แถมรถยังเข้ากับสีขาวได้ดีด้วย.....เลยจัดไปครับ สีขาวเท่านั้น......เพิ่มเงินเท่าไหร่บอกมา.......หลังจากการใช้เจ้า CIVIC ขาวแล้ว ทำให้ผมรู้ว่า......โอ้ววววววว พระเจ้า สีขาวนี่มันดูแลไม่ง่ายเลย

ผมเพิ่งมารู้ซึ้งว่ารถสีขาวดูแลยากก็ตอนใช้เจ้า FD นี่แหละครับ.........สีขาว.......ฝุ่นโคลนที่เปื้อนรถ เห็นชัดมาก ชัดพอๆกับรถสีดำเลย (เคยคิดว่ามันน่าจะมองเห็นฝุ่นโคลนที่ติดรถยากกว่า).......เหลืองง่าย....รถสีขาว ถ้าดูแลไม่ดี แดดเลียไปซักพักก็เหลือง......ยิ่งถ้าไปจอดคู่กับรถสีขาวที่ออกใหม่ๆ.....ขอบอกเลยครับ มันเหลืองจนน่าเกลียดมาก........ทำสีกี่ทำก็เพี้ยน.....เวลามีอุบัติเหตุและต้องไปทำสี......ทำใจไว้เลยครับว่าส่วนใหญ่ทำออกมาแล้วสีไม่เหมือนสีเดิมแน่ๆ ...... สำหรับรถสีขาวนี่เวลามองไปนี่รู้เลยครับว่าไปทำสีตรงไหนมาบ้าง.......ในเมื่อสีขาวก็ดูแลยาก และดูเหมือนมันจะยากกว่าสีดำเสียด้วยซ้ำ.....เลยค่อนข้างถอดใจกับรถสีขาวเลยครับ.......พอจะมาซื้อน้องปา......สีที่ผมอยากได้ก็เลยเป็นสีดำ.....ปาดำ ดูดุ โหดมาก ถ้าเอามาแต่งแบบ off road นี่คงแหล่มน่าดู.....ผมก็เลยเสนอ TOR ไปเป็น "น้องปาดำ" ให้ผบ. พิจารณา  :-*

แต่มีปัญหาครับ......ผบ. ดันไม่ชอบสีดำ  :'( ..... เธอบอกว่า "สีดำมันดูทมึนเกินไป" ...... ยังไงก็ไม่ยอมอนุมัติสีดำให้ครับ ..... ผมตื้ออยู่นานก็ยังไม่ยอม......สุดท้ายผบ. ยื่นคำขาดมาว่า "ให้ซื้อได้เข้มที่สุดคือสีเทาดำ" ....... สำหรับผมไม่ไหวครับ คือไม่ใช่ไม่สวยนะครับ แต่ในความรู้สึกผม มันสวยไม่เท่าสีดำ.....แถมการดูแลรักษาก็ยุ่งยากพอกับสีดำนั่นแหละ......ผมก็เลยเสนอ ผบ. ไปว่า "มี 2 สีให้เลือก ถ้าไม่ให้ซื้อสีดำ....ก็ซื้อสีขาวไปเลย"........ผบ.ก็เลยตอบว่า "งั้นชั้นเอาสีขาว"......นี่แหละครับเลยเป็นที่มาของ "ปาขาว ออสซี่" แทนที่จะเป็น "ปาดำ ออสซี่" ครับ  8)



ระเอียดรอบครอบกันทั้งคู่เลย  :sd09: :sd09: :sd09: