ผู้เขียน หัวข้อ: บทสุดท้ายของมหากาพย์เรื่องความร้อนครับ......ตอนอวสาน  (อ่าน 128145 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
อ่านเพลินดีครับพี่ตาม แถมได้ความรู้ด้วย เอาไปหนึ่ง  :L6428:

ออฟไลน์ พี่ไซ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,786
  • Like: 85
  • เพศ: ชาย
  • รถดีๆ นั้นคงมีแต่ใน นิยาย
มาเกาะขอบจอรอฟังครับ
 :L6428: :L6428: :L6428:

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ตอนี่ 6 วิกฤตกว่าเดิม

เอาละครับพอลงมาพื้นราบช่วงตาก....อากาศช่วงบ่ายๆยังร้อนตับแลบเหมือนเดิม....แดดเปรี้ยงจนรู้สึกว่าแอร์มันจะสู้ไม่ค่อยไหว......การขับช่วงนี้ก็มาเรื่อยๆครับ...รถไม่มาก ทำความเร็วได้ดี.......ความร้อนก็ปกติ....วันเวียนอยู่ที่ 95-98......แต่ต้องขับแบบประคองนะครับ...มีผ่อนบ้างเพื่อระบายความร้อนเพื่อกดต่อ.....แต่ผมก็เริ่มรู้สึกว่าเวลาเร่งแซงทำไมความร้อนมันขึ้นเร็วจัง....แต่ไม่ได้คิดอะไร.....เพราะพอแซงแล้ว ยกคันเร่งหน่อยนึง....ความร้อนก็ลง....ความร้อนมีขึ้นไปแตะ 100 บ้างเวลาเร่งแซงหลายๆคัน....กดยาว....ความร้อนก็ขึ้น.....จนรู้สึกว่าเออ....ขับแบบนี้มันเหนื่อยเหมือนกันนะ....ต้องคอยจ้องความร้อนตลอด......พอเริ่มเข้าช่วงกำแพงเพชร....ผบ.ขอให้จอดแวะซื้อของฝาก.....ผมก็เลยจัดการปิดกล่องข้าวน้อยซะ.....กะว่าจะขับแบบชิลๆ ไม่ต้องระแวงความร้อนดีกว่า

หลังจากออกเดินทางอีกครั้ง....ผ่านทางเข้าเมืองกำแพงเพชร.....ถนนเริ่มว่างมากขึ้นอีก.....ผมก็พยายามทำความเร็วเพิ่มขึ้นอีก....ด้วยใจอยากกลับไปกินข้าวเย็นแถวอยุธยา ก่อนเข้ากรุงเทพฯ.....เกรงว่าถ้าไม่ทำเวลา เดี๋ยวเย็นๆ เด็กๆหิวจะต้องจอดกินแถวกลางทาง ไม่รู้จักร้านอร่อยๆเลย......แต่พอผ่านช่วงเมืองกำแพงเพชรไป....วิกฤตเริ่มมาละครับ.....ผมเริ่มประคองความร้อนไม่อยู่ละ.....ทั้งๆที่ปิดกล่องข้าวน้อยไปแล้วนะ.....ความร้อนก็ยังขึ้น.....ยกคันเร่งทีนี้ไม่ยอมลด หรือลดช้ามาก......เริ่มทำความเร็วไม่ได้อีกละ......ขับไปอีกซักพัก ยิ่งหนักข้อขึ้นอีก.....ทีนี้ที่ความเร็ว 120 ความร้อนขึ้นแตะ 100 ตลอด.....ผมเริ่มเอะใจละ....ไม่ดีแน่......พอดีช่วงนั้นผบ.หลับ.....เลยถือโอกาศยื่นมือไปปรับสมาร์ทเกทเพิ่มอุณหภูมิแจ้งเตือนขึ้นไปอีก....จากเดิม 101 เพิ่มเป็น 105 เลย........ขับต่อ......ไปซักพักด้วยความเร็วยืนพื้นที่ 120.....เหลือบมาเห็นสมาร์ทเกท....เฮ้ย....ความร้อนอยู่ที่ 102 .....เฮ้ย.....เป็นไปได้ไงวะ.....กล่องข้าวน้อยก็ปิดแล้ว.....อากาศถึงจะร้อน แต่ลมปะทะหน้าเครื่องมีเยอะ ควรระบายได้ดีนี่หว่า......ความร้อนมันไม่ลดลงเลย....ต้องลดความเร็วลงมาที่ 100 ความร้อนถึงจะลดลงบ้าง.....เฮ้ย.....อาการนี้ไม่เคยเป็นเลยนี่หว่า.....ปกติต่ำกว่า 120 นี่ความร้อนอยู่ 96-97 ตลอด.....ใจผมคิดถึงเรื่องเดียวเลยครับ....."หม้อน้ำ".......เวรกรรมละ....เปลี่ยนหม้อใหม่มา....ไหงอาการหนักกว่าเดิม.....แถมยกคันเร่งแล้วมันก็ยังไม่ยอมลดลงอีก.......ในใจเริ่มท้อกับรถคันนี้ละ....แม่มอะไรกันนักหนาวะ.....ลงทุนเปลี่ยนหม้อน้ำแล้ว....อาการไม่ดีขึ้นแถมหนักขึ้นอีก

พยายามประคองขับด้วยความเร็ว 100-120 มาได้อีกแป๊บนึง....ความร้อนก็ยังไม่ลดลง....มันวนเวียนไปมาอยู่แถว 102-104 ตลอด.....อารมย์จากท้อ...เริ่มเปลี่ยนเป็นแค้น.....เออ....มึงอยากร้อนนักใช่มั๊ย.....ได้....งั้นมรึงฮีทไปเลยละกัน......ว่าแล้วก็ปรับการตั้งเตือนสมาร์ทเกทไปที่ 109 เลยครับ......มีอยากร้อนนัก....ได้....เดี๋ยวจัดให้.....จากนั้นผมก็ขับทำความเร็วเพิ่มขึ้นไปอีก....ความเร็วยืนพื้นที่ 140....ความร้อนไปโน่นเลยครับ มันวนเวียนอยู่แถว 105-107.....แต่ส่วนใหญ่จะคงที่อยู่ที่ 105........ผมสังเกตุเข็มวัดความร้อนที่หน้าคอนโซล.....ดูว่ามันจะขยับมั๊ย.....กะว่า ถ้าขยับ ก็จะลากขับไปอีก ดูซิว่ามันจะฮีทไปเลยมั๊ย (ตอนนั้นอารมย์แค้นครับ)......ผมขับลากอยู่ที่ความร้อนประมาณ 105 ยาวมาก.....หลายสิบกิโลอยู่ครับ......จนมาถึงช่วงรอยต่อกำแพงเพชร-นครสวรรค์.....ผบ. ตื่นมาพอดี.....เห็นร้านขายของข้างทางเยอะแยะเลย......พอเริ่มเข้าเขตนครสวรรค์มากขึ้น.....เห็นมีขายมะม่วงกันเยอะ....ผบ.เลยบอกให้จอดแวะซื้อมะม่วงหน่อย (ลูกผมชอบกินมะม่วงมาก)......ก็เลยจอดครับ.....พอจอดความร้อนก็เริ่มลดลงมาเรื่อยๆ.....อารมย์ผมก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆเหมือนกัน.....ผบ.เหมือนรู้ใจ อยู่เดินมาเอามะม่วงที่ปอกแล้วมาให้ลูกนึง....ผมก็นั่งกินไป คิดไป...เอาไงดีวะ....ขืนขับแบบนี้ต่อไปมีพังกันไปข้างแหงๆ.....เลยอ้างว่ากินมะม่วงกันก่อนละกัน....จอดรถสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ ให้เครื่องเดินเบาระบายความร้อนไป....ส่วนผมก็ออกมาเดินดูมะม่วงกะเขาบ้าง เดินดูไปกินไป เพลินๆดี

พอซื้อมะม่วงเสร็จ (กวาดมาซะเต็มรถเลย)......เลยบอกให้แม่ค้าปอกมะม่วงมาให้อีก 3 ลูก.....ขึ้นรถ...ล้อหมุน...ออกเดินทางต่อ......ทีนี้ขับแบบช้าๆ....เรื่อยๆ....ขับไปกินมะม่วงไป......ความเร็วประมาณ 100 ประคองไป.....ความร้อนเจ้ากรรม ยังอยู่เหมือนเดิม ดีกว่าเดิมนิดนึง มันลงมาวนเวียนอยู่แถว 90-100-101....คงเป็นเพราะขับช้าด้วย......ผ่านเส้น bypass นครสวรรค์.....เข้าเส้นสายเอเซีย.....ทำความเร็วไม่ค่อยได้...ไปช้ามาก.....เวลาเริ่มเย็นและ.....ผมก็เดาว่าอากาศมันเริ่มไม่ร้อนละ....น่าจะพอทำความเร็วได้....แต่ความร้อนเดิมมันยังเยอะอยู่.....เลยแจ้งผบ.ขอจอดหากาแฟกินซักแก้ว......จริงๆไม่ใช่อะไรครับ....จะจอดระบายความร้อนให้มันลงมาต่ำๆก่อน....พอถึงช่วงอุทัยเลยแวะปั๊ม....จอดพักเครื่อง...หากาแฟกิน หาขนมกินไปเรื่อย...พักอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงได้....ค่อยเดินทางต่อ

ทีนี้พอออกจากปั๊มมา เวลาเริ่มเย็นละ...อากาศไม่ร้อน....ผมก็ลองขับแบบธรรมดา ค่อยๆเติมคันเร่งไป....เออ.....พอเย็นๆ...ความร้อนมันเดินช้าดี.....อาการกลับไปเป็นปกติแล้ว.....ความเร็ว 120 ความร้อนประมาณ 97-98....ยกคันเร่งหน่อย ความร้อนลงมาที่ 94....กดต่อไปอีก.....ความเร็ว 140 ความร้อนก็ยังวนเวียนอยู่แค่ 97-98 เหมือนเดิม.....เอาวะ....เริ่มดีละ....ทำความเร็วได้มากขึ้น.....แต่ก็เสียเวลาไปมากกับการจอด และขับแบบช้าๆมาเรื่อยๆ.....เลยคุยกับเพื่อนๆในคณะ (เขานำผมไปหมดแล้ว).....ตัดสินใจจอดแวะกินข้าวที่สิงห์บุรี...มีร้านที่เคยมากิน...รสชาติใช้ได้...เด็กๆหิวแล้ว....เลยขอแวะร้านนี้ซะเลย

หลังจากกินข้าวเสร้จก็มืดแล้ว ออกจากร้านมาน่าจะประมาณ 2 ทุ่มเห็นจะได้.....ทีนี้ความร้อนแม่มปกติเลย 94-97 ไม่ขึ้นเลยจากนี้เลย.....ผมก็ยิงยาวกลับกรุงเทพฯ....ผ่านวิกฤตมาได้โดยน้องปาไม่ฮีทตายคาถนน.....แต่ก็ทำให้ผมต้องพกความกังวลกลับมานอนคิดอีกหลายคืน.....พอกลับกรุงเทพฯ ผมก็มาลองขับแถวบ้าน ขับเข้าเมือง ก็ไม่มีอาการปัญหาเรื่องความร้อนอีกเลย.....งงครับ.....ตอนนี้อาการความร้อนมันแปลกมาก...รอบต่ำ หรือขับในเมือง ขับชานเมือง....ปัญหาความร้อนไม่มี ความร้อนต่ำกว่าเมื่อตอนเปลี่ยนหม้อน้ำอีก....แต่พอขับความเร็วสูง + อากาศร้อนๆ....กลับประคองความร้อนไม่อยู่....และความร้อนขึ้นสูงมาก สูงกว่าตอนก่อนเปลี่ยนหม้อน้ำซะอีก........ใจผมเริ่มคิดละ.....หม้อน้ำเดิมจะดีกว่ามั๊ย.....หม้อใหม่นี่มันทำงานได้ดีจริงหรือเปล่าหว่า.....พกพาความสงสัยกลับบ้านไปนอนคิดอยู่อีกหลายคืนเลยทีนี้


 :L4386: :L4386:

We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ตอนที่ 7 วิเคราะห์ปัญหา

เอาละครับ กลับมากรุงเทพฯ.........ลองขับในเมือง ลองขับชานเมืองอยู่อีกหลายวัน....ความร้อนก็ปกติ วนเวียนอยู่แถว 94-98 ประมาณนี้......แปลกมาก....เพราะรถที่มีปัญหาเรื่องความร้อนส่วนใหญ่อาการจะฟ้องตอนขับช้า รถติด หรือรอบเดินเบาด้วย....เพราะลมปะทะหน้าเครื่องไม่มีหรือมีน้อย....พึ่งพาระบบระบายความร้อนของรถอย่างเดียว (คือพัดลม) .....ระบายไม่ทัน.....หรือจะเกิดอีกทีตอนอัดมากๆ เร่งมากๆ...ความร้อนมาไวก็ระบายไม่ทัน.....แต่ของผม รถติดในเมือง รอบเดินเบา ปัญหาความร้อนไม่มี......ไปมีตอนความเร็วสูงๆ อากาศร้อนๆ.....ถึงแม้ไม่อัดมาก ไม่เร่งมาก ความร้อนก็สูง.....อาการมันแปลกประหลาด

จริงๆอาการนี้ผมได้โทรปรึกษาเล่าให้พี่นะฟังตั้งแต่อยู่แม่สอดก่อนเข้าอุ้มผาง.....พี่นะเล่าให้ฟังว่า เวลาอากาศร้อน นอกจากรถจะระบายความร้อนได้ไม่ดีแล้ว.....ความร้อนจากคอยแอร์ยังมีผลด้วย...เพราะอากาศร้อน....คอมแอร์ทำงานหนัก....คอยแอร์ก็ร้อนมาก......ทีนี้น้องปาเรา คอยแอร์นี่มันอยู่ตรงหน้าหม้อน้ำพอดี (อยู่ตรงกลางระหว่างพัดลมไฟฟ้ากับหม้อน้ำ).....พัดลมไฟฟ้าน้องปาเราก็ทำงานใน 2 ระบบ คือระบายความร้อนให้คอยแอร์ด้วย ระบายความร้อนให้หม้อน้ำด้วย.....ทีนี้พอคอยแอร์ร้อนมากๆ.....พัดลมไฟฟ้าเป่าอยู่ที่หน้าคอยแอร์....ความร้อนมันก็ผ่านมาที่หม้อน้ำด้วยเช่นกัน....พี่นะแนะนำว่าให้ลองทดสอบวิ่งโดยปิดแอร์...จะเห็นว่าความร้อนมันเดินช้าลงและระบายดีขึ้น.....ผมก็ลองทดสอบดูก็เป็นแบบนั้นจริงๆ......แต่อากาศร้อนแบบเมืองไทยจะให้ผมขับแบบปิดแอร์นี่.....ต่อให้ผมไม่ร้อนตายในรถ คงโดนผบ.ยิงตายคารถ โทษฐาน แต่งรถจนออกทะเลแหงๆ  :L4386: :L4386:

พอมีเวลาว่าง ผมก็ลองถอดกระจังหน้าออกมาเพื่อดูตำแหน่งของคอยแอร์ให้ชัดๆ....เอามันอยู่หน้าหม้อน้ำพอดี....คือถ้าแบ่งหม้อน้ำเป็น 4 ส่วน.....คอยแอร์จะขวางอยู่ด้านบน 2 ส่วนเลย.....ขวางแบบเต็มๆเลย.....ส่วนด้านล่างของหม้อน้ำนั้น ด้านฝั่งคนขับมี intercool มาขวางไว้อีก....เหลือแค่ด้านล่างฝั่งคนนั่งข้างเท่านั้นที่หม้อน้ำได้ลมปะทะหน้าเครื่องเต็มๆ......และจากที่ถอดกระจังหน้าออกมาดูแล้ว....ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เกิดจากการเปลี่ยนหม้อน้ำ....คือหม้อใหม่มันหนาขึ้นกว่าเดิม (เต็มช่องพอดี จากเดิมมีแค่ 1ใน3ของช่อง).....พอมันหนาขึ้นมาเต็มช่อง....สิ่งที่หายไปก็คือ.....ช่องว่างระหว่างหม้อน้ำกับคอยแอร์....คือถ้าเป็นหม้อเดิมมันจะมีช่องว่างอยู่หน่อยนึง....แต่หม้อใหม่นี้ช่องว่างนั้นแทบไม่มีเลย......ทีนี้พอพัดลมไฟฟ้าเป่าที่คอยแอร์.....จากเดิมที่มีช่องว่างให้ระบายอากาศร้อนออกไปได้บ้าง มันกลับไม่มีเลย....แปลว่าพัดลมไฟฟ้าเป่าเอาอากาศร้อนจากคอยแอร์มาปะทะหม้อน้ำตรงๆ......นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาอากาศร้อนแล้วการระบายความร้อนไม่ดี (เพราะพออากาศร้อน แอร์ทำงานหนัก และเราก็อาจจะเร่งแอร์ให้เย็นขึ้นอีกเพื่อสู้กับอากาศร้อนภายในห้องโดยสาร ก็ยิ่งทำให้คอมแอร์ทำงานหนักเข้าไปอีก ยิ่งคอมแอร์ทำงานหนัก คอยแอร์ก็ต้องยิ่งต้องการการระบายความร้อนมากขึ้นอีก ความร้อนไปไหนไม่ได้ เพราะหม้อใหม่ทำให้ช่องว่างที่จะระบายมันหายไป มันก็เลยเป่าลมร้อนใส่หม้อน้ำซะเลย)

ใช่ครับ....อันนี้เป็นสมมติฐานของผม...ที่ได้จากการคุยกับพี่นะ และลองเปิดกระจังหน้ามามองดู....มันไม่มีทฤษฎีรองรับ....แต่ในใจผมก็ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้ความร้อนน้องเต่าขาวขึ้นไปถึง 105 ได้.....ใจผมยังปักใจเชื่อว่ามันต้องเป็นปัญหาที่หม้อน้ำใหม่แน่ๆ


 :L4386: :L4386:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ตอนที่ 8 ควานหาตัวผู้ต้องหา

ใจผมนะ...คิดวนเวียนอยู่แค่ว่าต้องเป็นเพราะหม้อน้ำใหม่แน่ๆ.....บางครั้งก็นึกว่าจะเปลี่ยนหม้อน้ำเดิมกลับมาดีมั๊ยหนอ....คิดวนเวียนอยู่แบบนี้....ยังมืดมนหาทางออกกับไอ้ปัญหาความร้อนนี้ไม่ได้....เพราะทุกแหล่งที่ผมปรึกษาพูดเหมือนกันว่าถ้าเปลี่ยนหม้อน้ำแล้วจบ....พอไม่จบเลยไปไม่ถูกเลยทีนี้.......ใจผมยังย้ำอยู่ที่ว่าหม้อใหม่ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ

ลองเลียบๆเคียงๆถามพี่กิตติ กับพี่นะ เรื่องหม้อใหม่ดู (เพราะเป็นผู้ที่เปลี่ยนหม้อไปแล้วเหมือนผม) ..... ถามพี่กิตติ อารมย์แกก็ประมาณว่าเฉยๆ หม้อใหม่ก็ทำให้ร้อนช้าลง ความร้อนไม่เดินเร็ว แต่ก็ไม่ได้ลดความร้อนลงได้จากเดิม....ส่วนพี่นะนี่อารมย์แกชอบหม้อใหม่นี่เลยหละ....ประมาณว่าระบายเร็วมาก...กดมามากๆ ยกแป๊บเดียว ความร้อนระบายไปเยอะเลย....ทั้ง 2 คันดูจะไม่มีปัญหาเลยฟระ.....สงสัยงานนี้หนูทดลองตัวแรกอย่างผมจะตายเดี่ยวซะละมั้ง  :L4386: :L4386:

ใจผมนี่ตั้งธงไว้เลยนะว่าหม้อน้ำใหม่นี่แหละเป็นผู้ต้องหาแน่ๆ.....แต่รถพี่กิตติกับพี่นะไม่มีปัญหา...เลยคิดว่าหรือจะเป็นที่หม้อน้ำลูกที่เปลี่ยนให้เราลูกเดียวที่มีปัญหา......ตอนผมเปลี่ยนหม้อน้ำ ไปเปลี่ยนพร้อมพี่นะ....มีหม้อน้ำวางอยู่ 2 ลูก....ลูกนึงช่างหยิบมาใส่รถผม อีกลูกหยิบไปใส่แมวป่า.....โอโห....โอกาส 50/50 กรูจะซวยปานนั้นเลยเหรอวะ ดันหยิบได้ลูกที่มีปัญหา......พอคิดทบทวนไปมา....ชักเอะใจ......เออวะ.....วันที่เปลี่ยนหม้อน้ำรถผมก็มีอาการแปลกๆ.....ในวันที่เปลี่ยนหม้อน้ำนั้น....รถผมเปลี่ยนก่อนแมวป่า.....เปลี่ยนเสร็จวิ่งไปลอง.....ออกจากร้านยังไม่ทันพ้น 500 เมตร ความร้อนขึ้นสูงมาก สมาร์ทเกทถึงขั้นร้องเตือน....ต้องรีบวนกลับมาที่ร้านใหม่.....ตอนนั้นคิดว่าไล่อากาศไม่ดีความร้อนถึงขึ้น (อาการคล้ายกับเวลาเช็ค 40000 โล เปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำ แล้วช่างไล่อากาศไม่ดี)......คิดไปคิดมา....เออวะ...รถเรามีอาการไม่ปกติจริงๆ ตั้งแต่วันเปลี่ยนหม้อน้ำแล้ว

อาการแรกที่พบ.....คือตอนไล่อากาศ.....ปกติเวลาไล่อากาศนั้น.....ต้องติดเครื่องไว้จนวาล์วน้ำเปิดซักพัก เพื่อให้ระบบน้ำมันวนเข้าไปในเครื่อง เพื่อไล่เอาอากาศออกมา.....ซึ่งการไล่อากาศครั้งแรกนั้น พอวาล์วน้ำเปิด มันจะดันอากาศออกมาเยอะเลย....และดูน้ำกลับเข้าไปเยอะเช่นกัน (การไล่อากาศตามแบบพี่นะนะครับ คือเอาขวดโค๊กใส่น้ำคว่ำไว้ที่ฝาหม้อน้ำ พอวาล์วน้ำเปิดมันจะดูดน้ำในขวดเข้าไปแทนอากาศเยอะเลย)......น้องปาเราวาล์วน้ำเริ่มเปิดที่อุณหภูมิ 82 องศา.....แต่รถผมวันที่เปลี่ยนหม้อ....พอไล่อากาศ...อุณหภูมิที่ 82 องศา.....วาล์วน้ำเปิด....แต่ไม่มีอาการดูน้ำเข้าไปเยอะๆเลย....มันเหมือนค่อยๆดูดทีละนิด ทีละนิด....ไม่ดูดเข้าไปทีเดียวเยอะๆ.....การไล่อากาศแบบนี้ผมก็เคยทำเองครับตอนที่เช็ค 40000 โลเสร็จ....กลับมาไล่ที่บ้าน พอความร้อนอยู่ที่ประมาณ 80 กว่าๆ.....มันก็ดูดน้ำเข้าไปเพียบเลย....แต่ตอนที่ไล่อากาศหลังจากเปลี่ยนหม้อแล้วไม่มีการดูดน้ำเข้าไป

อีกอาการที่พบคือตอนออกไปทดสอบขับหลังจากเปลี่ยนหม้อน้ำ.....ช่างที่เปลี่ยนหม้อน้ำนั่งไปในรถด้วย....อาการที่พบและแปลกมาก ช่างก็บอกว่าแปลก....คือหลังจากเปลี่ยนหม้อน้ำแล้วความร้อนก็ยังอยู่ในระดับเหมือนตอนยังไม่เปลี่ยนหม้อน้ำ....ไม่ได้ลดลง...อันนี้ไม่แปลกนะครับ....แต่ที่แปลกคืออาการขึ้นลงของความร้อน....คือความร้อนของรถผมหลังจากเปลี่ยนหม้อน้ำแล้ว เวลาชลอรถ ความร้อนมันไม่ลงเร็วเหมือนกับที่ช่างเคยบอก...มันลงเหมือนกันแต่ลงช้าๆ.....แต่จะลงเร็วขึ้นเมื่อเหยียบคันเร่งอีกครั้งหลังจากชลอรถลงมา....ความร้อนมันจะลงไปนิดนึง...และถ้ากดคันเร่งต่อมันก็จะกลับขึ้นมาอีกเหมือนเดิม.....ทดสอบอยู่หลายรอบ...วิเคราะห์กันอยู่นาน....ช่างเองก็ยังงงๆ....พอกลับจากลองรถ พอดีที่ร้านหม้อน้ำมีคนมานั่งอยู่ 3-4 คน หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นช่าง ถ้าผมจำไม่ผิดเป็นช่างของศูนย์โตโยต้า.....ช่างที่เปลี่ยนหม้อน้ำก็เอาอาการรถผมไปเล่าให้ฟัง.....ช่างโตโยต้าเขาตอบสวนมาว่า อาการคล้ายๆ พัดลมฟรีปั๊มจะเสียหรือทำงานไม่เต็มที่หรือเปล่า.....ช่างก็เลยลองเอามือไปหมุนๆพัดลมฟรีปั๊มดู....หมุนที่รถผม แล้วก็ไปหมุนที่แมวป่า....ช่างบอกว่าก็เหมือนกันนะ...พัดลมฟรีปั๊มไม่น่ามีปัญหา (ปกติการทดสอบพัดลมฟรีปั๊มคือการลองเอามือไปหมุนพัดลมตอนดับเครื่องอยู่ จะรู้สึกว่าพัดลมมันฝืดๆ เหนี่ยวๆ  นั่นคืออาการปกติ แต่ถ้าหมุนแล้วพัดลมมันหมุนไปง่ายๆ อันนี้มีปัญหาครับ เขาเรียกว่าพัดลมมันฟรีเกินไป)

หลังจากทบทวนเหตุการณ์แล้ว ผมเลยได้ผู้ต้องหามาอีก 2 คือ วาล์วน้ำ และพัดลมฟรีปั๊ม.....เอาวะ....ก่อนจะโทษหม้อน้ำ....ลองจัดการทดสอบกับไอ้ 2 ผู้ต้องหานี้ก่อนแล้วกัน....ใจผมคิดอย่างนั้นคือ....ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนหม้อน้ำเดิมกลับมาประจำการณ์....ขอลองจัดการกับไอ้ 2 ผู้ต้องหานี้ก่อน....ถ้าจัดการแล้วยังไม่ดีขึ้น สงสัยได้ฤกษ์ไปขอหม้อน้ำเดิมแมวป่ามาใส่แหงๆ
:L2754: :L2754: :L2754:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ไม่ไหวละ หนีไปนอนก่อนนะครับ เมื่อคืนเกือบไม่ได้นอนทั้งคืน......ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ติดตามครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ

 :L2734: :L2734: :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
ตอนที่3 เมื่อมารร้าย 2 ตัวมาพร้อมกัน

ผบ. นี่เธอไปทำอะไรกับรถ เดี๋ยวความร้อนขึ้น เดี๋ยวเกียร์ล็อค ตกลงไปแต่งรถให้ดีขึ้นหรือแย่ลง


ผมรู้ดีว่าคำนี้มีนัยยะว่าอะไร เพราะในรถผมก็มี เสียงคล้ายๆนี้เลย 5555 :L2905: :L2905: :L2905:
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่จ่า Jatot

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,038
  • Like: 48
  • เพศ: ชาย
ตั้งแต่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ อาการความร้อนขึ้นเป็นเพราะหม้อน้ำหนาเกินไป
ทำให้อากาศที่จะผ่านหม้อน้ำเพื่อซับความร้อนออกไปด้วยนั้นไปด้วยความช้ากว่าจะแทรกตัวออกไปได้
ต้องใช้เวลาเพราะความหนาของหม้อน้ำ ในเมื่ออากาศผ่านยากก็จะทำให้น้ำในหม้อน้ำสะสมความร้อน
จะสังเกตุได้จากความเร็วรอบเครื่องสูงจะร้อนมาก ถ้าเบาเครื่องความร้อนก็จะลดลง
ยืนยันว่าหม้อน้ำหนาขึ้นไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี
 ส่วนหม้อน้ำชั้นเดียวอากาศสามารถผ่านได้โดยสะดวกก็สามารถจะเอาความร้อนออกไปด้วย
นั่นก็หมายความว่าความร้อนของน้ำก็จะระบายไปกับอากาศที่ผ่านตัวมันเอง
จากการที่เคยใช้หม้อน้ำประเภทนี้มาก่อนจึงรู้ว่าหม้อน้ำชั้นเดียวระบายความร้อนได้ดีกว่าสามชั้น
ลองดูจากรูปลองวิเคราะห์การผ่านของอากาศ
ผมฟันธงว่าเป็นเพราะความหนาของหม้อน้ำแน่นอน อย่าให้ ผบ.มาอ่านล่ะหม้อน้ำระเบิดแน่ๆๆๆ 555


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤษภาคม 2013, 09:02:44 โดย พี่จ่า jatot »
คนเราแก่ได้เพียงตัวเลข แต่จิตใจห้ามแก่
เมื่ิอจิตใจไม่แก่  ร่างกายก็ไม่แก่

ปั่น ปั่น ไป ไม่ไหวก็จูง
Pajero Sport 4WD

ออฟไลน์ พี่ดล (2523)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,675
  • Like: 21
  • เพศ: ชาย
  • ปั่นหัวใจ ให้เข้มแข็ง
ดูจากภาพ ก็หน้าจะเป็น อย่างที่พี่จ่า วิเคาะห์ครับ  :L2900:

และก็มารอ พี่ตูมตาม ตอนต่อไปครับ :L4365: ชอบจริงๆอ่านแล้วได้ความรู้ที่เป็น จริง ใช้ จริง เอา :L6428: ไปเลย :L2888:
มิตรภาพซื้อไม่ได้  ต้องใช้ใจซื้อ

ออฟไลน์ พี่ปุ้ม-PUM_Winyoo

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 147
  • Like: 10
  • เพศ: ชาย
  • กินอิ่ม นอนอุ่น หุ่นช่างมัน ออฟชั่นครบ
ใก้ลไคลแมกแล้ว :L2888:
อุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสุขจากการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ วิญญู นามโคตร LineId winyoomaxx โทร0816617272 กรุงไทย      881 0 23116 3
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4139.msg163276/topicseen.html#msg163276

ออฟไลน์ พี่ตุ้ย_Yindee

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Like: 49
  • เพศ: ชาย
  • ไปทุกที่ด้วยPAJERO SPORT

รอชมบทสรุปครับ,ความรู้เพียบ

 :L2900: :L2900: :L2758: :L2758:
:sd24: I LOVE PA_MANIA  :L4398: :sd24: "Pamania เพื่อนกันตลอดไป"

ออฟไลน์ พี่ลีโจ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,876
  • Like: 59
  • เพศ: ชาย
  • โจ-เทียนทะเล
มาไวๆนะจ๊ะพี่จ๋า  น้องรออยู่ :L2897:
รบกวนพี่ๆแก้ไขปรับเปลี่ยนรูปส่วนตัวด้วยครับดูตัวอย่าง กดที่ link ด้านล่าง

http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1551.0.html

ออฟไลน์ พี่นาย-nine

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 746
  • Like: 25
    • http://www.facebook.com/DisklessThailand#!/DisklessThailand
สู้ๆ ครับพี่ตูมตาม ยอมรัีบเลยครับ  :L2900: เจอวิกฤตมากมาย ยังอึดสู้ ไม่ถอย รอชม ตอนอวสาน แบบ happy ending ครับ

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ตอนที่9 จับผู้ต้องหาตัวแรก

ใจผมคิดแบบพี่จ่าเลยครับตอนนั้น.....ถึงจะไม่ได้แน่ใจว่ามันเป็นเพราะมันหนาอากาศผ่านมาไม่ดีหรือเปล่า...แต่คิดว่าคงต้องมีปัญหาบางอย่าง....เพียงแต่ก่อนที่จะลงทุนไปรื้อหม้อออกมาวิเคราะห์ดูอีกครั้ง....ผมคิดว่าจะต้องทดสอบปัจจัยอื่นๆดูก่อน....ถ้าทุกปัจจัยนั้นมั่นใจแล้วว่าไม่ส่งผลถึงความร้อน....ก็คงต้องรื้อหม้อน้ำตัวนี้ออกมาวิเคราะห์กันอีกซักทีละครับ......ผมถึงฉุกคิดถึงอาการแปลกๆตอนเปลี่ยนหม้อน้ำ....และได้ผู้ต้องสงสัยมา 2 ที่ อย่างที่เล่าให้ฟังไปในตอนที่ 8 ครับ.....ก่อนจะรื้อเอาหม้อน้ำออกมาดู.....ขอ confirm เจ้า 2 ผู้ต้องหานี้ก่อนครับ

เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี....รถผมถึงคราวต้องเช็คระยะ 60000 โล....ก็ไปเข้าที่ศูนย์เดิมที่ใช้ประจำ.....ต้องขอย้อนอดีตให้ฟังนิดนึงครับ....ที่ศูนย์นี้เป็นศูนย์ประจำที่ผมเข้าครับตั้งแต่ได้รับรถ.....หัวหน้าช่างชื่อพี่หน่อย...รู้จักกันพอสมควร....พี่หน่อยเคยนั่งรถผมไปทดสอบความร้อนด้วยกันตอนเช็ค 40000 โล.....ผมเล่าให้ฟังถึงอาการผิดปกติของความร้อน....พี่หน่อยเป็นคนนึงที่แนะนำผมว่า "เปลี่ยนหม้อน้ำน่าจะจบ"......ซึ่งก็เหมือนกับอีกหลายๆข้อมูลที่ผมได้รับมานั้นก็แนะนำว่า.....การเปลี่ยนหม้อน้ำน่าจะจบ

เข้าศูนย์คราวนี้.....หลังจากผู้ช่วยคุณน้ำผึ้ง ฝ่ายบริการลูกค้ามารับรถ ชี้แจงรายการเรียบร้อย....เหมือนทุกครั้ง....ผมไม่เคยนั่งรอในห้องรับรอง....เดินเข้าไปในส่วนช่างครับ....เจอพี่หน่อยกับลังง่วนอยู่กับเจ้าไทรทันที่มีเป็นคิวแรกของวันนี้......ผมก็เลยเดินเข้าไปทักทาย

ผม             หวัดดีครับพี่หน่อย
พี่หน่อย       สวัดดีครับ อ้าว วันนี้มาทำอะไร
ผม             มาเช็ค 60000 ครับพี่
พี่หน่อย       อ๋อ 60000 แล้วเหรอ เช็คไม่นานครับ เดี๋ยวให้ช่างจัดการให้
ผม             เออ....พี่หน่อย ผมไปเปลี่ยนหม้อน้ำมาแล้วนะพี่
พี่หน่อย       เหรอ...แล้วความร้อนเป็นไง
ผม             ไม่หายครับพี่ มันยังขึ้นอยู่ แต่แปลกครับพี่ มันขึ้นเฉพาะขับความเร็วสูงๆ เท่านั้นครับ
พี่หน่อย       อ้าว....แปลก.....ไหนขอดูหม้อน้ำใหม่ก่อน (พี่หน่อยละมือจากน้องตั้น มาที่รถผม ก้มๆเงยๆดูหม้อน้ำใหม่)

พี่หน่อย        หม้อใหม่ก็ทำมาดีนะ มีช่องน้ำมันเกียร์ด้วย ปกติร้านทั่วไปเขาไม่ทำกันนะ เขาแยกน้ำมันเกียร์ออกไปเลย
ผม              ครับพี่หน่อย....ร้านที่ไปทำนี่เช็คข้อมูลแล้วว่างานดีมากนะพี่....แต่ยังไม่หาย
พี่หน่อย        แล้วเวลาเดินเบา หรือรถติดไม่ร้อนเหรอ
ผม              ไม่ครับ เวลารถติดความร้อนก็ปกติ ไม่เคยขึ้น
พี่หน่อย        เดี๋ยวลองเช็คส่วนอื่นๆดูก่อน

ระหว่างที่คุยกัน พี่หน่อยก็เรียกช่างอีกคน (ช่างคนนี้เคยเป็นคนทำรถพี่กิตติ ตอนที่พี่กิตติเข้าศูนย์นี้ครั้งที่แล้ว) ช่างคนนี้ผมยังไม่รู้จักมากนัก เพราะเพิ่งมาใหม่ เข้าใจว่าย้ายมาจากอีกศูนย์นึงในเครือเดียวกัน.....พี่หน่อยสั่งให้ช่างลองเช็คดูว่ามันมีตรงไหนของระบบระบายความร้อนมีอาการแปลกๆไหม.....ผมไม่ได้บอก หรือเล่าให้ฟังถึงเจ้าผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้พี่หน่อยฟังเลยนะครับ....อยากลองดูการวิเคราะห์ของช่างศูนย์ดูว่าจะคิดเหมือนผมหรือเปล่า

อันดับแรกพี่หน่อยสั่งให้ช่างลองไปเช็คพัดลมฟรีปั๊มก่อน....พี่หน่อยแกบอกว่า....อาการความร้อนสูงตอนความเร็วสูงนี้อาจเป็นที่พัดลมฟรีปั๊มน้ำยาหมดได้เหมือนกัน....คือพัดลมมันฟรีเกินไป....เวลาเหยียบคันเร่ง แทนที่พัดลมมันจะหมุนมากขึ้นเร็วขึ้นตามรอบที่สูงขึ้น มันกลับหมุนเท่าเดิม คือมันฟรีแล้ว...น้ำยาอาจพร่องได้.......ช่างก็ไปลองจับพัดลมหมุนๆ ดู เหมือนกันที่ผมลองหมุนดูตอนอยู่ร้านหม้อน้ำ.....ช่างก็บอกว่ามันฝืดๆอยู่นะ ยังไม่น่าจะฟรี.......พี่หน่อยรีบบอก....เฮ้ย....พัดลมปาเจโร่เช็คอย่างงี้ไม่ได้ ไม่รู้หรอกว่าฟรีหรือเปล่า......อ้าว...เฮ้ย....ผมคิดในใจว่า...มันมีวิธีเช็ควิธีอื่นด้วยเหรอวะ....เห็นใครๆก็เช็คกันแบบนี้.....พี่หน่อยจัดการให้ช่างเช็คตามขั้นตอนที่แกสั่งทันที

วิธีการเช็คพัดลมฟรีปั๊มตามวิธีของพี่หน่อย หัวหน้าช่างที่ศูนย์ที่ผมเข้าประจำ.....แกให้สตาร์ทเครื่อง.....พอสตาร์ทเครื่องแล้วพัดลมฟรีปั๊มมันก็จะหมุน.....แกให้เหยียบคันเร่งไปที่ 2500 รอบ......เสร็จแล้วแกก็สั่งให้ "ดับเครื่อง"....คือพอเหยียบถึง 2500 รอบแล้ว....ให้ดับเครื่องทันที....แล้วลองดูที่พัดลมฟรีปั๊ม.......พี่หน่อยบอกว่า ถ้าพัดลมฟรีปั๊มทำงานปกติ.....พอดับเครื่องแล้วพัดลมต้องหยุดทันที....คือมันจะหมุนต่อไปอีกนิดเดียว นิดเดียวจริงๆครับ หมุนต่อไปไม่ถึงรอบ....พัดลมต้องหยุดหมุนสนิท......แต่รถผม....พอดับเครื่อง พัดลมฟรีปั๊มยังหมุนต่อไปอีกหลายรอบเลย....มันหมุนต่อไปแล้วค่อยๆช้าลงจนหยุด.....พี่หน่อยแกสรุปทันที น้ำยาพัดลมฟรีปั๊มพร่องแน่ๆ......แต่ผมยังไม่แน่ใจ....วิธีอะไรหว่า ไม่เห็นเคยได้ยิน....มั่วกรูหรือเปล่าฟระงานนี้

ผม            พี่หน่อย จริงๆหรือเปล่าพี่ วิธีนี้ผมไม่เห็นเคยได้ยิน มันมีวิธีเช็คอย่างงี้ด้วยเหรอ
พี่หน่อย      อ้าว....ไม่เชื่ออีก
ผม            แหม...ไม่ใช่ไม่เชื่อครับพี่...แต่เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละว่ามีวิธีเช็คพัดลมแบบนี้ด้วย
พี่หน่อย      เอาน่า เชื่อซิ.....ถ้าพัดลมปกติ มันต้องหยุดหมุนตอนดับเครื่องทันที
ผม            งั้นแสดงว่ารถคันอื่นถ้าเช็คแบบที่พี่บอกก็ต้องหยุดหมุนทันทีเหมือนกันซิ
พี่หน่อย      ใช่ เหมือนกัน
ผม             (ผมคิด) เออ....เว้ย....สงสัยจะไม่มั่วเรา ท้าแบบนี้แล้วยังมั่นใจ
ผม             งั้นพี่หน่อยลองให้ดูซักคันได้มั๊ย ปาเจโร่จอดอยู่ตั้งหลายคัน ลองให้ดูหน่อยซิพี่
พี่หน่อย       ได้...เดี๋ยวลองให้ดู

ว่าแล้วพี่หน่อยแกก็ไปเอากุญแจของน้องปาคันหนึ่ง ที่จอดรอส่งมอบอยู่ ยังไม่มีทะเบียน มีช่างฟิลม์กำลังติดฟิล์มกันอยู่.....กุญแจอยู่ที่เซล เพราะเซลต้องเปิดรถให้ช่างฟิล์ม....พี่หน่อยบอก เดี๋ยวลองคันนี้ให้ดู จะได้ไม่ต้องไปเอากุญแจที่หัวหน้าเซล ขอเซลลองง่ายกว่า......เซลโชว์รูมนี้ก็จำผมได้เกือบทุกคนครับ....เพราะผมคุ้นเคยกับฝ่ายอะไหล่กับฝ่ายบริการลูกค้า ปกติก็มานั่งคุยเล่นกับฝ่ายอะไหล่ประจำ.....เซลเดินไปเดินมาแถวๆนั้นก็จำผมได้....พี่หน่อยแกไปขอกุญแจจากเซล....เซลหันมามองผม....แล้วก็ให้กุญแจมาแต่โดยดี......ก็เลยได้เอามาลองกัน....ทำตามแบบเดิมเปี๊ยบเลย...สตาร์ทเครื่อง เร่งเครื่องไปที 2500 รอบ.....ดับเครื่องทันที.....มีเสียงดังแก๊ก.....พัดลมมันหยุดหมุนทันทีเลยเหมือนกัน.......เฮ้ย.....มันหยุดทันทีจริงๆนะครับ....จังหวะดับเครื่องปุ๊บ มันหมุนต่อไปนิดเดียวเอง แล้วมันก็หยุดหมุนเลย......ว้าาาาาาว amazing.....ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเช็คพัดลมฟรีปั๊มกันแบบนี้....เห็นใครๆก็ได้แต่เอามือหมุนๆดู....เอาเว้ย....ท่าจะจริงละทีนี้....พัดลมฟรีปั๊มน้องเต่าขาวท่าทางจะเดี้ยงจริงๆ

 :L4373: :L4373: :L4373: ผู้ต้องหารายที่ 1 ได้ตัวละ.....อย่าลืมนะครับ ผมไม่ได้บอกว่าผมคิดว่ามันจะเสีย....เป็นการวิเคราะห์ของพี่หน่อยกับช่างที่ศูนย์บริการเอง....ซึ่งก็มาตรงกับสมมติฐานของผมพอดี......เสร็จละ ได้มา 1 ตัวละ
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
สำหรับวิธีการเช็คพัดลมฟรีปั๊ม....พี่ๆที่สนใจเอาไปลองเช็คกับน้องปาได้ครับ....ลองดูแล้วผลเป็นอย่างไรลองมาแชร์กันครับ

 :L2736: :L2736: :L2734: :L2734:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ดล (2523)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,675
  • Like: 21
  • เพศ: ชาย
  • ปั่นหัวใจ ให้เข้มแข็ง
สำหรับวิธีการเช็คพัดลมฟรีปั๊ม....พี่ๆที่สนใจเอาไปลองเช็คกับน้องปาได้ครับ....ลองดูแล้วผลเป็นอย่างไรลองมาแชร์กันครับ

 :L2736: :L2736: :L2734: :L2734:
ขอบคุณ มากครับ พี่ตูมตาม  :L2900: เลย ผมต้องไปเช็คดูบ้างแล้ว ของผมวิ่งมา 53,000โลแล้ว :L2734:
มิตรภาพซื้อไม่ได้  ต้องใช้ใจซื้อ

ออฟไลน์ พี่ลีโจ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,876
  • Like: 59
  • เพศ: ชาย
  • โจ-เทียนทะเล
สำหรับวิธีการเช็คพัดลมฟรีปั๊ม....พี่ๆที่สนใจเอาไปลองเช็คกับน้องปาได้ครับ....ลองดูแล้วผลเป็นอย่างไรลองมาแชร์กันครับ

 :L2736: :L2736: :L2734: :L2734:
ไปเช็คเดียวนี่เลยดีก่า :sd23:
เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วครับหมุนติ้วเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤษภาคม 2013, 16:58:49 โดย พี่ลีโจ »
รบกวนพี่ๆแก้ไขปรับเปลี่ยนรูปส่วนตัวด้วยครับดูตัวอย่าง กดที่ link ด้านล่าง

http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1551.0.html

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ตอนที่10 จับผู้ต้องหารายที่2

เอาละครับ....ได้ผู้ต้องหารายที่ 1 แล้วครับ พัดลมฟรีปั๊ม.....ทีนี้มาผู้ต้องหารายที่2......สมมติฐานของผมคือวาล์วน้ำ.....เนื่องจากตอนไล่อากาศ อาการมันแปลกไป อย่างที่เล่าให้ฟังแล้วในตอนก่อนหน้านี้.....แต่เจ้าวาล์วน้ำนี่มันไม่ได้จับง่ายเหมือนพัดลม......ตัวพัดลมยังมีวิธีการทดสอบ....แต่วาล์วน้ำมันอยู่ข้างในท่อน้ำออกจากเครื่อง....มีรู้จะทดสอบยังงัย.....ผมก็เลยลองให้ข้อมูลพี่หน่อยแกเพิ่มอีกหน่อย....ดูว่าแกจะวิเคราห์ยังงัย

ผม         เออ....พี่หน่อย...เครื่องปาเจโร่นี่วาล์วน้ำเปิดที่ความร้อนเท่าไหร่ครับ
พี่หน่อย   ประมาณ 82
ผม          ผมว่ามันมีอาการแปลกๆครับพี่
พี่หน่อย    ยังงัย
ผม          ตอนเปลี่ยนหม้อน้ำเสร็จเติมน้ำใหม่....ผมไล่อากาศ....ความร้อน 80กว่าๆ แล้วมันยังไม่ดูดน้ำเข้าไปเลยครับพี่
พี่หน่อย    ไล่ยังงัยครับ
ผม          ผมก็เอาน้ำใส่ขวดโค๊ก แล้วคว่ำไว้ที่ฝาหม้อน้ำ...ผมเคยไล่อากาศเองทีนึงแล้วนะพี่....ความร้อน80 กว่ามันจะดูดน้ำเข้าไปเยอะเลย....แต่ตอนเปลี่ยนหม้อน้ำมันไม่ดูดน้ำเข้าไป
พี่หน่อย     แล้วมันมีอากาศออกมามั๊ย
ผม           มีครับพี่ แต่มันค่อยๆออกมากทีละหน่อย...มันไม่ดูดเข้าไปทีเดียวเยอะๆเหมือนที่เคยทำ
พี่หน่อย     ถ้าแบบนี้มีสิทธิ์วาล์วน้ำอาจจะเปิดได้ไม่เต็มที่ มันอาจจะติดหรือเสื่อม แต่ยังไม่น่าจะตายเพราะถ้าวาล์วน้ำตายรถคุณต้องฮีทไปแล้ว
ผม            (คิด) เอาวะ....เข้าเค้าละโว้ย....สงสัยจะได้ผู้ต้องหารายที่2

ผม           แล้วมันจะเช็คยังงัยละพี่
พี่หน่อย     เช็คไม่ได้ ต้องถอดออกมาดู แต่ดูก็ไม่รู้หรอก แต่วาล์วน้ำปาเจโร่นี่มันไม่ค่อยจะเสียนะ ไม่เคยเห็นมีใครมาเปลี่ยนวาล์วน้ำกันเลย
ผม           แล้วยังงัยดีครับพี่หน่อย จะทำยังงัยถึงจะรู้ละว่ามันเสียหรือเปล่า
พี่หน่อย     ก็ต้องลองเปลี่ยนดู
ผม           งั้นพี่หน่อยจัดการเลยได้มั๊ย เปลี่ยนไปเลยพี่ ผมอยากลองเหมือนกัน
พี่หน่อย     จะเคลมหรือจะสั่งมาเปลี่ยนเลยละ
ผม            มันตรวจไม่ได้ว่าเสียหรือเปล่า เคลมท่าจะลำบากมั้งพี่
พี่หน่อย      ลำบาก ไม่ค่อยมีใครเคลมกันหรอกตัวนี้เพราะมันดูยากว่าเสียหรือเปล่า
ผม            งั้นไม่ต้องยุ่งยากเคลมละพี่ เปลี่ยนไปเลยละกัน ตัวเท่าไหร่ครับ
พี่หน่อย      700-800 ละมั้ง จำไม่ได้
ผม             โหพี่ตัวละ 700-800 กับรถเป็นล้าน เปลี่ยนไปเลยพี่ไม่ต้องเคลม เดี๋ยวผมจ่ายเอง
พี่หน่อย       ok ได้ เดี๋ยวจัดการให้ แต่ต้องรอนะ ไม่มีอะไหล่หรอกตัวนี้ ต้องสั่ง

เอาละครับ มันเริ่มเข้าเค้าว่าไอ้เจ้าวาล์วน้ำนี่เป็นอีก 1 ผู้ต้องหาจากอาการที่ผมเล่าให้พี่หน่อยฟัง....แต่จับยากครับ...มันต้องลองเปลี่ยนเท่านั้น แล้วลองใช้ดูถึงจะรู้ว่ามันเสียหรือเปล่า.....ด้วยความต้องการที่จะพิสูจน์สมมติฐานของผม....เรื่องเคลมผมไม่สนใจครับ.....มัวแต่แจ้งเคลม...ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้.....เกิดมันเป็นปัญหาจริงๆ แล้วมันเกิดตายไปก่อน...รถไปฮีทกลางทาง....งานจะเข้าอีกหลายอย่าง......ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปเลยไม่ต้องทำเรื่องเคลม....700-800 บาท ไม่เป็นไรช่างมัน จะได้รู้ว่ามันเสียจริงๆหรือเปล่า......หลังจากตัดสินใจแล้ว และคุยกับพี่หน่อยเรียบร้อย....ผมก็เดินไปที่ฝ่ายอะไหล่...คุยกับฝ่ายอะไหล่ได้ความว่าของไม่มีต้องรอสั่ง......และได้ข้อมูลมาอีกว่าเจ้าวาล์วน้ำตัวนี้ไม่ค่อยได้ใช้ ทางศูนย์เลยไม่มีการเก็บสต็อกเอาไว้......ฝ่ายอะไหล่ยังงงๆ เห็นพี่หน่อยมาสั่งเจ้าวาล์วน้ำตัวนี้ เพราะไม่ค่อยได้เปลี่ยนให้ลูกค้าเลย....แต่เห็นพี่หน่อยมาสั่งไว้ เดี๋ยวจะสั่งให้....ผมขอให้ฝ่ายอะไหล่ลองเช็คดูว่าจะนานแค่ไหนกว่าจะได้อะไหล่......ได้ความมาว่า น่าจะหลายวันอยู่....เพราะอะไหล่ตัวนี้ไม่ค่อยมีใครสั่ง...ไม่แน่ใจว่าทางมิตซูจะมีของหรือเปล่าด้วยเหมือนกัน.....เหอๆๆๆๆ รออีกละ....นานละทีนี้

หลังจากเช็ค 60000 เสร็จเรียบร้อย....ก็ไปกำชับฝ่ายอะไหล่อีกที...ให้ช่วยเร่งให้หน่อย....รถมันยังพอใช้ได้ แต่อยากรีบเปลี่ยนมากกว่า....เกิดเป็นปัญหามากกว่านี้งานจะเข้า.....เครื่องเกิดฮีทขึ้นมาจะยุ่งกันใหญ่......สรุป....จากการเข้าศูนย์คราวนี้....ได้ 1 ผู้ต้องหา (พัดลม) และอีก 1 ผู้ต้องสงสัย (วาล์วน้ำ) ครับ......เดี๋ยวได้ของ....เปลี่ยนแล้วคงได้รู้กัน

 :L2734: :L2734:  :L2756: :L2756:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ชัย (wansasi)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 940
  • Like: 15
  • เพศ: ชาย
  • Love me love my dog
มารอตอนต่อไปครับ ได้ความรู้มากมายเลยครับ  :sd23:

ออฟไลน์ พี่จ่า Jatot

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,038
  • Like: 48
  • เพศ: ชาย
สรุปแล้วได้แพะมาสองตัว ถ้าหากไม่ใช่แพะก็ติดคุกฟรี
คนเราแก่ได้เพียงตัวเลข แต่จิตใจห้ามแก่
เมื่ิอจิตใจไม่แก่  ร่างกายก็ไม่แก่

ปั่น ปั่น ไป ไม่ไหวก็จูง
Pajero Sport 4WD